NETA V vs ORA GOOD CAT คันไหนน่าใช้กว่ากัน
NETA V vs ORA คันไหนน่าใช้กว่ากัน กระแสรถยนต์ไฟฟ้า 100% กำลังได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปัจจุบันมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยมีให้เลือกอยู่มากมายหลากหลายยี่ห้อทั้งแบรนด์ญี่ปุ่น จีน ยุโรป มีให้เลือกตามงบประมาณ และตามความต้องการใช้งานของและละคน โดยเฉพาะแบรนด์จากประเทศจีนที่เข้ามาสร้างความคึกคักให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย และรูปทรงน่ารักแปลกตา อีกทั้งรัฐบาลยังมีมาตรการซัพพอร์ตเรื่องภาษีอีกทำให้ปัจุบันคนไทยหันมาเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากันมาขึ้น
ครั้งนี้เราจะนำรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากประเทศจีนมาเทียบกันให้ดูว่าคันไหนน่าใช้ และคุ้มค่ากว่ากันระหว่าง ORA GOOD CAT 400 TECH กับ NETA V ที่มีราคาต่างกันอยู่ 214,000 บาท
ราคาจำหน่าย NETA V vs ORA
NETA V ราคา 549,000 บาท
ORA Good Cat รุ่น 400 TECH ราคา 763,000 บาท
การออกแบบภายนอก
NETA V
มาพร้อมตัวถังสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่ให้อารมณ์กระเดียดไปทางครอสโอเวอร์อยู่นิดๆ โดยเนต้าระบุว่าเส้นสายของ NETA V ได้แรงบันดาลใจมาจาก “โลมา” ที่มีความลื่นไหลจากหน้าจรดท้ายเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งถึงว่าส่งผลโดยตรงต่ออัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ฮาโลเจน พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และระบบ Follow Me Home Light ไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
ORA Good Cat รุ่น 400 TECH
ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมด้วย ไฟหน้า LED อัจฉริยะ พร้อมไฟ Daytime Running Light และ ไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ รวมถึง ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ กระจังหน้า Active Air Intake ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกท้าย อีกทั้งกระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ
มิติตัวถังรถ
NETA V 4,070 x 1,690 x 1,540 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,420 มม.
ORA Good Cat 1,825 x 4,235 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
การออกแบบภายใน
NETA V
ภายในห้องโดยสารของ NETA V ถือว่าทำได้ดีกว่าคิด ด้วยการตกแต่งสไตล์มินิมอลเน้นความเรียบง่าย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำจากโรงงานปรับระดับสูงต่ำไม่ได้ พวงมาลัยถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังพร้อมรูระบายอากาศ แต่ดันปรับระดับไม่ได้
ห้องโดยสารของNETA V ไร้ปุ่มเพราะการควบคุมฟังก์ชันต่างๆถูกรวมเอาไว้บนหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว สวยงามคมชัด รองรับภาษาไทยได้ตอบสนองได้ดีมาก การเข้าถึงเมนูต่างๆง่ายไม่ซับซ้อน ระบบปรับอากาศถูกออกแบบให้อยู่ส่วนล่างของหน้าจอซึ่งอาจใช้งานได้ไม่สะดวกนักมีระบบกรองอากาศ N95 เพื่อลดปริมาณฝุ่นขนาดเล็กภายในห้องโดยสาร
ORA Good Cat รุ่น 400 TECH
ภายในห้องโดยสาร ให้โทนสีดำแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสังเคราะห์ เบาะนั่งหุ้มผ้า เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับมือ 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับ 60:40 กระจกไฟฟ้า 4 บาน พร้อม One-Touch เฉพาะฝั่งคนขับ พร้อม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมกรองฝุ่น PM2.5
ระบบไล่ฝ้าภายในห้องโดยสาร เบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ 7 นิ้ว ระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Command แอปพลิเคชันอัจฉริยะ หน้าจอระบบความบันเทิงแบบสัมผัส 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto รองรับ Bluetooth / MP5 ลำโพง 4 ตำแหน่ง ช่อง USB 2 ตำแหน่ง ระบบปรับระดับเสียงตามความเร็วรถ
ระบบส่งกำลัง
NETA V
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 110 กม./ชม. (โหมด Sport ทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม.) และแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 38.5 kWh ให้ระยะทางขับขี่ 384 กิโลเมตรตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC พร้อมระบบจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ สำหรับการชาร์จผ่าน Wallbox แบบ AC จากระดับ 0-100% จะใช้เวลาเต็มที่ราว 8 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเร็วแบบ DC จากระดับ 30-80% จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที NETA V ยังสามารถจ่ายกระแสไฟกลับไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้ด้วยฟังก์ชัน V2L โดยจะมีลักษณะคล้ายกับปลั๊กพ่วงที่ใช้ตามบ้าน สามารถนำมาเสียบกับช่องชาร์จไฟของตัวรถได้ทันทีสามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 3,300 วัตต์ เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น พัดลม, เตาปิ้งย่าง, ชาร์จคอมพิวเตอร์พกพา
ORA Good Cat รุ่น 400 TECH
มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 152 กม./ชม. พร้อมฟังก์ชันกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) กลับไปยังแบตเตอรี่ปรับได้ 3 ระดับ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กม.
รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 0-80% ในเวลา 45 นาที หรือ 30-80% ในเวลา 32 นาที และสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC จาก 0-100% ในเวลา 8 ชั่วโมง ระบบส่งกำลังและการขับขี่ มาพร้อมกับ เกียร์แบบ Electronic Shifter คันเร่งอัจฉริยะ Intelligent Single Pedal โหมดการขับขี่ มาตรฐาน/Sport/ECO/ECO+/อัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมความเร็ว
ระบบความปลอดภัย
NETA V
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC, ระบบเบรก ABS / EBD, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของแรงดันลมยาง TPMS, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถออกตัว, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ตำแหน่ง, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
ORA Good Cat รุ่น 400 TECH
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB) ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ฟระบบเบรก ABS/EBD ระบบตรวจแรงดันลมยาง TPMS เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด เสียงเตือนคนภายนอกขณะขับขี่ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIXถุงลมนิรภัยคู่หน้า
ประสบการณ์การขับขี่
NETA V
ในด้านการขับขี่มอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร มันได้มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แต่เมื่อลองกดคันเร่งเฮ้ย ! มันตอบสนองดีกว่าทีคิดเยอะครับโดยเฉพาะช่วงออกตัวจนไปถึง 60 กม./ชม. รวดเร็วทันใจตามฉบับรถยนต์ไฟฟ้ากดเป็นมา ทำให้มีความคล่องตัวในเมือง ส่วนช่วงความเร็วกลางไปปลายก็ถือว่าไม่แย่ยังคงขับสนุกอยู่ แต่ท็อปสปีดของ NETA V ถูกจำกัดเอาไว้ที่ 110 กม./ชม.ในโหมดปกติ
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ก็จะปลดความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 120 กม./ชม. เท่านั้น มันจึงทำให้เวลาวิ่งระยะทางไกลใช้ความเร็วสูง จะเร่งแซงคงลำบากหน่อย ช่วงล่างของ NETA V ถูกเซ็ตให้มีความนุ่มนวลมากๆ มันเหมาะมากกับการใช้งานในเมืองที่มีบนถนนมีหลุม และฝาท่อเป็นจำนวนมาก
ขับรูดผ่านสบายนิ่มนวล แต่ถ้าใช้ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ขึ้นไปมันจะออกอาการโคลง ย้วย ทำให้ขับทางไกลยาวไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ORA Good Cat รุ่น 400 TECH
กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร บอกเลยว่าไม่ธรรมดานะครับ อัตราเร่งช่วงออกตัวฉับไวตามฉบับรถยนต์ไฟฟ้า กดเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ไร้อาการรอรอบ ทำให้ขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว รอบกลางไปปลายอัตราเร่งยังคงไหลได้อย่างต่อเนื่อง ขับสนุกมาก
การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายๆ ช่วงล่างของ ORA Good Cat สามารถทำได้ดีเกินคาดเช่นกัน เนื่องจากถูกเซ็ตมาพอดีไม่นิ่มและไม่แข็งไป มันสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของหลุมบ่อหรือลูกระนาดได้ดีพอสมควร และเมื่อใช้ความเร็วสูงก็ยังสามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างมั่นคง ไม่มีอาการย้วยให้เห็น ต่อให้เราใช้ความเร็วสูงก็ยังนิ่งมั่นใจได้
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th