Ferrari เปิดโรงงาน พลังเซลล์เชื้อเพลิง ขนาด 1 เมกะวัตต์ ในอาณาจักรมาราเนลโล สร้างโดย Bloom Energy สามารถให้พลังงานเพิ่มเติม 5% เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตของเฟอร์รารี่

Ferrari ก้าวไปอีกขั้นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้กลายเป็นศูนย์ภายในปี 2030 ด้วยโรงงานเซลล์เชื้อเพลิงโซลิดออกไซด์ขนาด 1 เมกะวัตต์แห่งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ของโรงงานในเมืองมาราเนลโล อาณาจักรการผลิตซูเปอร์คาร์ “ม้าลำพอง”

โรงงานแห่งนี้สร้าง และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆโดย Bloom Energy แล้วเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ โดยสร้างพลังงานได้ 5% เพื่อใช้ในการผลิตรถของ Ferrari* เป็นการลดการใช้เชื้อเพลิง และการปล่อยมลพิษลง เมื่อเทียบกับระบบโคเจเนอเรชั่นแบบ CHP (Combined Heat and Power- ใช้พลังงานจากแก๊สและความร้อนไปพร้อมๆ กัน) ทำให้ลดการใช้พลังงานโดยรวมลงได้ประมาณ 20%

นอกจากประสิทธิภาพระดับสูงแล้ว เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ยังให้ความยืดหยุ่นในการเลือกแหล่งพลังงานที่จำเป็นสำหรับการจ่ายให้กับโรงงาน ได้แก่ ไฮโดรเจน, ก๊าซธรรมชาติ, ไบโอมีเทน หรือผสมผสานกัน แล้วเปลี่ยนเชื้อเพลิงเหล่านั้นเป็นไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องมีการเผาไหม้ โดยข้อดีอีกประการคือ ช่วยลดมลพิษที่ทำให้เกิดหมอกควัน และฝุ่นละอองได้มากกว่า 99% เมื่อเทียบกับระบบที่มีอยู่ซึ่งเคยใช้ก่อนหน้านี้

Benedetto Vigna ประธานกรรมการบริหาร Ferrari กล่าวถึงการ เปิดโรงงาน พลังเซลล์เชื้อเพลิง ว่า “เฟอร์รารี่ พยายามอย่างยิ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 ผ่านการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ฝังลึกอยู่ใน DNA ของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Bloom Energy พวกเราทั้งคู่ต่างมีความมุ่งมั่นอย่างสูงในการลดก๊าซคาร์บอน และภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นโรงงานแห่งแรกในยุโรปที่ติดตั้งระบบนี้”

*ตัวเลขตามข้อกำหนดด้านพลังงานของโรงงาน Ferrari ในปี 2021

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: คาวาลลิโน มอเตอร์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

Ferrari takes a further step towards its aim of becoming carbon neutral by 2030 thanks to a new 1 MW solid oxide fuel cell plant at its Maranello facilities.

The plant was built by Bloom Energy and installed a few days ago. It provides 5% of the energy required for Ferrari’s production activities while reducing fuel consumption and emissions.

Compared to CHP (Combined Heat and Power) cogeneration systems, gas requirements are cut by around 20% with a significant energy saving.

In addition to high levels of efficiency, this innovative technology platform offers flexibility in the choice of energy sources required to power the plant

hydrogen, natural gas, biomethane or a combination, converting the fuel into electricity without combustion.