ปี 2021 เราผ่านยุคที่รถยนต์อีโคคาร์ (Eco Car) เข้ามาทำตลาด จนวันนี้สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ว่าเป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และค่าดูแลรักษาต่ำ จนกลายมาเป็นค่านิยมใหม่ สำหรับหนุ่มสาวที่มองหารถคันแรกมาใช้ ก่อนที่จะขยับไปซื้อหารถในรุ่นที่ใหญ่ขึ้นเมื่อมีรายได้เพิ่ม แต่เชื่อหรือไม่ว่าวันนี้รถกลุ่มนี้กลายเป็นพาหนะติดบ้าน ที่เวลาใช้งานสมาชิกในครอบครัวมักนึกถึงก่อน แม้จะมีรถหลายคันจอดอยู่ ด้วยความคล่องตัว สะดวกสบาย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น จำได้ว่าเมื่อ 5-6 ปี ก่อนผู้คนยังมองรถอีโคคาร์ด้วยสายตาไม่เชื่อมั่นว่ามันจะใช้งานได้ดี คงทำหน้าที่เป็นเพียง “รถจ่ายกับข้าว” แต่วิวัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์แข่งขันกันสูงส่งผลดีกับผู้บริโภคโดยตรง เมื่อมีการออกรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง มันถูกพัฒนาขึ้นให้ขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน รวมทั้งใส่ระบบความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน จนแทบไม่แตกต่างจากรถในเซ็กเม้นท์อื่นที่ค่าตัวสูงกว่า นอกจากขนาดมิติตัวถังที่มีข้อจำกัด

ยุคแรกของอีโคคาร์ (Eco Car)  ค่อนข้างประหลาดใจกับการออกแบบของผู้ผลิตที่ดูแล้วไม่ค่อยถูกรสนิยมคนส่วนใหญ่เท่าไรนัก…คงคิดแบบเดียวกันว่าทำไมไม่เอาดีไซน์รถที่มีอยู่มาใช้ในการผลิต กลับรื้อใหม่ทำใหม่ กว่าจะชินตาต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง แต่เราได้แรงขับเคลื่อนจากโครงการ  “รถคันแรก”​ ส่งผลให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์แข็งแกร่งจากโปรดักซ์แชมเปี้ยนตัวที่สองถัดจากกระบะ หลายคนที่เคยสัมผัสการใช้งานรถกลุ่มนี้คุณจะรู้เลยว่าแม้ภายนอกจะดูมินิมอล แต่ภายในให้ความสะดวกสบายอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่นั่งทั้งด้านหน้า และด้านหลัง คนตัวใหญ่ก็นั่งได้ แค่จะใส่ของชิ้นใหญ่ระดับทีวี 55 นิ้วไม่ได้ ผ่านไป 5 ปี จากวันแรกที่ออกขายมองไปทางไหนก็เห็นอีโคคาร์วิ่งอยู่เต็มถนน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งเคยมีความคิดว่ามันเป็นรถใช้ในเมืองเท่านั้น และแล้วความคิดที่เคยมองว่ารถเล็กแบบนี้จะวิ่งไหวได้ยังไงก็ถูกลบล้าง…มีอยู่ช่วงหนึ่งได้ขับแต่รถกลุ่มนี้เพราะค่ายรถยนต์พยายามผลักดันออกลูกออกหลานมากันเพียบ ค้นพบว่ากำลังเครื่องยนต์ขนาดเล็กเหล่านี้สามารถพาตัวถังขนาดน่ารักพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว “มันขับสนุก” เสียงที่แว่วมาในหัวเบาๆ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด สามารถเร่งแซงได้ ยิ่งช่วงความเร็วที่ใช้กันปรกติ สบายหายห่วง แถมมีช่วงสั้น คล่องตัวมากยิ่งเป็นถนนสามเลนด้วยแล้ว เคยถามคนที่มีรถหลายคันแต่ชอบอีโคคาร์เพราะเหมาะกับยุคสมัย หรือช่วงสร้างตัว มันทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้รถคันใหญ่ เพราะเอาไว้ขับจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง มองให้เป็นพาหนะ แถมยังสอนให้คนรู้จักเรื่องของความคุ้มค่า ใช้รถอีคาร์คาร์ 5 ปี เปลี่ยนก็ยังคุ้ม ราคาลงมาไม่ถึงกับล้มละลายเหมือนรถรุ่นอื่น คงไม่ต้องบรรยายว่าดูแลรักษาสบายกระเป๋าขนาดไหน แถมรับประกันว่าไม่จุกจิก สตาร์ทรถแล้วเหยียบออกจากบ้านไปได้เลย แต่จะขัดใจตรงค่าประกันภัยที่ว่าคนขับรถกลุ่มนี้มันเสี่ยงเพราะมือใหม่ก็เยอะ ทำให้เบี้ยแพงอยู่เหมือนกัน ต้องหาข้อมูลเช็คราคากันดีๆ

รู้จักตัวเองว่าต้องการอะไร…!  ไม่ได้บอกให้ลองเปิดใจ มีหลายคนเกิดอาการ “ซื้อซ้ำ” ทั้งทีควรขยับไปเล่นรุ่นที่สูงขึ้นก็ไม่ไป เราชอบทุกอย่างที่กล่าวมา ไม่ได้มีแผนจะมีครอบครัว อยู่ในช่วงเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว พอมีรุ่นใหม่แบรนด์เดิม ก็เอาไปเทิร์นมาขับ มันเหมือนกับคอนเซ็ป “เช่ารถรายเดือน” กันเงินส่วนหนึ่งไว้ผ่อนประมาณนี้ ถ้าต้องผ่อนต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ได้รถใหม่ไม่งอแง กล่าวคือ ต้องการพาหนะที่เชื่อใจได้พร้อมสำหรับการทำงานในทุกวัน ไม่ใช่สามวันดีสี่วันไข้ สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ เรื่องพวกนี้คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เค้ากล้าลงทุน ไม่เชื่อไปดูพวกรถกระบะทำไมถึงขายดี

ถึงวันนี้หลายค่ายพยามยามปรับรถกลุ่ม Eco Car 2021ให้มีมูลค่าสูงขึ้นจากการใส่ออปชั่นลงไป หรือใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยให้ได้ตามมาตรฐานภาครัฐ มันดูจะเหลือเชื่อถ้าไม่เพิ่มราคา แค่เห็นโฆษณาผ่านตาก็ทำให้ใจเต้น ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์เท่ห์ๆ เครื่องยนต์แรงๆ หรือความสะดวกสบายตามยุคสมัยเชื่อมต่อได้ไร้ที่ติ แต่ชีวิตจริงมันดูกันตรงที่ผ่อนได้เดือนละเท่าไร สำหรับคนที่มองหาควาคุ้มค่า และมองว่ามันคือพาหนะ อีโคคาร์ในยุค ปี 2021 มีแนวโน้มจะแพงขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงไม่ตอบโจทย์เงินในกระเป๋า นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมอีโคคาร์ยุคแรกที่ยังมีอยู่ยังขายได้ และด้วยสถานการณ์แบบนี้ใครละอยากจะใช้เงินในอนาคต อีโคคาร์ดูว่าจะเป็นทางออกของรถคันใหม่ไปได้อีกหลายปี…