แม้ว่า Fiat จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่นและครั้งหนึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดในอิตาลีซึ่งเป็นบ้านตนเองสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว Fiatกลับต้องประสบปัญหายอดขายร่วงอย่างหนักเป็นประวัติศาสตร์ เพราะตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ออกมาจากกระทรวงคมนาคมอิตาลีระบุว่าผู้ผลิตรถยนต์อิตาลีรายนี้มีส่วนแบ่งการตลาดในบ้านตนเองเพียง 9.9 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการที่ยอดขายลดลง 91 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดรถยนต์อิตาลีมียอดขายลดลง 85 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่โชวรูมรถเริ่มปิดตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตามการที่ส่วนแบ่งการตลาดของ Fiat ร่วงลงอย่างหนักเป็นประวัติศาสตร์ ไม่ได้เป็นผลมาจากการปิดรูมรถในอิตาลีเท่านั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมชี้ว่าเป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์อิตาลีรายนี้ขาดการลงทุนด้านการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่

ในอดีตส่วนแบ่งการตลาดของ Fiatเคยลดลงต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 1990 และต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อถึงปี 1998 โดยตอนที่ Sergio Machionne เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอในปี 2004 ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของ Fiatอยู่ที่ 21 เปอร์เซ็นต์ และกระเตื้องขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2017 และเมื่อถึงสิ้นปี 2019 ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดได้ลดลงไปที่ 15 เปอร์เซ็นต์ โดยใน 2 เดือนแรกของปีนี้ทาง Fiatสามารถกอบกู้สถานการณ์จนมีส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาที่ 17 เปอร์เซ็นต์ได้ แต่ก็ต้องประสบกับการมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศตนเองต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ในเดือนมีนาคม ซึ่งแม้ทาง Dataforce ซึ่งเป็นนักวิจัยการตลาดจะมองว่าตัวเลขจริงๆ น่าจะเป็น 10.4 เปอร์เซ็นต์มากกว่า แต่ก็ยังเป็นตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Fiatอยู่ดี

สำหรับสถานการณ์การตลาดนอกอิตาลีของ Fiatอยู่ในสถานะที่ทรงตัวจากความนิยมในรุ่น 500 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วถูกขายไปในยุโรปจำนวน 140,530 คันจากการายงานของ AutoNews Europe

ในปัจจุบัน Fiatมีรถยนต์นั่งทำตลาดอยู่ 5 รุ่นคือ 500, Panda, 500X, 500L และ Tipo เนื่องจากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์อิตาลีรายนี้ได้ยุติการผลิตรถรุ่นต่างๆ ที่มียอดขายต่ำออกไป

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th