First Impression : MG HS เอสยูวีที่เปิดภาพลักษณ์ MG ในอนาคต
MG HS รุ่นนี้เตรียมจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้ ซึ่ง Grandprix Online ได้มีโอกาสไปทดลองขับกันถึงสนามทดสอบรถกว่างเต๋อ (Guangde Proving Ground) ในเซี่ยงไฮ้ เป็นสนามทดสอบรถที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ที่มณฑลอานฮุย ห่างจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปทางตะวันตกร่วม 200 กิโลเมตร เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 22 กันยายน 2555 ด้วยเงินลงทุน 1.6 พันล้านหยวน กันเลยทีเดียว
โดย MG HS เป็นรถในกลุ่มเอสยูวีขนาดกะทัดรัด สร้างขึ้นมาจากแนวคิด MG X Motion มีการเปิดตัวครั้งแรกสู่สาธารณชนเมื่อปี 2018 ที่งาน Beijing Auto Show ถือว่าเป็นรถที่ถูกออกแบบโดยทีมงานนักออกแบบรุ่นใหม่ของ SAIC Motor ซึ่งเป็นค่ายที่ถือครองแบรนด์ MG อยู่ในขณะนี้
รูปแบบตัวถังสวยงาม มีขนาดไม่ใหญ่กำลังพอดี เส้นสายการออกแบบถือว่าเฉียบคม กระจังหน้าขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยไฟหน้า Full LED รวมถึงไฟท้ายแบบ Full LED เช่นเดียวกัน ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางไซส์ 235/50 R18 สะดุดตาด้วยคาลิปเปอร์สีแดงสด ภายในห้องโดยสารโดดเด่นมาก พิถีพิถันในการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียม ให้อารมณ์คล้ายๆ รถแบรนด์ดังฝั่งยุโรปอยู่บ้าง เบาะนั่งแบบสปอร์ตปรับระดับได้ 6 ทิศทาง เบาะหุ้มด้วยหนัง Alcantara สไตล์ Racing พวงมาลัย 3 ก้าน ทรง D-Shape แบบ Multi-Function พร้อมด้วยปุ่ม Super Sport เพื่อการขับที่เร้าใจยิ่งขึ้น
ส่วนมาตรวัดรอบและความเร็วแบบดิจิตอลสีสันคมชัด พร้อมด้วยหน้าจอทัชสกรีนที่คอนโซลกลางขนาด 10.1 นิ้ว ถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพแบบ 360 องศา ติดตั้ง Adaptive Cruise Control และสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารด้วยหลังคาแบบ Anti-pinch Panorama Sunroof อีกด้วย
ด้านขุมพลังมีขนาด 2.0 ลิตร เบนซินเทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ TST 6 Speed พละกำลัง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร มีระยะฐานล้อกว้างถึง 2,720 มม. แถมยังปรับโหมดการขับได้ถึง 4 โหมด
ส่วนการขับบนสนามทดสอบรถกว่างเต๋อ จัดให้ขับวนรอบระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีจุดที่ให้ลองอัตราเร่ง การเข้าโค้ง และการขับบนพื้นผิวที่แตกต่างกัน สิ่งที่ประทับใจคือ อัตราเร่งและระบบช่วงล่างที่ตอบสนองได้อย่างดี ด้านอัตราเร่งเรียกความสนุกได้ การออกตัวทำได้ฉับไว การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่องและลื่นไหล แต่เมื่อปรับเป็นโหมดสปอร์ตด้วยการกดปุ่ม Super Sport ที่พวงมาลัย หน้าจอจะเปลี่ยนกราฟฟิคใหม่ให้ดูเร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมๆ กับอัตราเร่งที่กระฉับกระเฉง เป็นเอสยูวีที่คล่องตัวทั้งทางตรงและทางโค้ง น้ำหนักพวงมาลัยค่อนข้างเบาในทางตรง แต่ให้น้ำหนักและมีชีวิตชีวาในทางโค้ง ถือว่าทำมาได้คมใช้ได้ ส่วนช่วงล่างออกแบบนุ่มนวล แต่หนึบ ไม่แข็ง ทำให้การเร่งความเร็วในโค้งทำได้ดี ท้ายไม่เหวี่ยง (ด้วยความเร็ว 80-100 กม./ชม.) การขับบนพื้นผิวที่ขรุขระในหลายรูปแบบ แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นมีให้สัมผัสได้เล็กน้อย แต่จะมีเรื่องให้ติดใจอยู่หน่อยตรงเบาะนั่งนี่ล่ะ ที่ตรงพนักพิงศีรษะกดมาด้านหน้ามากไปหน่อยเท่านั้นเอง แถมปรับไม่ได้ เพราะเป็นเบาะแบบสปอร์ต
โดยสรุปถือว่า MG HS ทำออกมาได้ดีทัดเทียมกับรถทางฝั่งยุโรป เรื่องของเทคโนโลยีเครื่องยนต์อาจจะมีเป็นรองอยู่บ้าง แต่เรื่องการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ใส่เข้ามาทำให้คู่แข่งต้องมองค้อนได้เหมือนกัน ทีนี้ต้องมารอดูกันว่าเมื่อเข้ามาจำหน่ายในไทยจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ หรือไม่ เพราะในจีนมีตัวเลือกเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เพิ่มขึ้นมากอีก (แต่ส่ง 2.0 มาเถอะ มั่นใจว่าขับสนุกกว่าเยอะ) และหลังจากการทดลองขับกล้าพูดเลยว่า MG HS ไม่ธรรมดา และจะเป็นการเปิดโลกสู่ภาพลักษณ์ใหม่ของ MG ได้อย่างยอดเยี่ยม …ต้องลองขับแล้วจะรู้ว่าที่พูดมาไม่ได้โม้เกินจริงเลยสักนิด.
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th