Ferrari เปิดตัว 12cilindri รถซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ V12 ไร้ระบบอัดอากาศวางหน้ารุ่นใหม่มาแทน 812 Superfast โดยชื่อรุ่นบ่งบอกถึงขุมกำลังของรถอย่างชัดเจนเพราะเป็นภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า 12 กระบอกสูบ พร้อมนำแนวทางการออกแบบมาจากม้าลำพองในตำนาน

Ferrari 12Cilindri ถูกระบุว่านำแรงบันดาลใจมาจากรถ Grand Tourer ในตำนานของค่ายม้าลำพองยุค 1950-60 ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นรถ 2 ที่นั่งเครื่องยนต์ V12 วางหน้าที่รวมทั้งความสวยงาม ความอเนกประสงค์ และสมรรถนะไว้ด้วยกัน โดยรถรุ่นใหม่แสดงถึงพัฒนาการที่สืบทอดจากตำนานที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมกับยกระดับด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และการออกแบบ

ตัวรถที่มีความยาว 4,733 มม. กว้าง 2,176 มม. สูง 1,292 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,700 มม. มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่ออกจากรถรุ่นก่อนหน้าด้วยเส้นสายที่ชัดเจนสร้างความเฉียบคมพร้อมกับยังคงความรู้สึกของรถจากFerrari นอกจากนี้ยังมีฝากระโปรงหน้าและบริเวณด้านข้างที่เรียบไหลลื่นมีพลัง นอกจากนี้รถยังมีทั้งไฟหน้าและรูปทรงของกระจังหน้าที่ต่างจากสิ่งที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของรถก่อนหน้า

ด้านท้ายของรถที่ยังคงแนวทางการการออกแบบเน้นความเรียบสะอาดมาพร้อมกับแถบไฟท้ายเรียวเล็ก และมีการใช้ 2 Active Flap แทนสปอยเลอร์หลัง ขณะที่ส่วนล่างของด้านหลังเป็นสีดำหรือคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมมี Diffuser ขนาดใหญ่เพื่อสร้างความรู้สึกลอยตัวของตัวถังรถ

รถรุ่นใหม่ยังเน้นแอโรไดนามิก เพราะด้านท้ายของรถนอกจากส่วนปลายฝาท้ายและแอคทีฟแอโรที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับรถแล้ว ยังส่งผลต่อแอโรไดนามิกของรถด้วย โดย Flap ด้านหลังรถมีสองรูปแบบการทำงานคือ Low Drag ซึ่งทำงานจนถึงความเร็ว 60 กม./ชม. และ High Downforce ซึ่งทำงานเมื่อความเร็วของรถอยู่ระหว่าง 60- 300 กม./ชม. เพื่อสร้างแรงกดให้กับรถ นอกจากนี้ยังมีออกแบบใต้ท้องรถเพื่อสร้างการรับน้ำหนักในแนวตั้งสูงสุด พร้อมมีช่องระบายอากาศหลังล้อหน้าเพื่อลดแรงดันในห้องเครื่อง

ห้องโดยสารจองรถมีความทันสมัยด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว จอตรงกลางขนาด 10.25 นิ้ว และยังสามารถติดจอขนาด 8.8 นิ้วด้านหน้าผู้โดยสารได้ ส่วนแนวทางการออกแบบถูกระบุว่าแบ่งเป็น 3 ส่วนอย่างชัดเจนคือ ส่วนบนของแผงแดชบอร์ดที่มีความต่อเนื่องไปถึงแผงประตู ส่วนที่ 2 คือพื้นที่ตรงกลาง และส่วนที่ 3 บริเวณเบาะและเท้า ซึ่งแต่ละส่วนมีลักษณะที่ชัดเจน ส่วนผู้ที่ต้องการความรื่นรมณ์จากเสียงเพลงมากขึ้นทางผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์ก็มีออปชันระบบเสียง Burmester 1600 W และลำโพง 15 ตำแหน่งให้เลือกติดเพิ่ม

แม้ขุมพลัง V12 ของรถจะยังคงมีความจุ 6.5 ลิตรไม่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้า แต่ได้รับการปรับหลายส่วนทำให้มีการทำงานถึง 9,500 รอบ/นาที ขณะที่กำลังของรถอยู่ที่ 830 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 678 นิวตัน-เมตร โดยใช้ระบบส่งกำลัง DCT 8 สปีด ขณะที่ตัวเลขความเร็วของรถใช้เวลา 2.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาไม่ถึง 7.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุดกว่า 340 กม./ชม.

การอัปเกรดเครื่องยนต์ V12 ของรถรุ่นใหม่มีทั้งการใช้ก้านสูบไทเทเนียมที่ทำให้ลดมวลในการเคลื่อนที่ลง 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับก้านสูบเดิมที่เป็นเหล็กกล้า ใช้ลูกสูบอลูมิเนียมอัลลอย ใช้เพลาข้อเหวี่ยงที่น้ำหนักเบาลงและได้รับการปรับสมดุลย์ใหม่ ใช้ชุดควบคุมการเปิดเปิดวาล์วเหล็กกล้าเคลือบผิว Diamond-like carbon เพื่อลดการเสียดี และปรับปรุงเมคานิกของเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ส่วนราคาและกำหนดการขายรถเครื่องยนต์ V12 วางหน้ารุ่นใหม่ทาง Ferrariยังไม่มีการระบุออกมา