เผยโฉม Ferrari SF90 Spider ซูเปอร์คาร์ปลั๊ก-อิน เปิดประทุนรุ่นแรกจากมาราเนลโล่
Ferrari ค่ายซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี เผยโฉมโมเดลเปิดประทุนปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นแรก SF90 Spider ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในส่วนของสมรรถนะ, นวัตกรรม และความเร้าใจในการขับขี่ให้กับแบรนด์ “ม้าลำพอง” ตลอดจนบรรดารถสปอร์ตในกลุ่มเดียวกันอีกด้วย
รถเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้มีสเป็ก และสมรรถนะระดับทำลายสถิติ เช่นเดียวกับที่สุดแห่งซูเปอร์คาร์อย่าง SF90 Stradale ทั้งยังเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นไปอีกขั้น ด้วยหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (Retractable Hard Top–RHT) สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Ferrari ซึ่งนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2011 กับ Berlinetta เครื่องวางกลางลำ SF90 Spider แสดงให้เห็นนิยามใหม่ของซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการปรับปรุงจนเป็นรถในอุดมคติของผู้ที่ต้องการสุดยอดแห่งเทคโนโลยีจากเฟอร์รารี่ ทว่ายังคงหลงใหลความสุขแห่งการขับขี่รถยนต์แบบเปิดประทุน
ระบบ Plug-in Hybrid ของ SF90 Spider ช่วยรับประกันได้เป็นอย่างดีถึงสมรรถนะที่ไม่มีรถเปิดประทุนแบบโปรดักชั่นรุ่นใดจะเทียบเคียงได้ พละกำลัง 780 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบชาร์จ ถูกเสริมทัพด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบ่งเป็น 1 ตัวส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง และ 2 ตัวส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า นำมาซึ่งกำลังรวมสูงสุดมหาศาลถึง 1,000 แรงม้า
ระบบที่ล้ำสมัยนี้ไม่ได้ทำให้ประสบการณ์การขับขี่ยุ่งยากขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากระบบจะคอยควบคุม และปรับการจ่ายพลังงานให้เหมาะกับสภาพการใช้งานโดยอัตโนมัติ สิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องทำจึงมีเพียงแค่เลือกโหมดต่างๆ สำหรับการขับขี่ (eDrive, Hybrid, Performance และ Qualify) ผ่านสวิตช์ eManettino แบบใหม่ล่าสุด เพื่อให้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์หลังพวงมาลัย โดย SF90 Spider มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) เช่นเดียวกับ SF90 Stradale ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพขณะออกตัวขึ้นสู่ความเร็วอันน่าทึ่ง: 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.0 วินาที
โครงสร้างทางกลไกที่เหล่าวิศวกรแห่งมาราเนลโล่ นำมาใช้ ช่วยเปิดทางให้พวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบควบคุมเสถียรภาพของรถได้มากยิ่งขึ้น ระบบ eSSC จะตรวจสอบสถานะของเสถียรภาพรถแบบเรียลไทม์ โดยระบบควบคุมจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาควบคุมการทรงตัวของรถด้วยการส่งแรงบิดผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าชุดหน้าไปยังล้อฝั่งใน และนอกโค้งอย่างแยกอิสระจากกัน (Torque Vectoring) ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะถนนในขณะออกจากโค้ง ทำให้ขับขี่บนขีดจำกัดสูงสุดได้อย่างง่ายดาย, เป็นธรรมชาติ และให้ความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
ในด้านของอากาศพลศาสตร์ ผลที่ได้จากการพัฒนาคือที่สุดแห่งการออกแบบ ด้วยดาวน์ฟอร์ซสูงสุดถึง 390 กิโลกรัมที่ความเร็ว 250 กม./ชม. สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถถนนทั้งในด้านของแรงกดและประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ มีการนำหลากหลายนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรมาใช้ ซึ่งนั่นรวมไปถึง Gurney ซึ่งเป็นระบบแอ็กทีฟที่ติดตั้งไว้ด้านท้ายของรถ สามารถปรับตามลักษณะการขับขี่ได้อัตโนมัติ และล้อฟอร์จที่มีปีกยื่นออกมา ซึ่งนำรูปแบบมาจากรถแข่ง F1 ของ Ferrari
