หลังจาก Dino 246 ยุติการผลิตไปในช่วงทศวรรษที่ 1970 ทาง Ferrari ก็ไม่ได้ทำรถสำหรับถนนสาธารณะที่มีเครื่องยนต์ V6 เป็นขุมกำลังออกมาอีกเลย จนกระทั่งล่าสุดทางค่ายม้าลำพองนำเครื่องยนต์ V6 กลับมาอีกครั้งแถมพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าของระบบปลั๊กอินไฮบริดกับรถสปอร์ตเครื่องวางกลาง-หลังในชื่อ 296 GTB ซึ่ง 2 ตัวเลขแรกของชื่อรุ่นมาจากความจุของเครื่องยนต์ เลขตัวหลังมาจากจำนวนลูกสูบที่ใช้ และ GTB มาจาก Gran Turismo Berlinetta ซึ่งคำหลังเป็นภาษาอิตาลีที่มักใช้กับรถสปอร์ตคูเป้ 2 ที่นั่ง โดยเรียกได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้เครื่องยนต์ V6 กับรถสปอร์ตที่มีโลโก้ม้าลำพอง เนื่องจากรถสปอร์ตเครื่องยนต์ V6 ในยุค 1970 ใช้ชื่อ Dino

เครื่องยนต์ V6 120 องศา 2.9 ลิตรเทอร์โบที่วางอยู่ใน Ferrari 296 GTB มีกำลัง 663 แรงม้า ซึ่งทาง Ferrari ระบุว่าเป็นเครื่องยนต์ V6 ที่สร้างสถิติให้แรงม้าต่อลิตรมากที่สุดด้วยจำนวน 221 แรงม้า/ลิตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกันมีกำลัง 167 แรงม้า ส่งผลให้แม้ 296 GTB จะมีจำนนลูกสูบของเครื่องยนต์น้อยกว่ารถรุ่นอื่นของ Ferrari แต่ก็มีกำลังรวมเครื่องยนต์และมอเตอร์ 830 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 740 นิวตัน-เมตรที่ 6,250 รอบ/นาที

สำหรับการส่งกำลังสู่ล้อเป็นหน้าที่ของเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีด ซึ่งช่วยให้ 296 GTB ใช้เวลา 2.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และใช้เวลา 7.3 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. สำหรับความเร็วสูงสุดของรถถูกระบุว่ามากกว่า 330 กม./ชม.

ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าใน 296 GTB ถูกติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ ได้รับพลังงานจากแบตเตอรี 7.45 kWh ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ที่พื้นรถซึ่งสามารถให้พลังงานสำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้น้ำมันได้ 25 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามทาง Ferrari ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการชาร์จพลังงานออกมา

ในด้านการออกแบบภายนอกของรถสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่แสดงถึงอิทธิพลที่มาจากรุ่นใหญ่กว่าอย่าง SF90 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดที่ Ferrari ออกมาเมื่อปี 2019 และรถแข่ง 250 LM ในยุค 1960 ของ Ferrari นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังแอคทีฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก LeFerrari ซึ่งสร้างแรงกดได้ถึง 360 กิโลกรัมที่ความเร็ว 250 กม./ชม. และแม้จะเป็นรถที่มีทั้งเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้งแบตเตอรี แต่ทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากอิตาลีก็สามารถจัดการจนรถสปอร์ตรุ่นใหม่ของตนมีน้ำหนักเพียง 1,470 กิโลกรัม แต่หากต้องการลดน้ำหนักลงอีกก็มีแพ็กเกจ Assetto Fiorano ซึ่งเต็มไปด้วยการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งภายนอกและภายในของรถ รวมทั้งกระจกหลัง Lexan และยาง Michelin Sport Cup 2 R ให้เลือกเป็นออฟชั่น

ภายในห้องโดยสารของรถอาจจะดูแปลกสำหรับรถในยุคปัจจุบัน แต่เป็นการออกแบบมาเพื่อเน้นไปทีผู้ขับอย่างแท้จริง เพราะไม่มีคอนโซลกลางขนาดใหญ่ที่ติดตั้งจอทัชสกรีนซึ่งคุ้นตากับรถในปัจจุบัน ในขณะที่แผงแดชบอร์ดของรถมาพร้อมกับการออกแบบโดยที่ไม่เชื่อมต่อกับส่วนกลางระหว่างเบาะทั้ง 2 ซึ่งเป็นการย้อนไปสู่รถ Dino ที่ใช้เครื่องยนต์ V6 ในยุค 1970 หรือจริงๆ แล้วเรียกได้ว่ามีความคล้ายกับภายในห้องโดยสารของ SF90

หากอยากเป็นเจ้าของรถที่มีโลโก้ม้าลำพองใช้เครื่องยนต์ V6 ทาง Ferrari ตั้งราคา 296 GTB ไว้ที่ 296,000 ยูโร โดยจะเริ่มส่งมอบรถให้ผู้ซื้อในยุโรปได้ช้วงต้นปีหน้า

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th