Ferrari Purosangue คว้ารางวัล COMPASSO D’ORO 2024
Ferrari Purosangue โมเดล 4 ประตูรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ Ferrari ได้รับรางวัลออกแบบอันทรงเกียรติ Compasso d’Oro มาครองได้สำเร็จ นับเป็นหนึ่งในรางวัลใหญ่ที่บรรดาอุตสาหกรรมการออกแบบต่างปรารถนา พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นที่มิลาน โดย Flavio Manzoni ประธานฝ่ายออกแบบของ Ferrari เป็นตัวแทนเข้าร่วมในนามของบริษัท
รางวัล Compasso d’Oro จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1954 โดย ADI (Italian Association for Industrial Design จัดมอบรางวัลขึ้นทุกๆ 2 ปี จากการคัดเลือกล่วงหน้าโดย Permanent Design Observatory ของ ADI ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ, นักออกแบบ, นักวิจารณ์, นักประวัติศาสตร์ และนักข่าวผู้ชำนาญการ ในประวัติศาสตร์ของรางวัลนี้ มีรถยนต์ Ferrari 4 คันที่ได้รับรางวัล ได้แก่ F12berlinetta ในปี 2014, FXX K ในปี 2016, Monza SP1 ในปี 2020 และล่าสุดตกเป็นของ Purosangue
เปิดตัว Ferrari Purosangue ครั้งแรกในอาเซียน ราคาเริ่มต้น 40.5 ล้านบาท
คณะกรรมการของ ADI เลือก Purosangue เนื่องจากรถคันนี้ “ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับนวัตกรรมอันโดดเด่นได้อย่างกล้าหาญ เหนือกว่ารถแบบ Gran Turismo รุ่นอื่นๆ ในหมวดหมู่เดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปข้างหน้าที่เด่นชัดกว่าใครท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้”
Ferrari Purosangue ยนตกรรมผู้รังสรรค์มิติใหม่ของม้าลำพองด้วยการขยายสู่ขอบเขตที่เหนือความคาดหมาย สถาปัตยกรรมอันล้ำสมัยส่งให้รถรุ่นนี้เป็นยนตรกรรมที่มีอรรถประโยชน์ ผสานความสะดวกสบายเหนือระดับเข้ากับสมรรถนะและความเร้าใจในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Ferrari
ชื่อของ Purosangue (Thoroughbred – พันธุ์แท้) สื่อถึงการออกแบบของรถได้อย่างตรงประเด็น ด้วยตัวถังที่เรียบเท่แต่ให้ความบึกบึน ส่งผลให้ดูแตกต่างไปจากรถแบบ 4 ประตู-4 ที่นั่ง รุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด ทั้งยังมาพร้อมกับที่สุดแห่งความสะดวกสบาย, หรูหราโอ่อ่า และการตกแต่งที่งดงามภายในห้องโดยสาร รถคันนี้จึงไม่เพียงแค่เร็ว และคล่องแคล่วอย่างเหลือเชื่อเท่านั้น ทว่ายังเป็น Ferrari 4 ที่นั่งคันแรก ที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับให้แก่ผู้โดยสารทั้งสี่อีกด้วย
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: คาวาลลิโน มอเตอร์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Ferrari Purosangue เป็นรถสปอร์ตแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง ที่สร้างบรรทัดฐานใหม่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ด้วยเครื่องยนต์แบบ V12 วางกลางลำด้านหน้า อันเลื่องชื่อของมาราเนลโล ด้วยพละกำลังถึง 725 แรงม้า โดดเด่นด้วยเสียงคำรามอันน่าหลงใหลของเครื่องยนต์เฟอร์รารี่ ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์เฟอร์รารี่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ Purosangue เป็นยนตรกรรมแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในกลุ่ม
ม้าลำพองรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผสานเข้ากับสุนทรียะของรถสปอร์ต GT อันเป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ประสานกลมกลืนกับห้องโดยสารที่สะดวกสบายโอ่อ่า พร้อมความสะดวกสบายตามแบบฉบับของรถเฟอร์รารี่ 4 ที่นั่ง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางมอบความรู้สึกราวกับห้องนั่งเล่นที่หรูหรา และโฉบเฉี่ยวแบบสุดขั้ว พร้อมติดตั้งเบาะนั่งไฟฟ้าแบบทำความร้อนได้ทั้ง 4 ที่นั่ง รวมทั้งมีที่เก็บสัมภาระท้ายรถขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟอร์รารี่เคยผลิตออกมา นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใส่สัมภาระอีกด้วย
Ferrari Purosangue มาพร้อม Warranty ฟรี 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และยังสามารถต่ออายุได้ถึง 15 ปี พร้อมทั้งการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดฟรี 5 ปี การดูแลบำรุงรักษาตามระยะทางฟรี 7 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง โดยบริการจากทีมช่างผู้ชำนาญการด้วยเครื่องมือมาตรฐานจากมาราเนลโล ประเทศอิตาลี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการรักษาประสิทธิภาพและความเป็นเลิศ อันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่
เพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับโครงการนี้ และสร้างยนตกรรมที่คู่ควรกับการเป็นส่วนหนึ่งในเรนจ์ จึงได้สร้างสรรค์เลย์เอาต์และนวัตกรรมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับรูปทรงทั่วไปของรถแบบ GT สมัยใหม่ (ที่เรียกว่า Crossover และ SUV)
โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ของรถ GT สมัยใหม่ มักถูกติดตั้งเยื้องไปด้านหน้าจนเกือบคร่อมเพลาหน้า พร้อมกับชุดเกียร์ที่ต่อตรงไปยังเครื่องยนต์ ส่งผลให้มีการกระจายน้ำหนักไม่เหมาะสม ทำให้ขาดไดนามิก และอรรถรสในการขับขี่ซึ่งลูกค้าของม้าลำพอง และผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่คุ้นเคยกันดีในรถ Ferrari
ในทางกลับกัน Purosangue ใช้เครื่องยนต์แบบวางกลางลำด้านหน้า และติดตั้งชุดเกียร์ไว้ด้านหลัง เพื่อให้ได้มาซึ่งเลย์เอาต์ระบบขับเคลื่อนแบบรถสปอร์ต หน่วยควบคุมการถ่ายทอดกำลัง (Power Transfer Unit – PTU) ติดตั้งไว้ด้านหน้าของเครื่องยนต์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีการทำงานไม่เหมือนใคร เหล่านี้ช่วยให้รถมีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก หน้า:หลัง ที่ 49:51 เปอร์เซ็นต์ ทีมวิศวกรแห่งมาราเนลโล่ เห็นพ้องว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำด้านหน้า