หนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ใช้รถบนถนน สำหรับเรื่องใบขับขี่หมดอายุถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วจะสามารถเคลมประกันได้ไหม เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้ใบขับขี่หมดอายุแต่การต่อทุก 5 ปี ก็อาจจะทำให้เราลืมๆ กันไปบ้าง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไรประกันรับเคลมไหมเรามาหาคำตอบกัน

ฝันร้ายอย่างหนึ่งที่เจ้าของรถไม่อยากจะพบเจอในช่วงฤดูฝนหรือเมื่อมีฝนตกหนักไม่ว่าจะฤดูใดก็ตามคือ หลังจากฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักแล้วพบว่า บริเวณที่จอดรถอยู่นั้นมีน้ำท่วมสูงจนเลยพื้นรถขึ้นมาหรือสูงในระดับครึ่งคันหรืออาจสูงกว่านั้น

อย่างที่รู้กันอยู่ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุในกรณีเมาแล้วขับ แล้วมีการตรวจเช็คเจอปริมาณแอลกอฮอล์มากกกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันรถยนต์ไม่ว่าเจ้าไหนก็ไม่มีใครรับผิดชอบแน่นอน แต่เชื่อว่าหลายๆ

เป็นที่ทราบกันในกลุ่มผู้ใช้รถอยู่แล้วว่า “รถที่ใช้งานทุกคันต้องมีประกันภัย พ.ร.บ.” เพราะว่ากฎหมายบังคับให้เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคันต้องทำประกันภัย พ.ร.บ. เพื่อเป็นหลักประกันหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนจะต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างทันที

ในช่วงสถานะการณ์ไม่ปกติ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องระวังเรื่องการจับจ่ายใช้เงิน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน นั่นก็คือการซื้อประกันรถยนต์ครั้นจะซื้อประกันราคาแพงๆ ก็ไม่ไหว เรามีข้อแนะนำการซื้อประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้อง ในภาวะปกติแบบใหม่หรือ New Normal ดังนี้

การแต่งรถนับเป็นเรื่องปกติขอคนรักรถ แต่บางคนยังกังวลอยู่ว่าถ้าหากแต่รถไปแล้วประกันยังคุ้มครองอยู่ไหม เพราะคิดๆ ดูแล้วการแต่งรถเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากการออกรถที่โชว์รูม ในเมื่อเป็นแบบนี้เรามาหาคำตอบกันดีกว่าว่า ถ้าแต่งรถเพิ่มแล้วประกันจะจ่ายไหมเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

“มีรถไม่แต่ง ยอมเดินดีกว่า” วลีเด็ดของคนชอบแต่งรถแต่รู้เปล่าว่า การแต่งรถบางอย่างไม่สามารถเคลมประกันได้ ถึงแม้ว่าจะซื้อประกันเพิ่มก็ไม่สามารถทำได้เพราะผิดเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เรามาดูกันดีกว่าว่าการแต่งรถแบบไหนที่ประกันภัยไม่คุ้มครอง

เมื่อประกันรถยนต์กำลังจะหมด สิ่งที่ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์มักทำคือพิมพ์คำว่า ประกันรถยนต์ ลงใน Google ซึ่งจะมีบริษัทตัวแทนประกันโผล่ขึ้นมามากมายให้ผู้ซื้อประกันเลือกเปรียบเทียบ ซึ่งหลายๆ คนอาจดูที่ค่าใช้จ่ายเป็นหลัก

การเกิดอุบัติเหตุบนถนนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อาจเกิดจากความประมาทของตัวเราหรือผู้ใช้ถนนทั่วไป จากมือใหม่หัดขับอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าผู้ที่ใช้ถนนบ่อยๆ

ศัพท์เกี่ยวกับประกันภัยที่เราได้ยินกันทั้ง Excess และ Deductible ปัญหาคือ มันต่างกันอย่างไรล่ะ มาที่คำแรกก่อนเลยครับค่า Excess มันก็คือ ค่ายอมรับความเสียหายที่เกิดจากการแจ้งเคลมต่อแผลที่ไม่มีคู่กรณี เช่น เราขับรถไปครูดฟุตบาทมาแล้วเราโทรแจ้งเคลมประกันรถยนต์ เจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งว่ามีค่า Excess ด้วย