Citroen CXperience Concept: รถยนต์ต้นแบบเพื่อประสบการณ์ที่เหนือระดับ
เหลือเวลาอีกราว 1 เดือนงานแสดงรถปารีส มอเตอร์โชว์ 2016 จะเปิดฉากขึ้น ทำให้เริ่มมีข้อมูลของรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่จะเข้าร่วมงานถูกส่งออก โดยล่าสุดเป็น Citroen ค่ายรถเก่าแก่ของฝรั่งเศส ที่ส่งรถคอนเซ็ปต์ล่าสุด CXperience Concept ออกมาสู่สายตาของสาธารณชน ที่ยังแสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในแนวทาง “Be Different, Feel Good” การสร้างความแตกต่างที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าของพวกเขา ด้วยการนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดกลางที่มีขนาดห้องโดยสารที่ใหญ่กว่าปกติ การออกแบบตัวถังภายนอกที่โดดเด่น การไม่ยึดติดกับรูปแบบดั่งเดิมเพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ได้รับจากหลักการ Citroen Advanced Comfort ที่มุ่งมั่นในการดีไซน์เพื่อความสบาย และประโยชน์ของการใช้งานสูงสุด
ห้องโดยสารที่ถูกออกแบบสไตล์เหมือนกล่อง 2 ใบต่อกัน ใช้ประตูเปิดออกแบบตู้กับข้าว (Rear-hinged Door) ความยาวของรถ 4.85 เมตร และกว้าง 2 เมตร แต่หลังคาที่ลาดต่ำทำให้รถมีความสูงแค่ 1.37 เมตร และมีระยะโอเวอร์แฮงก์ที่สั้นจนทำให้ขนาดฐานล้อเหลือเพียง 3 เมตร) ตัวถังของ CXperience Concept เลือกใช้สีมุกน้ำเงินออกเขียวหรือ “Mizuiro” เพื่อให้ความรู้สึกทันสมัย, ผ่อนคลาย และความลุ่มลึก ช่วยเพิ่มความสวยงามของล้อขนาด 22 นิ้ว
ไฟหน้าใช้ LED แบบปรับเปลี่ยนทิศทางได้ตามเทรนด์ของยุคนี้ พร้อมไฟ Daytime Running Lights โดยมีลูกเล่นด้วยการติดตั้งไฟเรียงเป็นชั้น 3 บริเวณมุมกันชนหน้าซ้าย-ขวา ไฟท้ายจะเป็น 3D Laser Fibre Optic รูปตัว V โดยท้ายรถถูกออกแบบเหมือนปีกขนาดใหญ่ และกระจกหลังที่มีส่วนโค้งเว้าเหมือนครีบปลาเพื่อหลัก Aerodynamic ที่ดีขึ้น
การออกแบบภายในเน้นความเรียบง่ายสบายตา, มีเส้นสายที่ร่วมสมัย และใช้วัสดุคุณภาพสูงรวมทั้งไม้ที่ทำให้คล้ายกับ Peugeot Exalt Concept ลูกพี่ใหญ่ร่วมเครือเดียวกัน โดยเบาะนั่ง และวัสดุตบแต่งประตูใช้สีเหลืองอมส้มเป็นหลักเพื่อสร้างความสดชื่น และความรู้สึกด้านบวก
Citroen ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่สืบทอดมายาวนานด้วยการใช้พวงมาลัยแบบก้านเดียวสีทองที่มีปุ่มควบคุมระบบต่างๆ ภายในรถ หากสังเกตให้ดีจะเห็น Paddle Shift เพื่อเปลี่ยนเกียร์อิเล็คโทรนิค 8 สปีดซ่อนอยู่ทางด้านขวาของพวงมาลัย และดีไซน์คอนโซลกลางแบบแนวนอนให้ความรู้สึกเหมือนหน้าจอแสดงผลขนาด 19 นิ้วลอยออกมา
CXperience Concept ใช้ระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่มีสมรรถนะสูงจากการพัฒนาของทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก PSA Group บริษัทแม่ของพวกเขาที่ไม่เพียงให้ความสำคัญด้านสมรรถนะ แต่รวมถึงความหลากหลายในการใช้งาน โดยมีกำลังเครื่องยนต์ระหว่าง 150-200 bhp พร้อมกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 80 กิโลวัตต์ โดยสามารถขับในโหมดไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยไอเสียได้ไกลถึง 60 กิโลเมตร แต่หากเป็นการวิ่งบนทางด่วนมอเตอร์เวย์จะใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นหลักที่ทำให้กำลังเพิ่มขึ้นได้สูงสุด 300 bhp
สำหรับการชาร์จไฟแบตเตอรี่ขนาด 3 กิโลวัตต์ที่ติดตั้งอยู่ภายใต้ห้องโดยสาร ใช้เวลาราว 4 ชั่วโมงครึ่งสำหรับการชาร์จปกติ แต่สามารถลดลงเหลือ 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยเครื่องชาร์จไฟแรงดันสูง ที่น่าสนใจคือระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่ทั้ง 2 แบบถูกซ่อนอยู่บนฝากระโปรงหน้าบริเวณไฟ Daytime Running Lights
เรื่องโดย: พูนทวี สุวัตถิกุล
เครดิต: media.citroen.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th