Citroën (ซีตรอง) เป็นอีกหนึ่งค่ายรถจากฝรั่งเศสที่ผู้ใช้รถเมืองไทยรู้จักและคุ้นเคยกันมายาวนานตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นยุคเฟื่องฟูของรถยุโรปในไทย จากจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ผลิตเฟืองเกียร์มาถึงแบรนด์รถยนต์ที่โด่งดังในปัจจุบัน อีกทั้งได้ฝากผลงานที่โดดเด่นเอาไว้หลายรุ่น และรุ่นที่นำมาเขียนถึงในวันนี้คือ Citroën DS (ซีตรอง ดีเอส) ที่ได้ชื่อว่ามีความล้ำสมัยที่สุดในยุคนั้น และไม่มีใครเสมอเหมือนได้

Citroën DS ได้ฤกษ์เปิดตัวครั้งแรกใน งานปารีส มอเตอร์โชว์ เดือนตุลาคมเมื่อปี ค.ศ.1955 และยุติการผลิตในปี ค.ศ. 1975 (ผลิตยาวนานถึง 20 ปี) เป็นรถยนต์ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นรถที่ปฏิวัติแนวคิดหลายๆ อย่างที่รถยนต์ในยุคนั้นควรมี และมันยังมีทุกอย่างเหมือนกับรถในยุคปัจจุบันมี ใช้เวลาพัฒนาตัวรถนานถึง 18 ปี ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Mr.Flaminio Bertoni นักออกแบบชาวอิตาเลียน บรรจงวาดเส้นสายที่อ่อนช้อยและสร้างความพริ้วไหวเอาไว้บนตัวถังทำให้เกิดรูปโฉมที่สวยงามดั่งนางฟ้า

ด้วยความโดดเด่นของตัวถังตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ถูกขัดเกลาผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลม ตัวถังน้ำหนักเบาด้วยฝากระโปรงหน้าที่ผลิตจากอลูมิเนียม, ระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ให้ความนุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ที่เรียกว่า ระบบ Hydropneumatic (ไฮดรอนิวเมติก) ทั้ง 4 ล้อ ตัวถังมีทั้งแบบซีดาน 4 ประตู, แบบสเตชั่นแวกอน 5 ประตู และ แบบ 2 ประตู เปิดประทุน

พวงมาลัยเป็นแบบก้านเดียว มีสวิตซ์กุญแจอยู่ใต้คอพวงมาลัย ไฟหน้าดวงนอกที่ก้มเงยได้ตามการขึ้นลงของเนินหรือสะพาน และไฟหน้ายังสามารถปรับมุมเลี้ยวได้ตามการหมุนจากพวงมาลัยอีกด้วย ซึ่งการทำงานใช้สายเคเบิลที่มีกลไกที่ต่อเชื่อมกับคันชักคันส่งของชุดแรคพวงมาลัย แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นในเรื่องของช่วงล่างระบบ Hydropneumatic Suspension Explained ที่สามารถยกตัวถังให้สูงขึ้นได้เมื่อต้องขับบนเส้นทางที่ขรุขระและสามารถปรับระดับให้ตัวถังต่ำลงเมื่อต้องทำความเร็วบนไฮเวย์ ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลเหนือชั้นด้วยการใช้ปั๊มไฮดรอลิกแรงดันสูงส่งกำลังไปเลี้ยงระบบแยกย่อยต่างๆ เช่น ระบบรองรับแบบตุ้มน้ำมันไฮดรอลิกที่ช่วยให้เกิดความนุ่มนวล อีกทั้งยังเป็นรถที่ริเริ่มใช้ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

หลังจากที่ Citroën DS เปิดตัวด้วยรูปโฉมและเทคโนโลยีที่ล้ำสุดในยุคนั้น ทำให้ได้รับความสนใจและมียอดจองมากถึง 12,000 คันภายในวันเดียว แม้ว่าจะตั้งราคาไว้ถึง 940,000 ฟรังซ์ และรถคันสุดท้ายที่ออกจากโรงงานที่ Aulnay Sous Bois เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.1975 ทำให้มียอดสรุปการผลิตมากถึง 1,456,115 คัน และถูกแทนที่ด้วยสายการผลิตรุ่น CX พูดได้ว่า Citroën DS คือ นางฟ้าแห่งยนตรกรรมได้อย่างแท้จริง

เรื่อง : พุทธิ ผาสุข

ภาพคาราวาน Citroën DS 2012 : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th