Fitbit Charge 4 กับฟังก์ชั่นใหม่ พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ฟิตบิทเปิดตัว Charge 4 ฟิตเนสแทรคเกอร์สุดแอดวานซ์พร้อมฟังก์ชัน GPS ในตัว การสั่งงาน Spotify แทรคการนอน และอีกมากมายพบกับ Active Zone Minutes วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเฉพาะตัวเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าพร้อมยกระดับการออกกำลังกายกับบริการ Fitbit Premium ฟิตทั้งกายและใจในทุกสถานการณ์ ทดลองใช้ฟรี 90 วัน
Fitbit Charge 4 ตัวช่วยคนรักสุขภาพรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมส่งต่อที่สุดแห่งความทันสมัยด้วยเซนเซอร์และฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น GPS ในตัว และฟังก์ชัน Spotify นอกจากนี้ Charge 4 ยังมาพร้อมสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุดสำหรับฟิตเนสแทรคเกอร์ ด้วยฟีเจอร์พร้อมใช้งานอัจฉริยะ แบตเตอรี่ที่มีอายุยาวนานกว่า 7 วัน
ดีไซน์สำหรับกันน้ำ ทั้งหมดในราคาที่พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ โดย Charge 4 ยังมาพร้อมกับ Active Zone Minutes ฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมเปรียบเทียบกับอายุ เพื่อตอบสนองทุกกิจกรรมของผู้ใช้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับคนรักสุขภาพ ฟิตบิทได้เพิ่มเนื้อหาใหม่ลงใน Fitbit Premium อาทิ โปรแกรมออกกำลังกายจากแบรนด์ดังอย่าง barre3, Down Dog, และ Physique 57 และเครื่องมือที่ช่วยให้ทุกคนฝึกฝนจิตใจ ตั้งเป้าหมาย และอีกมากมาย พร้อมกันนี้ฟิตบิทยังมีเนื้อหาด้านสุขภาพ ให้ใช้ฟรีกว่า 40 ชิ้น พร้อมเปิดให้ทดลองใช้ Fitbit Premium โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 90 วัน ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดอุปกรณ์ใหม่ ซอฟต์แวร์และข้อมูลต่างๆ ฟิตบิทพร้อมที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพให้กับผู้ใช้อย่างครบวงจร
Charge 4 ถูกออกแบบสุดอินโนเวทีฟ พร้อมการใช้งานแบบครบครันด้วย GPS เซนเซอร์ใหม่ล่าสุด แบตเตอรี่อายุใช้งานยาวนาน แต่ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์สุดพรีเมียม บางเบา กันน้ำ2 และราคาที่จับต้องง่ายได้ ตอบโจทย์การใช้งานตลอดทั้งวัน (และตลอดคืน) ด้วยปุ่มกดแบบ inductive หน้าจอกันรอย พร้อมปรับความสว่างของหน้าจอทัชสกรีนเพื่อการใช้การในแสงธรรมชาติ
ฟังก์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง built-in GPS นี้ ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถออกจากบ้านเพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ออกไป ซึ่งผู้ใช้จะยังสามารถแทรคความเร็วของการวิ่งและระยะทางได้แบบ real-time นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายได้มากกว่า 20 โหมด เช่น การเดินป่า การวิ่ง หรือเดินเร็ว หลังจากการออกกำลังกายพร้อมใช้งาน GPS ในตัวแล้ว ผู้ใช้สามารถซิงค์อุปกรณ์เข้ากับแอปพลิเคชันฟิตบิท เพื่อวัดค่าการใช้งานในระบบ GPS-powered heat map สำหรับตรวจสอบความหนักเบาของการออกกำลังกาย โดยจะวัดจากอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและพร้อมที่จะพัฒนาการออกกำลังในระดับต่อไปแผนที่สำหรับระดับการออกกำลังสามารถใช้ได้บนแอปพลิเคชันฟิตบิทสำหรับทุกกิจกรรมที่ใช้งานพร้อมกับ built-in GPS และระหว่างเชื่อมต่อกับ GPS
นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย พร้อมปลดล็อคสุขภาพที่ดีกว่าไปกับ Active Zone Minutes เนื่องจากทุกคนมีกิจกรรมที่ต่างกันในแต่ละวัน ทำให้ฟิตบิทคิดค้น Active Zone Minutes ออกมาให้ผู้ใช้เข้าใจกิจวัตรและผลลัพธ์ต่อสุขภาพโดยรวมของตนเองมากกว่าจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน โดย Active Zone Minutes จะช่วยวัดอัตราการเต้นของหัวใจผ่านระบบ PurePulse® 24/7 ของฟิตบิท ผ่านการออกกำลังกายหลายรูปแบบ อาทิ HIIT โยคะ หรือเดินเร็ว ซึ่งในแต่ละนาทีของกิจกรรมเผาผลาญไขมัน ผู้ใช้จะได้รับเครดิตและดับเบิลเครดิตสำหรับกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากขึ้นในคาดิโอและกิจกรรมขั้นสูง โดย Active Zone Minutes นั้นจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจการออกกำลังกายของตัวเองและปริมาณการออกกำลังกายในแบบเฉพาะตัวให้เข้ากับเป้าหมายรายวัน และรายสัปดาห์ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเป้าหมายสำหรับ Active Zone Minutes บนแอปพลิเคชันