Changan Thailand เปิดรถใหม่ สุดล้ำ เตรียมขายไทยเพียบ
Changan Thailand เปิดรถใหม่ สุดล้ำ เตรียมขายไทยเพียบ ฉางอาน ประเทศไทย เดินเกมส์รุกหนักหลังประกาศนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กน่ารักที่ใช้ชื่อว่า Lumin ขายไทยปลายเดือนมีนาคมนี้ภายในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 คาดว่าราคาไม่ถึง 5 แสนบาท พร้อมตามมาอีกหลายรุ่นในปีนี้ เรามาดูกันว่า ฉางอาน ประเทศไทย มีแผนนำรถยนต์รุ่นไหน แบรนด์อะไร มาจำหน่ายในไทยบ้าง Changan Thailand เปิดรถใหม่
LUMIN
บอกเลยว่างานนี้สนุกแน่นอนเพราะฉางอาน ประเทศไทย พร้อมนำรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้แบรนด์ Deepal โดยใช้ชื่อว่า Lumin เจ้าคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EPAO ซึ่งทาง Changan Automobile พัฒนาขึ้นมาสำหรับรถซิตี้คาร์และรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กโดยเฉพาะ เจ้าคันนี้เป็นคู่แข่งกับ Wuling Mini EV โดยตรง มิติตัวถัง ความยาวของตัวรถ 3,272 มม. กว้าง 1,700 มม. และสูง 1,545 มม. ระยะฐานล้อของรถมีความยาว 1,980 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ Lumin จะมีความยาวและความกว้างมากกว่า แต่จะเตี้ยกว่าเล็กน้อย
ด้านการออกแบบ Lumin ซึ่งเป็นรถแฮทช์แบ็กทรงกล่อง 3 ประตูมาในแนวเรียบสไตล์น่ารักด้วยไฟหน้าและไฟท้ายทรงกลม พร้อมมีช่องดักอากาศที่กันชนหน้า และมีพื้นผิวตัวถังรถที่เรียบเน้นเส้นสายที่เรียบง่ายบนตัวรถ แต่ก็ให้ความทันสมัยด้วยที่เปิดประตูแบบป็อปอัพ รวมทั้งล้อขนาด 14 นิ้วที่ถูกออกแบบให้ดูมีสไตล์ที่มาพร้อมกับยางขนาด 165/70 R14
ภายในรถสีสันสดใส มีจอกลาง LCD ทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้ว สามารถใช้งานเชื่อมต่อมือถือ เชื่อมต่อ Bluetooth และมีระบบเกียร์แบบหมุน สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ว่าจะใช้งานแบบ Sport หรือ ECO
ขุมพลังคาดว่าเวอร์ชั่นไทยจะเป็น ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 48 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium-ion LFP จาก CATL ขนาด 27.99 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 301 km. ต่อชาร์จ ความเร็วสูงสุด Top Speed 101 km/h ชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 3.3 kW และสามารถชาร์จกระแสตรง DC Fast Charging ได้
ส่วนเรื่องราคานั้นคาดการณ์ว่าจะไม่เกิน 5 แสนบาทอย่างแน่นอน พบคันจริงพร้อมจับจองได้ปลายมีนาคมนี้
AVATR
อีกหนึ่งแบรนด์ที่หลายคนรอคอยกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบพรี่เมี่ยมลักชัวรี่ อย่างแบรนด์ AVATR ที่เป็นแบรนด์รถหรูในสังกัด ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างสุดยอดแบรนด์ชื่อดังจาก 3 ค่าย อย่าง CHANGAN Automobile , และ Huawei ที่ตอนแรกหลายคนคาดว่าจะเปิดจองและจำหน่ายในปลายมีนาคมนี้เช่นกัน แต่น่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
เพราะเจ้า AVATR 11 จะมีกำหนดการเปิดจำหน่ายในประเทศไทยหลังจาก LUMIN คาดว่าน่าจะช่วงเดือนมิถุนายน –กรกฎาคม 2024 โดยการจำหน่ายเจ้า AVATR นั้นจะไม่มีอยู่ภายใต้แบรนด์ DEEPAL จะมีการแยกดีเลอร์ และรูปแบบการจำหน่ายอย่างชัดเจน ประมาณ TOYOTA กับ LEXUS ครับ เพราะเจ้า AVATR เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบพรี่เมี่ยมลักชัวรี่ ซึ่งวางตำแหน่งไว้ระดับเดียวกับ Mercedes-Benz , BMW, AUDI
AVATR 11
รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมแบบ SUV ทรงคูเป้ขนาดกลาง ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ EP1 ขนาดตัวมีความยาว 4,880 มม. กว้าง 1,970 มม. สูง 1,601 มม. ระยะฐานล้อ 2,975 มม. รูปโฉมภายนอกมาในสไตล์ล้ำสมัยสไตล์รถ Crossover SUV ท้ายลาดแบบ Coupe จากผลงานการออกแบบของ Nader Faghihzadeh ที่เคยทำงานร่วมกับทาง BMW โดยมาพร้อมกับชุดไฟหน้าแบบ LED แนวยาว พร้อมไฟส่องสว่างแนวตั้งแถบยาว รับกับไฟตัดหมอกด้านล่าง
