โอกาสครั้งใหม่ที่ไม่คาดคิดของ Daniel Ricciardo—พร้อมคืนสู่ศึกฟอร์มูล่า วัน กับ AlphaTauri
เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว Daniel Ricciardo นักแข่งมากประสบการณ์ชาวออสซี่ ตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของ Red Bull Racing ต้นสังกัดเก่าที่ต้องการให้เขากลับมาเป็นนักขับสำรองในซีซั่น 2023 ด้วยความหวังลึกๆ ของเจ้าตัวที่จะเจอเส้นทางกลับคืนสู่กริดสตาร์ทของศึกฟอร์มูล่า วัน อีกครั้ง AlphaTauri
และผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนการตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดของ Ricciardo หลังจากเขาได้รับโอกาสกลับมาเป็นนักแข่งตัวจริงของ AlphaTauri ทีมน้องของ Red Bull ที่ตัดสินใจปลด Nyck de Vries รุคกี้ชาวดัตช์ ในช่วง 2 สนามสุดท้ายก่อนพักซัมเมอร์เบรก
เกิดอะไรขึ้นกับเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ของ AlphaTauri และเส้นทางชีวิตนักแข่งของ Ricciardo จะกลับมาสู่ระดับหัวแถวอีกครั้งหรือไม่? ลองหาคำตอบได้จากบทวิเคราะห์ของ Lawrence Barretto นักข่าวประจำเว็บไซต์ F1.com
อะไรคือเหตุผลที่ AlphaTauri ตัดสินใจแยกทาง De Vries?
บรรดาแฟน F1 คงทราบกันดีว่า Red Bull ต้องแข่งกับ Williams และ Alpine เพื่อเซ็นสัญญา De Vries เข้ามาจับคู่กับ Yuki Tsunoda นักขับชาวญี่ปุ่น ในฤดูกาลนี้ โดย Helmut Marko ที่ปรึกษาคนสำคัญของ Red Bull Motorsport เป็นผู้ลงมาเจรจากับนักแข่งชาวดัตช์แบบตัวต่อตัวนานถึง 2 วัน ที่ออสเตรีย ด้วยความชื่นชมในผลงานที่สามารถคว้าแต้มประเดิมการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ในรายการอิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ หลังจากถูกเลือกมาขับแทน Alex Albon นักขับชาวไทยของ Williams ที่มีอาการป่วยกะทันหัน
แน่นอนว่าการที่ผู้บริหารใหญ่ระดับ Marko ลงมาจัดการ Red Bull ต้องคาดหวังคามสำเร็จในระดับสูงจาก De Vries ที่เคยสร้างผลงานคว้าแชมป์โลก ฟอร์มูล่า 2 และฟอร์มูล่า อี แต่กลายเป็นว่านักแข่งหนุ่มวัย 28 ปี ประสบความยากลำบากในการปรับตัวกับชีวิตนักแข่งฟอร์มูล่า วัน จนแทบไม่ได้ช่วยสนับสนุน Tsunoda ที่พยายามต่อสู้เก็บคะแนนให้ AlphaTauri ที่รั้งท้ายตารางคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้าง
ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา Marko ส่งสัญญาณเตือน De Vries ให้พยายามเร่งฟอร์มการขับขึ้นมา หากต้องการรักษาเก้าอี้ของตัวเองเอาไว้ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
ขณะที่ทีมงานมอเตอร์สปอร์ต Red Bull พยายามมองในแง่ดีว่าหากการแข่งขันซีซั่น 2023 เข้าสู่สนามที่นักขับชาวดัตช์เคยลงขับ ผลงานของเขาอาจจะดีขึ้น และพิสูจน์ตัวเองว่าสมควรจะได้อยู่กับ AlphaTauri ต่อไป
แต่โอกาสนั้นไม่มีวันเกิดขึ้น AlphaTauri ตัดสินใจประกาศแยกทางกับ De Vries หลังจบการแข่งขันบริติช กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 10 ของฤดูกาล ทำให้นักแข่งวัย 28 ปี เดินจากไปโดยทำผลงานได้ดีที่สุดคืออันดับ 12 ที่โมนาโก และมีแค่ 2 สนามที่เขาจบด้วยอันดับเหนือกว่า Tsunoda
ทั้งที่หากมองตามความเป็นจริง ในปีนี้ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ารถแข่งของ AlphaTauri ช้าที่สุดในบรรดา 10 ทีมบนกริดสตาร์ท และอีกเรื่องสำคัญคือ De Vries ไม่ได้แสดงให้เห็นความสามารถที่จะขึ้นมาเป็นคู่แข่งของ Tsunoda เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้อีกฝ่าย
และสุดท้ายเป็นอีกครั้งที่พวก Red Bull แสดงให้เห็นว่าไม่มีความลังเลที่จะเปลี่ยนตัวนักแข่งกลางฤดูกาล เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ Pierre Gasly ในตอนถูกสลับตัวกับ Alex Albon เมื่อปี 2019 หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Daniil Kvyat และ Brendon Hartley ก่อนที่คราวนี้ De Vries จะกลายเป็นผู้โชคร้ายคนล่าสุด
ทำไม Red Bull ยังคงเชื่อมั่นในตัว Ricciardo?
