CARE4WATER พลังอาสาสมัครส่งมอบน้ำสะอาด..สร้างชีวิต
“น้ำ” มีความสำคัญกับทุกชีวิตบนพื้นโลก..เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่การจะมีน้ำสะอาดเอาไว้บริโภคเป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ในทุกครัวเรือน จริงอยู่ที่ว่าพวกเราอาศัยอยู่ในเมืองมีไฟฟ้า มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ และมีน้ำเอาไว้กินไว้ใช้ เพียงแค่เปิดก๊อกก็มีน้ำสะอาดเอามาใช้ได้สบายๆ แต่สำหรับในบางพื้นที่ห่างไกล “น้ำสะอาด” ยังเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยาก บางครัวเรือนอาศัยรองน้ำจากน้ำฝน หรือใช้น้ำจากแม่น้ำ ลำธาร ซึ่งไม่อาจรู้ได้ว่าน้ำที่ได้มานั้นมีความสะอาด และจะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย CARE4WATER
โครงการ “CARE4WATER” (แคร์ฟอร์วอเตอร์) จึงถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อมอบน้ำสะอาดบริสุทธิ์ให้กับทุกคน ซึ่งโครงการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส (ประเทศเยอรมนี) และองค์กร เวฟส์ ฟอร์ วอเตอร์ (Waves for Water) ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ (Non-Profit Organization) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ให้ความช่วยเหลือด้านโซลูชั่นในการจัดหาแหล่งน้ำสะอาดเพื่อนำมาใช้อุปโภคและบริโภค
ต่อมาทั้งสององค์กรได้ร่วมกันจัดกิจกรรมของโครงการ ด้วยการบริจาคเครื่องกรองน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ประกอบต่างๆ มอบให้ในพื้นที่ขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาดในเขตชนบททั่วประเทศ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ CARE4WATER ขึ้นในประเทศไทย และได้มีการก่อตั้งเป็น “มูลนิธิแคร์ฟอร์วอเตอร์” โดยกลุ่มพนักงานของบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2559
เจ้าเครื่องกรองน้ำแบบพกพา ตัวเล็กแค่นี้แหละ ที่ทำให้น้ำสะอาดได้อย่างน่ามหัศจรรย์
แพ็คเกจอุปกรณ์ประกอบใน 1 ชุด พร้อมวิธีการใช้งาน ราคา 2,500 บาท แต่ CARE4WATER นำไปแจกให้ใช้ฟรีๆ
โดยในปี 2558 เป็นช่วงเริ่มต้นโครงการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากพนักงานบริษัทเข้ามาเป็นอาสาสมัคร นำโดย พนักงานบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, เจ้าหน้าที่ขององค์กรเวฟส์ ฟอร์ วอเตอร์, ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ, พนักงานผู้จำหน่าย รวมทั้งจิตอาสาในท้องถิ่น ช่วยกันสำรวจหาเขตพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับบริโภค และให้การช่วยเหลือคนในชุมชนในเขตชนบนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ที่ไม่ใช่แค่นำเครื่องกรองน้ำไปมองให้เท่านั้น แต่ยังมีการติดตามผลการใช้เครื่องกรองน้ำเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจะมีน้ำสะอาดในการอุปโภคและบริโภค ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
อาสาสมัครของมูลนิธิ อธิบายวิธีการประกอบและการใช้งาน รวมทั้งการบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำ
ในการเข้าไปมอบเครื่องกรองน้ำ เหล่าอาสาสมัครยังมีหน้าที่สอนวิธีการติดตั้ง การใช้ การทำความสะอาด และการดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นวิธีการง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกคน เพื่อให้แต่ละคนสามารถนำไปถ่ายทอดไปยังคนอื่นๆ ในชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย
สอนวิธีการประกอบกันอย่างใกล้ชิด แถมอาสาสมัครยังมุกตลกเยอะอีกด้วย บรรยากาศจึงสนุกสนานกันตามเนื้อเรื่อง