ห้องโดยสารภายใน มีให้เลือกทั้งแบบ 4 และ 5 ที่นั่ง กับสีทูโทน เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa มาพร้อมแผงแดชบอร์ดทรงคลื่น หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว กับหน้า Infortainment ขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว
ไฮไลท์สำคัญคือระบบช่วยขับอัตโนมัติซึ่งพัฒนาโดยหัวเว่ย ตัวฮาร์ดแวร์ประกอบด้วย LiDAR 3 ตำแหน่ง, เรดาร์ชนิดเทคโนโลยีคลื่นมิลลิเมตร (Millimeter Wave Radar) 6 ตัว, เรดาห์ อัลตร้าโซนิค 12 ตัว และกล้องรอบคัน 13 ตัว
มีระบบขับเคลื่อน 2 แบบ และแบตเตอรี่ 2 ขนาดให้เลือก คือ
มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร มีแบตเตอรี่ 2 ขนาด ได้แก่
- ขนาดความจุ 90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 6.6 วินาที ระยะทางวิ่ง 600-630 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)
- ขนาดความจุ 116 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 6.9 วินาที ระยะทางวิ่ง 705-730 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)
มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 578 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร มีแบตเตอรี่ 2 ขนาด ได้แก่
- ขนาดความจุ 90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 3.98 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 555-580 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)
- ขนาดความจุ 116 กิโลวัตต์-ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 4.5 วินาที ระยะทางวิ่ง 680-700 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (CLTC)
สำหรับราคาจำหน่ายในไทยนั้น คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1,900,000 – 2,000,000 ล้านบาท
AVATR 12
ซีดานคูเป้ไฟฟ้าสุดหรู คันนี้มีแผนจะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเช่นกัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาพร้อมกับ AVATR 11 หรือเปล่า อันนี้ต้องรอลุ้นกันครับ AVATR 12 รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ Gran Coupe วิ่งไกล 700 กม.
ด้านหน้ารถมากับชุดไฟหน้า LED และไฟ daytime running lights ในดีไซน์แบบเบางเฉียบ ที่เป็นเส้นตรง และรูปตัว C ที่อยู่ถัดลงมาด้านล่าง กระจังหน้าแบบปิดทึบพร้อมติดตราโลโก้ของทางแบรนด์ไว้ตรงกลาง ด้านข้างตัวรถแบบเรียบหรู แนวหลังคาลาดเอียงในสไตล์รถคูเป้ มือเปิดประตูเป็นแบบ Pop-Up ที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ตัวรถจะไม่มีขอบหน้าต่าง กระจกมองข้างเป็นแบบกล้อง ไฟท้ายเป็นแบบ LED ล้ออัลลอย จะที่มีขนาด 20 – 21 นิ้วให้เลือก
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเทคโนโลยี และนวัตกรรมแบบสุดล้ำ เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าดีไซน์ทรงสปอร์ตมาพร้อมที่วางพักน่อง ปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบทำความร้อน และฟังก์ชั่นนวด แผงแดชบอร์ดติดตั้งจอไวด์สกรีนมีความยาว 35.4 นิ้ว ความละเอียด 4K
มาพร้อมจอแสดงผลที่สะท้อนภาพมาจากกระจกมองข้างบริเวณมุมเสา A หน้าจอส่วนกลางที่วางแบบลอยตัวมีขนาด 15.6 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติ Hamony OS รุ่นล่าสุด
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ Huawei ADS 2.0 มี wireless charger สามารถชาร์จได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง หลังคาจะเป็นกระจกอิเล็กโทรโครมิก ที่สามารถสลับเปลี่ยนให้ทึบแสง หรือโปร่งใสได้