ในตอนที่ Red Bull เซ็นสัญญา Ricciardo กลับเข้ามาเป็นนักแข่งคนที่ 3 ของทีมในฤดูกาล 2023 มีหลายเหตุผลที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ ทั้งความเป็นมืออาชีพที่พร้อมซัพพอร์ตมาร์เก็ตติ้งแพลนทุกรูปแบบของทีม และบุคลิกที่สนุกสนานเป็นกันเองของนักแข่งหนุ่มชาวออสซี่ นับเป็นอีกจุดขายสำคัญในการสร้างคอนเทนต์ช่วยเสริมแบรนด์อิมเมจได้ดีไม่แพ้บรรดานักแข่งตัวจริง
แต่เหตุผลสำคัญที่สุดคือ Ricciardo เป็นนักแข่งท่ีเก่ง – ถึงเขาจะประสบความยากลำบากในช่วงเวลาที่ McLaren จนไม่อาจสร้างผลงานได้เหมือนกับพรสวรรค์ที่เขามีอยู่ในตัวก็ตาม
นอกจากนี้การมี Ricciardo เป็นส่วนหนึ่งของทีมในฐานะนักแข่ง ทำให้ Sergio Perez เข้าใจสถานะของตัวเองดีขึ้นในการร่วมงานกับ Max Verstappen แชมป์โลก 2 สมัยของ Red Bull และเปิดโอกาสให้ทีมได้ติดตามฟอร์มการขับของเขาอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง นับตั้งแต่ย้ายออกไปในปี 2018 เพื่อลงแข่งให้ Renault และ McLaren
สิ่งที่ทีมงาน Red Bull ค้นพบในตัวของ Ricciardo ในวัย 34 ปี คือนักแข่งที่ต้องการแรงสนับสนุน และเวลาพักจากสนามแข่ง เพื่อกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง – และเมื่อได้ทบทวนทุกอย่างเขากำลังจะกลับมาเป็นนักแข่งที่ทุกคนเคยรู้จักก่อนหน้าปี 2018 ที่ทำผลงานได้ดีจนขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงแชมป์โลก
นับตั้งแต่กลับมาสู่ Red Bull นักแข่งชาวออสซี่ แสดงให้เห็นความทุ่มเทอย่างบ้างคลั่งในการขับเก็บข้อมูลบนเครื่องซีมูเลเตอร์ สร้างความประทับใจให้ทีมงานทุกคน พร้อมทั้งยืนยันว่าเขายังมีความเฉียบคมในการควบคุมรถแข่งฟอร์มูล่า วัน
ขณะเดียวกัน Red Bull สามารถวางใจได้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน พวกเขายังมีนักแข่งฝีมือดีที่พร้อมขึ้นมาแทนทั้งทีมหลัก และทีมรอง AlphaTauri ทำให้หลังจากประเมินผลงานของ De Vries และพิจารณาทางเลือกอื่นที่มีอยู่ Ricciardo กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการเข้ามาช่วยยกระดับผลงานของทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
ทำให้เมื่อ Red Bull เริ่มต้นเจรจากับ Ricciardo เพื่อสอบถามความพร้อมของเขาในการกลับมาลงแข่งใน 10 สนามที่เหลือ ถึงจะมีกระแสข่าววงในระบุว่าเจ้าตัวต้องการย้ายไปขับให้ AlphaTauri ในปีหน้า เพื่อที่จะได้มีเวลาอย่างเต็มที่ในช่วงพรี-ซีซั่น และลงขับในรถแข่งที่เขาได้ร่วมพัฒนาอย่างใกล้ชิดกับทีมงาน Red Bull เพื่อให้มีสมรรถนะที่ดีกว่าในซีซั่น 2023
