Ducati Thailand ประกาศความสำเร็จการดำเนินงานปีแรก-ตั้งเป้าปี 2023 ยอดขาย 1,200 คัน
Ducati Thailand ปลื้มปีแรกดีเกินคาด ย้ำเดินหน้าเน้นบริการหลังการขายครบวงจร วางแผนเป้า 3 ปี 6,000 คัน รุกเปิดครบ 9 โชว์รูม พร้อมดูแลทุกไบค์เกอร์ทั่วประเทศแน่นอน
กฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทโมโตเร อิตาเลียโน ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ดูคาติ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เผยผลประกอบการและกลยุทธ์ธุรกิจ บริการหลังการขายนำขาย เดินหน้า 4 กลยุทธ์ ประกอบด้วย กลยุทธ์การฟื้นความเชื่อมั่นของลูกค้า (Fix Pain Point ) ด้วยการบริการหลังการขายนำขาย สร้างความเชื่อมั่นในการนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการ และปรับโครงสร้างราคาอะไหล่ให้เป็นราคาที่สมเหตุสมผล
พร้อมทั้งการขยายโชว์รูม และศูนย์บริการเพื่อให้การบริการอย่างครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์โดยมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว และหลากหลายในราคาที่สมเหตุสมผล เผยตั้งเป้ายอดขายที่ 1,200 คัน ภายในปี 2023 พร้อมขยายเปิดโชว์รูมเพิ่มอีกในโซนภาคกลาง และภาคตะวันออก
Ducati Thailand เป็น Brand Integration ระหว่าง ดูคาติ และอาวดี้ ทำให้เกิดข้อได้เปรียบทางธุรกิจในแง่การแชร์เทคโนโลยีในกลุ่มเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ภายในประเทศคือการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมและความร่วมมือในทุกระดับ เช่น การออกงาน Bangkok International Motor Show และ Motor Expo ภายในพื้นที่เดียวกัน
1 ปีที่ผ่านมา ดูคาติ ประเทศไทย เปิดตัวไปแล้วถึง 8 รุ่นหลัก 34 รุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 349,000–1,660,000 บาท รุ่นที่ได้รับความสนใจ และมียอดจำหน่ายมากที่สุด 3 รุ่น ได้แก่ Monster คิดเป็น 29%, รถในตระกูล Scrambler คิดเป็น 22%, Panigale V4 คิดเป็น 17% และรุ่นอื่นๆ รวมอีก 39%
หม่อมหลวง กมลชาติ ประวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโมโตเร อิตาเลียโน กล่าวว่า Ducati Thailand ชูแผนปฏิบัติการเพื่อให้ไปถึงตามกลยุทธ์ที่วางไว้ มุ่งเน้นการบริการหลังการขายเป็นจุดสำคัญ เน้นการเข้าถึงและเก็บข้อมูลลูกค้า รับฟังความต้องการ และนำไปปรับปรุงการให้บริการ เพื่อให้ได้งานบริการที่ดี และเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด
พร้อมทั้งขยายศูนย์บริการครบวงจรเพื่อครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ ลุยตลาด Used Bike เพื่อเป็นการเปิดตลาดให้แก่ลูกค้า พยุงราคารถดูคาติ มือสองในตลาด และเน้นการทำ Digital Marketing ทำกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุกอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านออนไลน์หรือกิจกรรมการขับขี่ ทั้งในสนามและนอกสนาม โดยมุ่งเน้นถึงประสบการณ์การขับขี่ที่ลูกค้าจะได้รับ และขยายการสร้างความสัมพันธ์เป็นสำคัญ
ในการวางแผนการดำเนินงานใน 5 ปี (PHASING & ROADMAP) ของดูคาติ ประเทศไทย ในปีแรกเราได้คำนึงถึง บริการหลังการขายเป็นอันดับแรก และได้เร่งพัฒนาบุคลากร อบรมทีมช่างให้สามารถให้บริการได้คุณภาพมาตรฐานของดูคาติ พร้อมได้ปรับลดราคาค่าแรง ค่าอะไหล่ลง เพื่อให้เป็นราคาสมเหตุสมผลมากที่สุด
ในปีที่ 2 ได้มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มากถึง 9 รุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้น โดยในสองปีแรกจะเน้นการเปิดตัวสาย Sport Touring, Off-Road พร้อมกับยังคงเร่งขยายโชว์รูมเต็มรูปแบบ สร้างความเชื่อมั่นบริการหลังการขาย ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค และจัดกิจกรรมการขับขี่ทั้งในประเทศ และในปีที่ 3-5 จะเป็นช่วงที่เราเน้นการเติบโตของยอดขาย โดยเป็นการขยายตลาดไปในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาดเล็ก เน้นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับราคาที่น่าดึงดูด
การขยายโชว์รูม และศูนย์บริการ เพื่อให้การบริการอย่างครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ใน 1 ปีที่ผ่านมา ดูคาติ ประเทศไทย มีโชว์รูม และศูนย์บริการ ทั้งหมด 7 แห่ง คือ สาขาสุวรรณภูมิ, สาขาราชพฤกษ์, สาขาประดิษฐ์มนูธรรม, สาขาขอนแก่น, สาขาพิษณุโลก, สาขาลพบุรี และสาขาภูเก็ต
คาดว่าภายในปี 2022-2023 จะเปิดเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง รวมเป็น 9 แห่ง โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคเหนือและภาคตะวันออก ซึ่งกำลังมีการเติบโตสูงยิ่งขึ้น
