CARRO มุ่งขยายธุรกิจทั่วโลก หลังจากได้รับเงินลงทุนจาก Shinhan กลุ่มธุรกิจการเงินของประเทศเกาหลีใต้เป็นมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 330 ล้านบาท)

CARRO ผู้นำด้านการซื้อ-ขายรถใช้แล้วบนแพลตฟอร์มออนไลน์ มุ่งขยายธุรกิจทั่วโลก หลังจากที่ล่าสุดได้รับเงินลงทุนมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 330 ล้านบาท) จากกลุ่มธุรกิจการเงินชินฮัน (Shinhan) จากประเทศเกาหลีใต้ ตอกย้ำการเป็นยูนิคอร์นรายแรกในตลาดซื้อขายยานยนต์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถยกระดับได้ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี

การระดมทุนล่าสุด (รอบ Series C1) บริษัทฯ ได้รับเงินลงทุนทั้งหมด 105 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 จากนักลงทุนชั้นนำมากมาย อาทิ Permodalan Nasional Berhad (PNB), Sime Darby Berhad รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติระดับโลก (Global Sovereign Funds) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Shinhan Global Investment Banking (Shinhan GIB) บริษัทวาณิชธนกิจของกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ มูลค่ากว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ  ซึ่งเป็นการลงทุนผ่านกองทุน One Shinhan Global New Technology Association Fund No. 2

สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย คาร์โร ได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในปี พ.ศ. 2561 ภายใต้ชื่อบริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดยานยนต์ใช้แล้วที่สำคัญและมีอัตราการเติบโตสูง โดยปัจจุบัน คาร์โร ประเทศไทย ให้บริการกับผู้ซื้อขายรถยนต์ใช้แล้วชาวไทยอย่างครบวงจร ทั้งระบบ

การรับซื้อรถยนต์ใช้แล้ว “CARRO Express” และการขายผ่าน “CARRO Automall” ที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาตรวจสอบคุณภาพรถมากถึง 200 จุด ก่อนส่งมอบ พร้อมการรับประกันอะไหล่นาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร และการการันตีเงินคืนใน 5 วัน

ล่าสุด คาร์โร ประเทศไทย เปิดตัว คาร์โร ออโต้มอลล์ (CARRO Automall) สาขาดอนเมือง แฟล็กชิพแห่งแรก ที่ใช้เทคโนโลยีและนำเสนอบริการครบครัน รวมถึงมีแผนขยาย CARRO Customer Experience Center บนพื้นที่ค้าปลีกยอดนิยมต่าง ๆ เพื่อให้ความสะดวกกับลูกค้าตามแผนการขยายธุรกิจรีเทล ที่ปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ สาขาโลตัส บางกะปิ, สาขาโลตัส ศรีนครินทร์, สาขาโลตัส พระราม 1 และสาขาโลตัส บางใหญ่

คาร์โร ออโต้มอลล์ สร้างสรรค์จากแนวคิดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ในการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองให้กับลูกค้า ด้วยการเชื่อมต่อ Ecosystem ของคาร์โร แบบไร้รอยต่อ (Seamless) อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการตรวจสอบรถยนต์จริงด้วยตัวเอง พร้อมให้บริการลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ

สำหรับความโดดเด่นของแฟล็กชิพแห่งแรก คาร์โร เน้นการสร้างพื้นที่ที่สามารถมอบประสบการณ์ในการซื้อ-ขายรถมือสองที่ตอบโจทย์ทุกลูกค้ามากที่สุด เริ่มตั้งแต่พื้นที่ต้อนรับที่เป็นมากกว่าพื้นที่ต้อนรับ ด้วยการพัฒนา และออกแบบให้สะท้อนถึงจุดเด่นของคาร์โร ในการใช้เทคโนโลยีแบบไร้รอยต่อด้วยเส้นสายพลังงาน (Energy Flow) และการเคลื่อนที่ของยนตกรรมด้วยความเร็ว เพิ่มเติมพื้นที่ให้บริการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่สวยงาม และเสริมประสบการณ์การรับมอบรถยนต์ให้พิเศษมากขึ้น ไม่ใช่การส่งมอบรถยนต์แบบเดิม ๆ อีกต่อไป โดยลูกค้าสามารถถ่ายภาพกับรถยนต์คันใหม่ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที ด้วยวัสดุผิวเมทัลลิคและวัสดุที่ช่วยเน้นความโดดเด่นของการออกแบบแสง ซึ่งได้นำมาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบเช่นกัน

นอกจากนี้ยังเน้นการออกแบบพื้นที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้า คือพื้นที่ “Customer Service” ในบรรยากาศที่อบอุ่น ด้วยการเน้นไม้สีอ่อนเป็นหลัก และสะกดสายตาด้วย เฟอร์นิเจอร์สีส้มซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคารโร และยังจัดเตรียมพื้นที่ “Relax & Private” เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ผ่อนคลายในคาร์โร ออโต้มอลล์ แห่งนี้อีกด้วย

คาร์โร ยังนำเทคโนโลยีมาเสริมให้ประสบการณ์การซื้อ-ขายรถยนต์ของลูกค้าดียิ่งขึ้น ด้วย Digital Interaction ที่มอบประสบการณ์การดูรถยนต์แบบเสมือนจริง ซึ่งสามารถเข้าถึงระบบ CARRO Market Place เพื่อชมรถยนต์ทุกคันในระบบของคาร์โรได้ทันที พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าได้ชมรถยนต์มือสองได้คมชัดที่สุดจากเทคโนโลยี “360 Turntable & Sound Engine” เป็นการถ่ายภาพรถยนต์แบบ 360 องศา ทั้งด้านนอก ด้านใน พร้อมเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงยังมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen เพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงยังจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถใช้วิดีโอคอลเพื่อตรวจสอบสภาพรถยนต์มือสองที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: คาร์โร ประเทศไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th