Fast Furious 8 : ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ที่ผ่านมา คงมีหลายคนที่หนีน้ำ และหลบร้อนเข้าโรงหนังไปลุ้นระทึกกับ Fast & Furious 8 ที่อัพเลเวลจากแก๊งค์รถซิ่งกลายเป็นหนังจารกรรมไล่ล่าข้ามโลกไปเรียบร้อย

                                                             ••Spoiler Alert••

แน่นอนว่าทุกฉากแอคชั่นใน Fast 8 ไม่ได้อยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริง (พูดให้ถูกคือโม้มาตั้งแต่ภาคแรก) แต่หนึ่งในฉากไฮไลต์ของภาคล่าสุดไม่เพียงสร้างความตื่นเต้นลุ้นระทึก แต่ทำให้ผู้ชมหลายคนเกิดความสงสัยว่ารถยนต์ที่เราขับอยู่ในชีวิตจริงมีโอกาสถูกใช้เป็นอาวุธของผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ได้ง่ายขนาดนั้นเหรอ?

เรากำลังพูดถึงช่วงกลางของเรื่องที่ Cipher ผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ที่รับบทโดยดาราสาว Charlize Theron ปฏิบัติการณ์เจาะข้อมูลชิพควบคุมรถยนต์ และออกคำสั่งให้รถวิ่งบนถนนโดยไม่มีคนอยู่หลังพวงมาลัย กลายเป็นเหมือนฝูงซอมบี้ออกไล่ล่ากลางมหานครนิวยอร์ก

ทำให้พอ Fast 8 เปิดตัวฉายที่สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความไม่สมจริงของฉากนี้ โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรถยนต์ และระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ ยืนยันว่าระบบควบคุมอัตโนมัติของรถยนต์หรือ Automated Driving มีความซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้ก่อการร้ายไซเบอร์จะแฮ็กเข้ามาเพื่อสั่งให้รถออกวิ่งบนถนนตามใจชอบแบบในหนัง

“ฉากนี้ไม่มีความสมเหตุสมผลเลยสักนิด” Clifford Neuman ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ประจำมหาวิทยาลัยเซาเธิร์น แคลิฟอร์เนีย ให้ความเห็นกับ Inverse เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี “ข้อเท็จจริงในปัจจุบันระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์ไม่สนับสนุนการสั่งงานรูปแบบนี้ แต่ยิ่งความเข้าใจผิดถูกเผยแพร่ออกไปมากเท่าไรก็จะเกิดความเสี่ยงที่ผู้คนจะเข้าใจผิดมากเท่านั้น”

เช่นเดียวกับ Engin Kirda ศาสตราจารย์ด้านคอมพิวเตอร์แห่งมหาวิทยาลัยนอร์อีสเทิร์น กล่าวว่า “ในโลกของระบบความปลอดภัยคงไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ในทุกรูปแบบ แต่ในความเห็นของผม แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่รถยนต์มากมายจะถูกควบคุมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน นักออกแบบที่ดีจะต้องติดตั้งปุ่มควบคุมที่สามารถตัดการทำงานทุกอย่างในทันที และต้องสร้างระบบที่มั่นใจว่าสถานการณ์แบบในภาพยนตร์จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด”

ทางด้าน Joel Stocksdale คอลัมนิสต์ประจำ autoblog.com เว็บไซต์รถยนต์ชั้นนำ ออกมาวิจารณ์ตั้งแต่หนังตัวอย่างมีฉากรถซอมบี้ถูกปล่อยออกมา เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “ทุกคนคงรู้สึกผิดปกติที่ Cipher ดูเหมือนจะเลือกแฮ็กรถยนต์ของ Fiat Chrysler เพียงค่ายเดียว ในตัวอย่างจะมีรถ Chrysler 300s, Jeep Cherokee, Jeep Grand Cherokee และ Dodge Challenger ที่ได้เวลาบนจอมากที่สุดในฉากนี้ เราไม่แน่ใจว่าเป็นวิธีโฆษณาแฝงที่ส่งผลดีต่อแบรนด์ หากพิจารณาจากที่รถยนต์เหล่านี้มาจากบริษัทเดียวกับที่เคยเรียกคืนรถยนต์มากกว่า 1 ล้านคัน เพื่อแก้ปัญหาซอฟต์แวร์ที่อาจถูกเจาะข้อมูล แต่บางทีอาจเป็นการเสียสละที่คุ้มค่ากับเพื่อแสดงให้เห็นความเป็นฮีโร่ของรถ Dodge Challenger Demon”

