Chevrolet Corvette C8 มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายจุดของรถไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องยนต์วางกลางเป็นครั้งแรก มีระบบขับเคลื่อนไฮบริดเป็นครั้งแรก มีระบบขับเคลื่อนด้วยทุกล้อของรถเป็นครั้งแรก รวมไปถึงยังเป็นเจเนเรชันแรกที่มีรถพวงมาลัยขวาออกมาจากโรงงานโดยตรง ซึ่งที่ญี่ปุ่นที่เป็นหนึ่งในประเทศขับรถพวงมาลัยขวาไม่เพียงจะแค่มี Corvette C8 ขายเท่านั้น แต่ยังมีรุ่นแต่งพิเศษผลิตจำกัดให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยคือ Limited Racing Style Edition และ Limited Sport Style Edition

Corvette Limited Racing Style Edition และ Sport Style Edition จะถูกผลิตจำกัดแค่รุ่นละ 35 คัน โดยใช้พื้นฐานจากรุ่น Stingray ที่มีกำลัง 502 แรงม้า ซึ่งกับรุ่นพิเศษแรก Limited Racing Style Edition จะมีให้เลือกระหว่างภายนอกสีเทา Hypersonic Gray หรือสีขาว Arctic White ซึ่งรถสีเทาจะผลิตจำกัด 15 คันเป็นตัวถังคูเป้ 10 คันและเปิดประทุน 5 คัน ส่วนรถสีขาวมีการผลิตตัวถงคูเป้ 15 คันและเปิดประทุน 5 คัน โดยหากเป็นรถสีขาวจะมีแถบ Racing Stripe คู่สีแดงตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าไปถึงด้านหลังของรถ พร้อมกับมีล้ออลูมินัมฟอร์จลาย 20 ก้านสีเทา Midnight Gray ขอบสีแดง โดยมีคาลิเปอร์เบรกสีแดง Edge Red อยู่ด้านหลัง รวมทั้งมีกระจกข้างและสปอยเลอร์หลัง Carbon Flash

แต่หากเป็นรถสีเทาแถบ Racing Stripe คู่บนตัวรถจะเป็น Carbon Flash Metallic ส่วนล้ออลูมินัมฟอร์จ 20 ก้านที่มาพร้อมกับรถเป็นสีดำเงา มีคาลิเปอร์เบรกสีแดง Edge Red อยู่ด้านหลัง และมีกระจกข้างรวมทั้งสปอยเลอร์หลัง Carbon Flash ส่วนห้องโดยสารของรถที่มีภายนอกสีเทาแต่งด้วยโทนสีฟ้า Tension Blue และ Twilight Blue Dipped  ร่วมกับการมีเบาะบักเก็ตซีทหนัง Napa มีรูระบายอากาศ พวงมาลัยหุ้มหนังมีรูระบายอากาศ และเข็มขัดนิรภัยสีฟ้า Tension Blue เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

สำหรับห้องโดยสารของรถสีขาวหากเป็นตัวถังคูเป้จะแต่งด้วยสีแดง Adrenaline Red และสีดำ Jet Black มีเบาะบักเก็ตซีท GT2 หุ้มหนัง Napa แทรกด้วยไมโครไฟเบอร์ Suede พร้อมกับพวงมาลัยหุ้มไมโครไฟเบอร์ Suede และเข็มขัดนิรภัยสีแดง Torch Red เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนตัวถังเปิดประทุนใช้สีแดง Adrenaline Red แต่ง มีเบาะบักเก็ตซีท Competition Sport หุ้มหนัง Napa แทรกด้วยไมโครไฟเบอร์ Suede พวงมาลัยหุ้มไมโครไฟเบอร์ Suede และเข็มขัดนิรภัยสีแดง Torch Red เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

สำหรับ Corvette Limited Sport Style Edition มีให้เลือกระหว่างสีดำซึ่งผลิตจำกัด 20 คันเฉพาะตัวถังคูเป้ และสีเหลือง Accelerated Yellow จำกัดตัวถังคูเป้ 10 คันและเปิดประทุน 5 คัน โดยรถสีดำแต่งภายนอกด้วยกระจกข้างและสปอยเลอร์หลังสัดำ ล้ออลูมินัมฟอร์จ 20 ก้านสีเทา Midnight Gray พร้อมขอบสีแดงและคาลิเปอร์เบรกสีแดง Edge Red อยู่ด้านหลัง ส่วนห้องโดยสารใช้สีดำ Jet Black ร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานทั้งเบาะบักเก็ตซีท GT2 หุ้มหนัง Napa แทรกด้วยไมโครไฟเบอร์ Suede พวงมาลัยหุ้มไมโครไฟเบอร์ Suede และเข็มขัดนิรภัยสีดำ

ในขณะที่รถสีเหลืองจะแต่งภายนอกด้วยกระจกมข้างและสปอยเลอร์หลัง Carbon Flash ล้ออลูมินัมฟอร์จ 20 ก้านสีดำเงา โดยมีคาลิเปอร์เบรกสีเหลือง Edge Yellow อยู่ด้านหลัง และรถเปิดประทุนจมีหลังคาสี Carbon Flash ส่วนห้องโดยสารแต่งด้วยสีดำ Jet Black มีพวงมาลัยหุ้มไมโครไฟเบอร์ Suede และเข็มขัดนิรภัยสีดำ แต่หากเป็นตัวถังคูเป้จะมีเบาะบัตเก็ตซีท GT2 หุ้มหนัง Napa แทรกด้วยไมโครไฟเบอร์ Suede เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะที่ตัวถังเปิดประทุนมีเบาะบัตเก็ตซีท Competition Sport หุ้มหนัง Napa แทรกด้วยไมโครไฟเบอร์ Suede เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ด้านราคาของรถเริ่มตั้งแต่ 14.7 ล้านเยนไปจนถึง 18.4 ล้านเยนหรือประมาณ 3,622,000 ถึง 4,534,000 บาท

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th