แต่สุดท้าย Ricciardo มองว่าการตัดสินใจกลับมาลงขับให้ AlphaTauri ทันทีในรายการฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเปิดโอกาสให้ Red Bull ประเมินผลงานของเขาในช่วงที่เหลือของฤดูกาล เพื่อเป้าหมายที่จะได้กลับไปขับให้ทีมในปีหน้าหาก Perez ไม่อาจทำผลงานได้ดีอย่างที่ทีมต้องการ
เหตุผลที่ Ricciardo ตอบตกลง?
เชื่อกันว่าถ้า Ricciardo ไม่ตอบรับข้อเสนอกลับมาลงขับให้ AlphaTauri ในช่วงกลางฤดูกาล Red Bull จะเรียกตัว Liam Lawson นักแข่งดาวรุ่งชาวนิวซีแลนด์ ที่อยู่ในโปรแกรม Red Bull Junior Team ขึ้นมาสู่ศึกฟอร์มูล่า วัน
และหาก Lawson ซึ่งปีนี้ถูกส่งไปเก็บประสบการณ์ในรายการซูเปอร์ ฟอร์มูล่า ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำผลงานสอบผ่าน โอกาสของ Ricciardo ที่จะกลับมาร่วมทีม Red Bull ในปี 2024 จะถูกปิดสนิททันที
การเจรจา และตัดสินใจของอดีตแชมป์ฟอร์มูล่า วัน 8 รายการ เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์การแข่งขันบริติช กรังด์ปรีซ์ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม หลังจากคำแนะนำของทีมที่ปรึกษา และภารกิจทดสอบยางของ Pirelli ที่ซิลเวอร์สโตน ในวันอังคาร ทีมงานของ Ricciardo เริ่มต้นทำงานเพื่อให้เขากลับมาอยู่หลังพวงมาลัยอีกครั้ง
นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของ Ricciardo หลังจากเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา และยอมรับว่าช่วงเวลากับ McLaren เป็นแค่ความผิดพลาดครั้งหนึ่งในอาชีพนักแข่ง เขาไม่ได้สูญเสียพรสวรรค์ที่มีอยู่ แต่ McLaren ไม่ใช่ทีมที่มีศักยภาพสูงพอให้นักแข่งผู้นี้สร้างผลงานได้อย่างที่ควรเป็น
การได้กลับมาสู่ครอบครัว Red Bull ทำให้ Ricciardo เหมือนได้กลับมาสู่บ้านที่เขาเคยใช้เวลาเกือบตลอดอาชีพนักแข่งที่นี่ และเงื่อนไขต่างๆ ที่เขารู้ว่าตัวเองสามารถรับมือได้
แต่ตอนนี้เป้าหมายอันดับแรกของ Ricciardo คือการสร้างฤดูกาลที่แข็งแกร่งกับ AlphaTauri เพื่อพิสูจน์ว่าเขายังดีพอที่จะต่อสู้ในระดับหัวแถวของศึกฟอร์มูล่า วัน หากได้รับโอกาสอีกครั้งจาก Red Bull ในปี 2024
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล:F1.com/Red Bull Content Pool
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Daniel Ricciardo AlphaTauri