จุดเริ่มต้นของงานออกแบบ SF90 Spider คือการทำให้แน่ใจว่ารถจะยังคงไว้ซึ่งสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ SF90 Stradale เอาไว้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พื้นที่บริเวณฝาครอบเครื่องยนต์อันเป็นงานฝีมือสุดประณีตของ Ferrari Styling Centre ถูกหลอมรวมอย่างแนบเนียนไปกับส่วนอื่นๆ ของรถ และความสำเร็จที่น่าประทับใจไปกว่านั้นก็คือ สามารถมองเห็นขุมพลัง V8 ได้อย่างชัดเจนผ่านฝาปิดห้องเครื่องแม้จะพับหลังคาลงเก็บก็ตาม นั่นหมายถึงเครื่องยนต์ยังคงเป็นดาวเด่นและเผยให้เห็นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเปิดหลังคาหรือพับเก็บก็ตาม
ปรัชญา “สายตาอยู่บนถนน, มืออยู่บนพวงมาลัย” จากสนามแข่ง ถูกนำมาใช้เพื่อสรีระศาสตร์และการออกแบบภายในห้องโดยสาร ก่อให้เกิดเป็นแนวคิด HMI (Human Machine Interface) นวัตกรรมที่รวมถึงพวงมาลัยแบบใหม่พร้อมด้วยทัชแพดที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมได้เกือบทุกฟังก์ชั่นของรถโดยไม่ต้องละมือทั้งสองออกจากพวงมาลัย จอแสดงผลส่วนกลางระบบดิจิทัล ขนาด 16 นิ้ว เป็นแบบจอโค้งความคมชัดสูง สามารถตั้งค่าและควบคุมได้อย่างครบถ้วนผ่านพวงมาลัย คันเกียร์อัตโนมัติบริเวณคอนโซลกลางมาพร้อมกับร่องเกียร์แบบตะแกรง สไตล์เดียวกับเกียร์ธรรมดาของเหล่าเฟอร์รารี่ที่โด่งดังในอดีต
เช่นเดียวกับรถแบบ Spider รุ่นอื่นๆ ของค่าย “ม้าลำพอง “หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ของ SF90 Spider รับประกันได้ว่าจะมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด และสามารถปกป้องผู้โดยสารจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้เป็นอย่างดีเมื่อปิดหลังคา ทั้งยังให้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และสะดวกสบายสำหรับทุกคน หลังคามีขนาดกะทัดรัด, เรียบง่าย และน้ำหนักเบา สามารถเปิดหรือปิดในเวลาเพียง 14 วินาที ทำงานได้แม้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อยู่ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ของ Ferrari ประสบความสำเร็จคือการที่หลังคาใช้พื้นที่เพียง 100 ลิตรในการจัดเก็บ เมื่อเทียบกับหลังคาทั่วไปที่ต้องการพื้นที่ 150-200 ลิตร และด้วยการใช้โครงสร้างอลูมิเนียมช่วยให้มีน้ำหนักเบากว่าหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ทั่วไปราว 40 กิโลกรัม กระจกหลังแบบควบคุมการเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารมั่นใจว่าจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดแม้จะขับขี่แบบเปิดหลังคาที่ความเร็วสูงก็ตาม
SF90 Spider มาพร้อมกับสเป็กพิเศษ Assetto Fiorana เช่นเดียวกับ SF90 Stradale สำหรับผู้เป็นเจ้าของที่ต้องการเพิ่มความสุดขั้วให้กับการขับขี่ในสนามแข่ง ชุดอุปกรณ์ตกแต่งประกอบด้วยรายการอัพเกรดสุดพิเศษที่ช่วยให้เหนือชั้นกว่ารุ่นมาตรฐานขึ้นไปอีกขั้น ไม่เพียงแค่โช๊คอัพ Multimatic ซึ่งพัฒนามาจากรถแข่ง GT ของ Ferrari ที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานในสนามแข่งเท่านั้น และยังรวมไปถึงการใช้วัสดุระดับไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ (เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ และไทเทเนียม) ซึ่งช่วยตัดน้ำหนักของรถออกไปได้ถึง 21 กิโลกรัม สปอยเลอร์หลังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในสนาม ด้วยเนื้อยางที่นิ่มและมีร่องน้อยกว่ายางปกติ ปิดท้ายด้วยลวดลายทูโทนซึ่งเป็นออปชั่นเฉพาะของ Assetto Fiorano ที่จะช่วยเน้นย้ำให้ภาพลักษณ์แบบรถแข่งเด่นชัดขึ้นระดับ
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Cavallino Motors
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th