ด้วยความนิยมของ Suzuki Jimny จึงทำให้เป็นรถที่มีอุปกรณ์แต่งออกมาให้เลือกมากมาย รวมทั้งยังมีสำนักแต่งต่างๆ ในญี่ปุ่นที่ทำชุดแต่งออกมาให้เลือกติด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ESB ที่มีชุดแต่งออกมาสำหรับ Jimny ถึง 2 สไตล์ให้เลือกระหว่างเพิ่มความสูงสำหรับเน้นลุยออฟโรดหรือลดความสูงลงจากรถมาตรฐาน

ชุดแต่งที่ทาง ESB ทำออกมาสำหรับ Suzuki Jimny มีทั้งแบบลดความสูงของรถลงซึ่งเรียกว่า CLS Barrel และเพิ่มความสูงที่เรียกว่า CLS Up โดยไม่ว่าจะเลือกการแต่งแบบใดก็จะมีการเปลี่ยนในส่วนของกระจังหน้าที่ทำให้ Jimny ดูดุขึ้น ล้ออัลลอย CLS TC01 สีขาวขนาด 16 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อที่เผยให้เห็นน็อตยึดติดกับตัวรถ สปอยเลอร์ปลายหลังคา และท่อไอเสียใหม่เหมือนกัน

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างชุดแต่งทั้ง 2 สำหรับ Jimny คือความสูงที่แตกต่างกันโดย CLS Barrel มาพร้อมกับสปริงที่ลดความสูงของรถลง 40-90 มม. จากรถมาตรฐาน ขณะที่ CLS Up จะถูกติดชุดเพิ่มความสูงของรถขึ้น 76 มม. หรือประมาณ 3 นิ้วจากรถมาตรฐาน รวมไปถึงยางที่มาพร้อมกับรถยังมีความแตกต่างกัน โดย Jimny ที่ลดความสูงลงมากับยางสลิก Nankang 195/50R16 ขณะที่ Jimny ที่สูงขึ้นกว่ารถมาตรฐานถูกเปลี่ยนเป็นยาง Maxis 245/70R16 ที่เหมาะสำหรับการลุยมากขึ้น

นอกจากนี้ในส่วนของตัวชุดแต่ง CLS Barrel และ CLS Up ยังมีความแตกต่างกันด้วย โดยกับ CLS Barrel จะมีกันชนที่หนากว่าและเน้นความสปอร์ตมากกว่าและถูกออกแบบให้มีความต่อเนื่องกับชุดแต่งซุ้มล้อ พร้อมมีสเกิร์ตข้างที่เสริมให้รถดูเตี้ยลง

ส่วนชุดแต่ง CLS Up มีกันชนในสไตล์ออฟโรดที่มีความบางกว่าเผยให้เห็นทั้งช่วงล่างและล้อของรถ โดยเป็นการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ยางขนาดใหญ่ขึ้นได้โดยไม่กระทบต่อชุดแต่ง พร้อมกับเพิ่มองศาในการลุยออฟโรด

อย่างไรก็ตามทาง ESB ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องยนต์ของ Jimny ไม่ว่าจะเลือกชุดแต่งแบบใด ส่วนค่าใช้จ่ายในการแต่งหากเป็นการลดความสูงของรถลงจะมีราคารวมอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ที่ 596,000 เยนหรือประมาณ 155,000 บาท แต่หากเพิ่มความสูงสำหรับการลุยออฟโรดจะมีราคารวมอุปกรณ์ทั้งหมด 392,000 เยนหรือประมาณ 102,000 บาท

แนวคิดของ Suzuki

มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มอบคุณค่าเหนือกว่า โดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

คือแนวความคิดที่แบรนด์ Suzuki ยึดถือ ด้วยความมุ่งหวังที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัย ตลอดเวลาที่ผ่านมา Suzuki มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการด้วยนวัตกรรมและมาตรฐานทางวิศวกรรมระดับสูง โดยสายการผลิตของ Suzuki ใน ทุกๆ ที่ ล้วนใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาและวิจัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความพยายามอย่างเต็มความสามารถของพนักงาน ทุกคนในทุกขั้นตอนการทำงาน จนแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะได้มาตรฐานขั้นสูงสุดของ Suzuki

ปรัชญาของ “Suzuki”

ผลิตสินค้าที่มีคุณค่า
ภายใต้จิตสำนึกที่ว่า
“เราคือผู้ใช้”

สร้างสรรค์องค์กร
ให้มีบรรยากาศแห่ง
ความร่วมมือ ร่วมใจ

มุ่งมั่นเรียนรู้
เชิดชูใฝ่หา
เสริมสร้างคุณค่า
พัฒนาตนเอง

Suzuki ประเทศไทย

ด้วยความเชื่อมั่นว่าลูกค้าคนไทย มีความต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพ และเหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ บริษัท Suzuki Motor Corporation ประเทศญี่ปุ่น จึงได้ก่อตั้งบริษัท Suzuki Motor (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 และสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ Suzuki ขึ้นเป็นแห่งแรกที่โรงงานในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

Suzuki Motor (ประเทศไทย) เริ่มต้นการประกอบรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco Car) คือ Suzuki Swift เป็นรุ่นแรก ในปี พ.ศ.2555 และดำเนินการผลิตรถยนต์รุ่นอื่นๆ อาทิ Suzuki Celerio, Suzuki Ciaz เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกนอกราชอาณาจักร
นอกจากนี้ Suzuki Motor (ประเทศไทย) มีความคำนึงถึงความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าคนไทย จึงมีความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีให้แก่ผู้บริโภค โดยยังมีรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง Suzuki Ertiga, Suzuki XL7 รวมถึงรถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ Suzuki Carry เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน Suzuki มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานรถยนต์ Suzuki ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเหนือความคาดหวัง และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเปรียบเสมือนเป็นคนสำคัญของครอบครัว Suzuki

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

ภาพ : ESB-style

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th