Double Wishbones New Altis กับ Torsion beam New Mazda3 ช่วงล่างใครเจ๋งกว่ากัน
ระบบช่วงล่าง ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะช่วงล่างคือระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นระหว่างผิวถนนกับตัวรถ มันเป็นสามารถทำให้คุณรับรู้ได้เลยว่า การทรงตัวของรถยนต์คันนั้นดีหรือไม่ดี การดูซับแรงสั่นสะเทือน การยึดเกาะถนน การเค้าโค้งที่เฉียบคม ทุกอย่างมีช่วงล่างเป็นพระเอกทั้งนั้น
วันนี้เราจะนำข้อมูลช่วงล่างของรถยนต์ 2 ค่าย ที่เป็นคู่แข่งกันมาเทียบกันดูว่าค่ายไหนใช้ช่วงล่างอะไรละข้อดีข้อเสียของช่วงล่างที่เลือกใช้เป็นอย่างไร รถยนต์ทั้ง2รุ่นที่จะนำมาเทียบคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก All New Toyota Altis และ All New Mazda3
เรามาเริ่มจาก All New Toyota Altis ที่เพิ่งเปิดตัวไปเลยดีกว่า ครั้งนี้โตโยต้าได้มีการปรับเปลี่ยนระบบช่วงล่างจากเดิมที่ใช้ Torsion beam รุ่นใหม่เจนเนอร์ชั่นที่ 12 นี้ เปลี่ยนมาใช้ Double Wishbones ทางโตโยต้าบอกว่า ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ มันจะเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม นั้นเอง
Double Wishbones หรือที่เราเรียกกันว่าปีกนกคู่ ถือเป็นเทคโนโลยีเก่า แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่รถสปอร์ตส่วนใหญ่ใช้กัน คือการจับดุมล้อ แบบ 2 ก้านคู่ขนานกัน แบบอิสระจากกันทั้งสองล้อ มีคานอยู่ด้านบนและล่างแยกล้อใครล้อมัน เป็นช่วงล่างอิสระ เป็นเทคโนโลยีที่รถสปอร์ตส่วนใหญ่ใช้กัน มี Handing ดีสุด ถือเป็นช่วงล่างที่ได้รับความนิยมสำหรับรถที่ต้องการปรับแต่ง ได้ง่ายที่สุด ส่วนใหญ่จะอยู่ในรถขนาดกลาง อย่าง Honda Civic และล่าสุด All New Toyota Altis
ข้อดี ปรับมุมล้อต่างๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะมุมแคมเบอร์ แข็งแรงทนทาน หน้าสัมผัสยาง จะตั้งตรงกับพื้นถนนอยู่ ตลอดเวลา
ข้อเสีย ใช้พื้นที่เยอะและเปลืองค่าซ่อมบำรุง เนื่องจากจุดยึดเยอะกว่า
ทางด้าน All New Mazda3 ที่หลายคน งง ว่าทำไมถึงเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ทั้งที่รุ่นก่อนหน้าใช้ Multi-link ซึ่งมันน่าจะดีอยู่แล้ว และเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ กลับเปลี่ยนกลับมาใช้ Torsion beam ซะอย่างนั้นมันมีอะไรดีถึงทำให้มาสด้าเปลี่ยนมาใช้กันนะ มาสด้าตอบเราว่า เป็นเรื่องของการลดน้ำหนักเพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมมันสามารถลดน้ำหนักของตัวรถได้มากถึง 10 กิโลกรัม ช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมให้การตอบสนองในการขับขี่ได้ดีกว่า เรื่องความเสรียรภาพของการทรงตัวที่ทอร์ชั่นบีมเจนเนเรชั่นใหม่ของเราที่ให้ได้โดยเฉพาะในแนวระนาบ และสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้เพื่อไปพัฒนาในส่วนอื่นๆในตัวรถ
Torsion beam เป็นคานเหล็กวางขวาง เชื่อมต่อล้อทั้งสองข้างมีแกนเหล็กที่ยึดล้อทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นแบบ กึ่ง-อิสระ สามารถให้ตัวได้ มีการวางสปริงแยกออกจากตัวโช้ค ทำให้พื้นที่การใช้สอยภายในห้องผู้โดยสารมากขึ้น โดยเฉพาะด้านหลัง เหมาะสำหรับรถขนาดเล็กที่ต้องการพื้นที่ด้านหลังมาก
ข้อดี ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา มีความทนทาน เพราะยึดทั้งซ้ายแล้วขวาด้วยเหล็กแกนเดียวกัน ใช้พื้นที่ในการจัดวางตำแหน่งน้อย ทำให้ห้องโดยสารหรือห้องสัมภาระท้ายกว้างขวาง
ข้อเสีย ให้ตัวได้น้อยทำให้การยึดเกาะถนนเสียไปในความเร็วสูง ซับแรงกระแทกได้น้อย
สรุปแล้วช่วงล่างทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันเอาเป็นว่า ถ้าคุณเป็นพวกที่ชอบขับรถเน้นความนุ่มนวล ค่าบำรุงรักษาค่าซ่อมแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร Double Wishbone คงจะเหมาะกับคุณ แต่หากคุณต้องการช่วงล่างที่มีความทนทานดูแลง่าย ซ่อมถูก สบายกระเป๋าเงิน Torsion beam ครับโดนสุดแล้ว
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th