Denza D9 รถตู้พรีเมียมจากแบรนด์พรีเมียมของ BYD- สเปค ระยะการขับไกล 600 กม./ชาร์จ
เปิด สเปค Denza D9 รถตู้พรีเมียม โมเดลแรกของ Denza แบรนด์พรีเมียมของ BYD โดยมีระยะการขับไกล 600 กม./ชาร์จ เป็นรถยนต์สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มอบประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์
Denza D9 ปรากฎตัวครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เมื่อเดือนมีนาคม 2023 โดยมาพร้อมดีไซน์ที่หรูหรา เป็นการออกแบบภายใต้ภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Into The Meteor Arrow โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น โดยเฉพาะชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Matrix ในรูปแบบโครเมียมดีไซน์วางยาวเป็นเส้นตรง
Denza แบรนด์หรู BYD ประกาศเปิดตัวประเทศไทย 1 พ.ย.นี้
โลโก้ตรงกลางเป็นสีฟ้ามาพร้อมไฟหน้า LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว และครอบด้วยกรอบโครเมียมทั้งในส่วนของกระจัง และชุดไฟหน้าโครเมียม ตัวถังด้านข้างถูกออกแบบมาด้วยเส้นสายที่เรียบหรู มาพร้อมประตูสไลด์ทั้งสองฝั่ง กรอบหน้าต่างตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม เพิ่มความหรูหราด้วยล้ออัลลอยลายก้านซี่ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 235/60 R18
ในส่วนท้ายรถมากับชุดไฟท้าย LED แบบพาดยาวเต็มพื้นที่ เสริมความหรูหรา และทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยสปอยเลอร์หลังคา และไฟเบรกดวงที่สาม โดยขนาดตัวถังของ D9 จะมีความยาว 5,250 x กว้าง 1,960 x สูง 1,920 มม. ระยะฐานล้อ 3,110 มม. และรัศมีวงเลี้ยว 5.95 เมตร
ภายในห้องโดยสาร จัดความหรูหราเต็มขั้น มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เบาะนั่งมีให้เลือกทั้งแบบ 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนัง Nappa เสริมด้วยระบบอุ่น และระบายความร้อน ส่วนเบาะแถว 2 เป็นแบบกัปตันซีท มาพร้อมฟังก์ชั่นการนวดแบบ 10 จุด
Denza D9 ถูกสร้างขึ้นบน e-platform 3.0 รองรับได้ทั้งเครื่องยนต์แบบ PHEV และ EV สำหรับในรุ่น EV มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรุ่น 4WD ติดตั้งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2 ตัวส่งกำลังล้อหน้า และหลัง โดยมอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 230 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์คู่ล้อหลังให้กำลัง 45 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตร กำลังรวม 275 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที
สำหรับ Denza D9 รุ่นที่ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 103 kWh ชาร์จเต็มวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC รองรับการชาร์จสูงสุดได้ถึง 166 kW
นอกจากนี้ All-new Denza D9 จะมีตัวเลือกขุมกำลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด DM-i ที่เคยมาจัดแสดงในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2024 ที่จะมี สเปค แตกต่างจากระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าดังนี้:
แพลตฟอร์ม: DM-i Platform CTP Blade Battery
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
กำลังสูงสุด 299 กิโลวัตต์/400 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 681 นิวตัน-เมตร
กำลังสูงสุดเครื่องยนต์ 102 กิโลวัตต์/137 แรงม้า
แรงบิดสูงสุดเครื่องยนต์ 231 นิวตัน-เมตร
กำลังสูงสุดมอเตอร์หน้า 170 กิโลวัตต์
แรงบิดสูงสุดมอเตอร์หน้า 340 นิวตัน-เมตร
กำลังสูงสุดมอเตอร์หลัง 45 กิโลวัตต์
แรงบิดสูงสุดมอเตอร์หลัง 110 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที
มิติขนาด ยาว x กว้าง x สูง 5,250 x 1,960 x 1,900 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร
ความจุห้องเก็บสัมภาระ 650 ลิตร
ความสบายห้องโดยสาร VIP Cockpit 4 ที่นั่ง
การออกแบบ
แนวคิดการออกแบบของ DENZA TT-Motion สะท้อนความโมเดิร์นและความหรูหราของแบรนด์ โดยผสานเทคโนโลยีและรูปลักษณ์ที่ทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ด้านหน้ารถแบบ Pi Motion
– การออกแบบด้านหน้าของ DENZA TT-Motion ใช้แนวคิด Pi Motion (ไพร์ โมชั่น) นำเสนอความโมเดิร์นและความหรูหรา มาพร้อมไฟหน้ารูปแบบ Meteor Arrow และกระจังหน้าแบบฝนดาวตกสีเงิน
ช่วงล่าง DiSus-C
– มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BYD ช่วยปรับระดับการกระแทกของระบบกันสะเทือนโดยระบบประมวลผล ซึ่งควบคุมด้วยโซลินอยด์วาล์วเพื่อช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบกันสะเทือนทั่วๆ ไป
– ไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลา มาพร้อมกับประตูไฟฟ้าคู่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบาย เสริมด้วยยางเก็บเสียงคุณภาพสูงเพื่อให้ห้องโดยสารเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทาง
เทคโนโลยีการชาร์จอุปกรณ์คู่
– รองรับการชาร์จไฟ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน โดยมีกำลังการชาร์จไฟสูงสุดที่ 166 กิโลวัตต์
ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
– ครบครันทั้งระบบอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มั่นใจได้ทุกการเดินทาง ประกอบด้วย:
ระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC), ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS), ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HHC), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD), ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB), ระบบช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA), ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTB), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (LCC), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
ระบบช่วยจอดรถด้วยรีโมทอัตโนมัติ (RPA), ระบบช่วยเบรกไฮดรอลิก (HBA), ระบบช่วยควบคุมการยึดเกาะถนนอิเล็กทรอนิกส์ (ETC), ระบบช่วยควบคุมการยึดเกาะถนน (CST), ระบบตรวจสอบดิสก์เบรก (BDW), ระบบนำพลังงานเบรกกลับมาใช้ใหม่ (CRBS), ระบบควบคุมป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI), ระบบตรวจจับความเมื่อยล้อของคนขับ (DMS)
ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มาพร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา, ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH) ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop, เซ็นเซอร์ช่วยจอด 6 ตำแหน่ง, ระบบช่วยขับขี่ด้วยความเร็วสูง (HWA), ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัจฉริยะ (ILCA)
ถุงลมนิรภัยคู่หน้าฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง
ห้องโดยสารที่ทันสมัย
– มีระบบมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมด้วยหน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แสดงผล 3 มิติ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
– ที่กั้นห้องโดยสารช่วยมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสารตอนหลัง โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ตรงกลาง และหน้าจอสัมผัสบริเวณที่พักแขนสำหรับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ อย่างง่ายดาย
ระบบการสื่อสารและความปลอดภัย
– เสริมความสะดวกด้วยรถสามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ในตัว และ I-Call กับ E-Call สามารถขอความช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: บริษัทเรเว่ ออโตโมทีฟ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th