โดยที่เครื่องกรองน้ำที่นำไปแจกนี้ เป็นเครื่องกรองน้ำแบบพกพาที่สามารถนำไปใช้ที่ไหนก็ได้ ไม่ใช้ไฟฟ้า ติดตั้งง่าย ใช้เพียงแรงโน้มถ่วงให้น้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ สามารถกรองตะกอนและแบคทีเรียในน้ำได้ ยกเว้นสารเคมีที่มากับน้ำเท่านั้น โดยที่ไส้กรองมีความละเอียดมาก ขนาด 0.1 ไมครอน เล็กกว่าเส้นผมถึง 1,000 เท่า (เส้นผมมีขนาดประมาณ 100 ไมครอน) แต่ให้ประโยชน์มหาศาล ซึ่งหากมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี เครื่องกรองน้ำแบบพกพา 1 ตัว จะสามารถกรองน้ำให้สะอาดได้มากกว่า 3,780,000 ลิตร เทียบเป็นขวดน้ำแบบขวดใหญ่ได้มากกว่า 1 ล้านขวด ซึ่งหากมีการดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของอาสาสมัครแคร์ฟอร์วอเตอร์ จะสามารถใช้งานได้นาน 5-7 ปี และหากใช้น้ำเพียงวันละ 250 ลิตร จะสามารถใช้ได้นานถึง 40 ปี เลยทีเดียว (เครื่องกรองน้ำขนาดพกพานี้ 1 ตัว รวมชุดอุปกรณ์ประกอบมีมูลค่า 2,500 บาท ต่อชุด)
จากน้ำขุ่นๆ กรองออกมาได้ใสสะอาดมากๆ
น้ำใสจริงๆ ดูกันชัดๆ แล้วนำมาดื่มได้ทันที สะอาดแน่นอน
เปรียบเทียบกันให้เห็นเลยว่าน้ำที่กรองแล้วกับยังไม่ได้กรองต่างกันแค่ไหน
ล่าสุดผู้เขียนมีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครไปมอบเครื่องกรองน้ำแบบพกพา ให้กับชุมชนถึง 2 ชุมชน ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีจุดศูนย์กลางนัดพบชุมชนอยู่ที่โรงเรียนบ้านกล้วย อ.ด่านช้าง ที่ห่างจากตัวเมือง จ.สุพรรณบุรี ไปอีกกว่า 140 กิโลเมตร และที่ห้องเรียนสาขาตะเพินคี่ โรงเรียนบ้านกล้วย ที่ต้องเดินทางขึ้นสู่ชุมชนกลางหุบเขา ต้องเข้าไปด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเส้นทางเป็นทางแบบออฟโรด ที่ห่างจากโรงเรียนบ้านกล้วยอีก 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางอีกกว่า 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงชุมชน
งานนี้แจกเครื่องกรองน้ำไป 101 ชุด จะมีชาวบ้านที่มีน้ำสะอาดเอาไว้ใช้หลายร้อยคน
โดยทั้งสองชุมชนที่เข้าไปมอบเครื่องกรองน้ำแบบพกพานี้ ขาดแคลนน้ำสะอาดทั้งใช้อุปโภคและบริโภค ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะใช้นำจากการรองน้ำฝน และจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีสิ่งสกปรกเจือปนอยู่เสมอ แต่เมื่ออาสาสมัครเข้าไปอธิบายถึงการใช้งานเครื่องกรองน้ำ รวมทั้งสอนวิธีการบำรุงรักษา ทำให้ชาวบ้านมีรอยยิ้มมากขึ้น และเมื่อได้เห็นน้ำขุ่นๆ ที่อยู่ในถัง ไหลผ่านเครื่องกรองน้ำกลายเป็นน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ พร้อมดื่มได้ทันที ยิ่งทำให้ชาวบ้านรู้สึกตื่นเต้น หลายคนตื้นตันใจ เมื่อรู้ว่าหลังจากนี้จะมีน้ำสะอาดเอาไว้ใช้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำดื่มที่ต้องเดินทางไกลไปซื้ออีกแล้ว เป็นความรู้สึกที่ดีใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ที่ได้เป็นหนึ่งในอาสาสมัครและมาถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ แบบนี้
รอยยิ้มของชาวบ้านที่ทำให้เหล่าอาสาสมัครมีพลังในการเข้าช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ในขาดแคลนน้ำสะอาดต่อไป
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มกิจกรรมโครงการ CARE4WATER ในปี 2558 ถึงปัจจุบัน (ธันวาคม 2562) มูลนิธิแคร์ฟอร์วอเตอร์ได้บริจาคเครื่องกรองน้ำแบบพกาไปแล้วถึง 6,201 ตัว ซึ่งเฉพาะปี 2562 มีการแจกไปแล้ว 1,181 ตัว มากกว่า 70 ชุมชนทั่วประเทศไทย และสามารถมอบน้ำสะอาดสู่ชาวบ้านในชุมชนไปมากกว่า 6 แสนคน นับว่าเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับมนุษยชาติได้อย่างมหาศาลเลยจริงๆ
อนึ่ง ผู้ที่สนใจให้การช่วยเหลือหรือมาร่วมเป็นอาสาสมัคร หรือจะบริจาคเงินสนับสนุนมูลนิธิฯ สามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิแคร์ฟอร์วอเตอร์ ทางอีเมล์ c4wthailand@gmail.com
เรื่อง/ภาพ : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th