Ducati 1199 Superleggera คันแรกของโลกที่ขับทะลุ 1 แสนกิโลเมตร
Ducati 1199 Superleggera ซูเปอร์ไบค์สมรรถนะสุดล้ำราคา 4.09 ล้านบาท คันแรกของโลก ที่ใช้งานจริงวิ่งทะลุ 100,000 กิโลเมตร
มร.โวล์ฟกัง คือแบร์ล หนุ่มออสเตรีย ผู้ชื่นชอบและหลงใหลสมรรถนะแห่งความเร็วและความแรงขั้นสุด ด้วยบทบาททางด้านการงานที่ตอกย้ำตัวตนกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจูนเครื่องยนต์รถฟอร์มูล่าวัน เพื่อชิงชัยชนะจากคู่แข่งในทุกๆ สนาม อีกด้านของไลฟ์สไตล์คือการบินมาประเทศไทยเพื่อขี่รถซูเปอร์ไบค์สมรรถนะสูงที่ขึ้นชื่อว่าเบาที่สุดและเร็วที่สุดในโลก อย่าง Ducati 1199 Superleggera (ดูคาติ 1199 ซูเปอร์เลกเจลร่า) ซึ่งเป็นรถตระกูลซูเปอร์ไบค์ที่เบาที่สุดและเร็วที่สุดในโลก ที่ผลิตเพียง 500 คันทั่วโลก และในไทยมีเพียง 10 คันเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 4,099,000 บาท โดยเป็นรถที่ มร.โวล์ฟกัง ใช้งานยามพักผ่อนขี่เล่นไปทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทย ขณะนี้รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 100,000 กม. จากการส่งมอบในช่วงเดือนสิงหาคม 2558
มร.โวล์ฟกัง เผยความรู้สึกว่า “ผมชื่นชอบการขี่รถในประเทศไทย ที่นี่เป็นประเทศที่เหมาะกับการขี่รถท่องเที่ยว เนื่องจากเส้นทางของจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย มีโค้งหลายโค้ง วิวทิวทัศน์สวยงาม ทัศนวิสัยค่อนข้างชัดเจนถ้าเทียบกับการขี่รถในประเทศอื่นๆ ผู้คนน่ารัก ผมจึงซื้อ Ducati Superleggera (ดูคาติ ซูเปอร์เลกเจลร่า) จำนวน 2 คันไว้ใช้งานในเมืองไทย ซึ่งพอมีเวลาว่างจากการทำงาน ผมมักจะเดินทางมาพักผ่อนในประเทศไทย และขี่รถเที่ยวไปในจังหวัดต่างๆ ทุกๆ วัน บางวันผมขี่จากอีสานลงใต้ บางวันขี่จากอิสานขึ้นเหนือ ซึ่งผมจะชื่นชอบการขี่รถเส้นทางภาคเหนือแถวเขาค้อมากเป็นพิเศษ เพราะมีโค้งสวยๆ หลายต่อหลายโค้ง ทำให้ได้ใช้สมรรถนะรถอย่างท้าทายและสนุกมากยิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน มร.โวล์ฟกัง คือแบร์ล ครอบครองรถ Ducati Superleggera (ดูคาติ ซูเปอร์เลกเจลร่า) ทั้งหมด 4 คัน โดยจำนวน 2 คันประจำการอยู่ในออสเตรีย และอีก 2 คันคือรถที่ไว้ใช้งานยามพักผ่อนตอนอยู่เมืองไทย ซึ่งนอกจาก 1199 Superleggera (1199 ซูเปอร์เลกเจลร่า) แล้วยังครอบครอง 1299 Superleggera (1299 ซูเปอร์เลกเจลร่า) ที่ได้มีการส่งมอบในเมืองไทยไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายปี 2560
สำหรับ Ducati 1199 Superleggera (ดูคาติ 1199 ซูเปอร์เลกเจลร่า) ใช้วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของรถเช่นเดียวกันกับวัสดุที่ใช้ในหลักการวิศกรรมอากาศยานระดับโลก อาทิเช่น แฟริ่งทั้งหมดและซับเฟรมทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อหน้า-หลังและเฟรมโมโนคอคทำจากแมกนีเซียม ส่วนท่อไอเสียและสปริงโช้คทำจากไทเทเนียม ทำให้มีน้ำหนักเบาที่สุดเพียง 155 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับพละกำลังมหาศาลกว่า 200 แรงม้า และทำเวลาได้ดีที่สุดในสนามแข่ง Misano
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th