ระบบขับเคลื่อนจะมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน เมตร นอกจากนี้ยังมีในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ DriveONE ของ Huawei ให้กำลังรวมอยู่ที่ 578 แรงม้า โดยทั้ง 2 รุ่น จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 94.5 kWh
โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวจะวิ่งได้ระยะทาง 700 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะวิ่งได้ระยะทางไกลสุดที่ 650 กม. ราคาจำหน่ายคาดว่าประมาณ 2,000,000 บาทขึ้นไป
NEVO E07 (Qiyuan CD701)
คันนี้ทีเด็ดครับเพราะขณะนี้ทาง ฉางอาน ประเทศไทย กำลังเจรจากับกรมขนส่งอยู่ว่าเจ้า NEVO E07 คันนี้จะจดทะเบียนเป็นรถประเภทไหนดี จะเป็นรถอเนกประสงค์ SUV หรือจะเป็นรถกระบะ เพราะประเทศไทยยังไม่มีรถยนต์รูปแบบนี้มาก่อน แต่ที่แน่ๆ ไตรมาสสุดท้าย ตุลาคม-ธันวาคม ทางฉางอาน ประเทศไทย จะพยายามเปิดจำหน่ายเจ้า NEVO E07 ให้ได้
NEVO E07 คันนี้จะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ที่สามารถเป็นได้ทั้งรถเอสยูวี และรถกระบะในคันเดียว ตัวรถได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม SDA ของทาง Changan มี 5 ที่นั่ง ที่โดดเด่นคือหลังคากระจกด้านท้ายสามารถสไลด์เปิดได้กว้างเหมือนรถกระบะด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้เจ้าคันนี้แปลงร่างจากรถเอสยูวี เปลี่ยนเป็นรถกระบะ สามารถใช้บรรทุกของชิ้นใหญ่ๆได้อย่างสบาย
กระจังหน้าแบบปิด มาพร้อมกับชุดไฟ Daytime Running Lights แบบ LED โดยมีชุดไฟหน้าแบบดอทเมทริกซ์อยู่ด้านใน ด้านข้างของตัวรถแนวหลังคาด้านหลังที่ลาดลงแบบ Fastback มีซุ้มล้อทรงเหลี่ยม เปิดประตูจะเป็นแบบ Pop – Up ที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว โดยมีมิติตัวถัง ความยาว 5,045 มม. ความกว้าง 1,996 มม. ความสูง 1,640 มม. ระยะฐานล้อ 3,120 มม. ด้านท้ายของตัวรถจะเป็นแบบ LED ที่ดีไซน์ให้เป็นเส้นวงรี เต็มพื้นที่ด้านหลัง
NEVO E07 จากข้อมูลเบื้องต้น จะมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ให้กำลัง 252 kW หรือ 338 แรงม้า และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 188 kW หรือ 252 แรงม้า ส่วนมอเตอร์คู่หลังให้กำลัง 252 kW หรือ 338 แรงม้า
ขณะที่ความเร็วสูงสุดของตังวรถทั้ง 2 รุ่นจะถูกจำกัดไว้ที่ 201 กม./ชม. รายละเอียดเกี่ยวกับชุดแบตเตอรี่ และะยะทางการวิ่งทาง Changan ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลครับ ส่วนเรื่องราคาเราคงต้องมารอลุ้นไปพร้อมๆกันครับปีนี้เจอกันแน่ครับ
ทั้งหมดนี้คือกำหนดการอย่างไม่เป็นทางการของการวางแผนที่จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ของฉางอานออกสู่ตลาดประเทศไทย อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเราจะอัพเดทให้เพื่อนๆอีกครั้ง ส่วนปีหน้าแน่นอนคาดว่าโรงงานของฉางอานที่จังหวัดระยอง จะพร้อมเริ่มสายการผลิตได้ช่วงเดือนมีนาคม บอกเลยมีโมเดลใหม่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า มาประเดิมผลิต และจำหน่ายในไทย พร้อมส่งออก อย่างแน่นอน
อีกทั้งยังจะผลิตรถยนต์ EREV (Extended Range Electric Vehicle) ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้า แต่มีเครื่องยนต์ช่วยที่ปั่นไฟเข้าไปในแบตเตอรี่ ระบบการทำงานคล้าย e Power ของนิสสัน แต่มันสามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ เหมือนรถ PHEV ระบบนี้ช่วยเพิ่มระยะทางการขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้าและลดปัญหาของข้อจำกัดในการเติมพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีข้อจำกัดในระยะทางที่สามารถขับได้
บอกได้คำเดียวว่างานนี้ตลาดรถยนต์เมืองไทยสนุกน่าดูครับ เจอรถยนต์ใหม่ เทคโนโลยีแน่นๆ เรียงแถวเข้ามาขายในเมืองไทยแบบนี้ ผู้เล่นเจ้าเก่าคงต้องกางตำรางัดไม้เด็ดมาสู้แน่นอน สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์คือผู้บริโภคอย่างเราๆครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th