นอกเหนือไปจากการเร่งขยายศูนย์บริการ รถใหม่ทุกคันที่ซื้อกับเราได้มีการขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพตัวรถจาก 2 ปี เป็น 3 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง อีก 3 ปี ส่วนราคาอะไหล่ และค่าบริการ ได้มีการปรับราคาให้เป็นราคาที่สมเหตุสมผลมากกว่าเดิม และมีแคมเปญพิเศษที่หลากหลายออกมา เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด รวมไปถึงข้อดีของการนำรถเข้ามารับบริการศูนย์ของดูคาติ นั้นไม่เพียงแต่จะได้รับบริการที่มีคุณภาพเท่านั้น
ในส่วนของการรับประกันอะไหล่ ทางดูคาติ ประเทศไทย ยังมีให้นานถึง 2 ปี ( ยกเว้นอะไหล่สิ้นเปลือง ) อัพเดตซอฟแวร์และเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีการอัพเดต โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมไปถึงงานซ่อมที่ทาง ดูคาติ ประเทศไทย มีการรับประกันคุณภาพงานซ่อมนานถึง 6 เดือน (สำหรับงานซ่อมกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Ducati )
การยกระดับคุณภาพงานบริการหลังการขาย และการซ่อมบำรุง เพื่อรองรับการเติบโต โดยร่วมกับบริษัทแม่ในการจัดอบรมพัฒนาบุคลากร รวมถึงจัดสอบยกระดับทักษะความรู้และการบริการ พร้อม Ducati Mobile Service อำนวยความสะดวก และให้บริการตามต่างจังหวัดที่ยังไม่มีโชว์รูม ดูคาติ และ Ducati Fast Track จองคิวเพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งให้บริการด้วยความรวดเร็วเสร็จภายในเวลา 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้เป็นการเพิ่มช่องทางการบริการและสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าดูคาทีสต้า รวมถึงเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการเว้นระยะห่าง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตกับบริการรับส่ง Ducati at home ซึ่งทาง ดูคาติ ประเทศไทย ได้คิดค่าบริการที่ 20 กิโลเมตรแรกจากโชว์รูมที่ 1,500 บาท และหลังจากนั้นคิดค่าบริการเพิ่มเติมที่กิโลเมตรละ 25 บาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ไม่สะดวกนำรถมาเข้ารับบริการด้วยตัวเอง
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ดูคาติ ประเทศไทย มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม
ซึ่งมีมากถึง 8 รุ่นหลัก 34 รุ่นย่อย โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น โดยในอนาคตอันใกล้นี้ยังมีความพิเศษอีก 1 รุ่น คือ MotoE (the First Electric Motorcycle) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรก โดยใช้ชื่อว่า MotoE มาจากการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างแผนก R&D ของ Ducati และ Ducati Corse พัฒนาเทคนิคที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับชุดแบตเตอรี่ มอเตอร์ และอินเวอร์เตอร์ การพัฒนาโครงการอยู่ในขั้นตอนที่ใกล้สำเร็จ และในปี 2023 จะเป็นปีที่ดูคาติ รับหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์แต่เพียงผู้เดียวของ FIM MotoE World Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีเพียงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น และคาดว่าคนไทยน่าจะได้เห็นตัวจริงในเร็วๆนี้
ในส่วนของแผนงานการตลาด (MARKETING STRATEGY) ในปี 2021
เน้นการสร้างการรับรู้และมุ่งเน้นรถในกลุ่ม Sport Touring โดยได้เปิดตัว Multistrada V4 / V4S ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ด้านออนไลน์เป็นหลัก ในปี 2022 เน้นสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มไบค์เกอร์ เพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่านเครือข่ายพร้อมกับเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในราคาที่จับต้องได้
ในฝั่งของ Aftersales เน้นสื่อสารปรับลดค่าแรง และราคาอะไหล่ให้สมเหตุสมผล
สร้างความเชื่อมั่นในการนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการ ในปี 2021-2022 มีการทำกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลาย เช่น การเปิดตัวรถรุ่นใหม่, การขยายโชว์รูม, Motor show, Motor Expo และรวมไปถึงการจัดกิจกรรมการขับขี่กับ community ต่างๆ
โดยช่วงครึ่งปีหลัง ดูคาติ ประเทศไทย มีแผนที่จะจัดกิจกรรมการขับขี่ให้ลูกค้าทุกเดือน เพื่อเป็นสร้างและขยายความสัมพันธ์ของดูคาติ ให้แข็งแกร่ง โดยจะมีทั้งการรวมกลุ่มไปทริปขับขี่ในประเทศ รวมไปถึงโปรแกรมการขับขี่ DRE Racetrack Academy และการแข่งขันระดับชาติอย่าง MotoGP ซึ่งจะจัดขึ้นภายในปี 2022 นี้ และในปี 2023 จะเป็นการสื่อสารเพื่อต่อยอดกระแส แบรนด์ในวงกว้างโดย Influencer ในการสร้างภาพลักษณ์ พร้อมขยายฐานลูกค้าผ่าน Social Media ในช่องทางที่หลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงการสนับสนุน Community และร่วมกิจกรรมการขับขี่กับพันธมิตร
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ดูคาติ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th