แม้กระทั่ง Time แมกกาซีนวิเคราะห์ข่าวระดับโลก มีการรวบรวมความไม่สมเหตุสมผลของหนังภาคนี้ออกมาเป็น 10 Fate of the Furious (ชื่อของหนังที่ฉายในสหรัฐฯ) Plot Holes That Only Make the Movie Better โพสต์ลงในเว็บไซต์ของพวกเขา และหนึ่งในรูโหว่ของบทหนังที่ถูกยกมาวิจารณ์เป็นฉากแฮ็กรถยนต์อย่างไม่ต้องสงสัย

“Cipher ไม่สามารถทำให้รถยนต์ที่ไม่ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติวิ่งออกมาได้เอง: หากเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ก่อการร้ายโรคจิตเจาะข้อมูลระบบรถยนต์ทุกคันทั่วโลก และออกคำสั่งให้ออกวิ่งบนถนนโดยไร้การควบคุม, ไล่ล่ารถยนต์คันอื่น หรือพุ่งออกจากโชว์รูมลงมาที่ถนน มันฟังดูน่ากลัวใช่ไหม? แต่ปัญหาคือในหนังเรื่องนี้นำรถยนต์หลายสิบคันที่เก่าเกินกว่าจะมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติติดตั้งอยู่ ถ้าเก่งขนาดนี้เธอน่าจะลองแฮ็กม้าที่วิ่งอยู่รอบๆ เซ็นทรัล พาร์ค ไปด้วยเลย”

อีกฉากหนึ่งที่ Time มองว่าไร้ความสมจริง เกิดขึ้นก่อนหน้าฉากรถซอมบี้ไม่กี่นาที ในตอนที่บรรดาแก๊งค์ซิ่งขับไล่ล่าใจกลางแมนฮัตตัน หากเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้จะรู้สึกได้ทันทีว่าป๋า Dom (Vin Diesel) กับรถคู่ใจ Dodge Challenger Demon ไม่มีทางฝ่าการจราจรที่ติดขัดในย่านไทม์สแควร์ไปสู่อีกจุดของเมืองในเวลาเพียง 10 วินาที แม้กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังต้องใช้เวลานานกว่านั้น!

แต่ถึงอย่างนั้น Fast & Furious 8 กวาดรายได้ถล่มทลายทั่วโลก โดยการฉายสุดสัปดาห์แรกที่สหรัฐฯ ทำเงินทะลุ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการฉายใน 60 ประเทศทั่วโลกทำรายได้รวม 432.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามข้อมูลของ boxofficemojo.com ในบ้านเราทำเงินไป 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 159.8 ล้านบาท)

ที่สำคัญเฟรนไชส์ Fast & Furious จะกลายเป็นหนังประจำเทศกาลสงกรานต์ของบ้านเราไปอีกนาน หลังจาก Vin Diesel ที่รั้งตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างของหนังอยู่ด้วย ประกาศออกมาแล้วว่าภาค 9 กับภาค 10 เตรียมลงโรงฉายในเดือนเมษายน 2019 และเดือนเมษายน 2021 ตามลำดับ

เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล

ข้อมูล : inverse.com, time.com, autoblog.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

Mitsubishi L200 ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบรถออฟโรดสายโหด ได้รับแรงบันดาลใจจากตัว L200 SVP II รุ่นล่าสุดซึ่งมีรูปแบบสีที่คล้ายคลึงกัน และการออกแบบเส้นสายรอบคันดูก้าวร้าว ดุดัน อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะโรลบาร์รอบคันสุดโหด และขยายฐานล้อหลังให้กว้างขึ้น พร้อมล้อขนาดใหญ่ 15×15 นิ้ว ส่วนในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งแบบ Bucket Seat คาร์บอนไฟเบอร์ และเข็มขัดนิรภัย 4 จุด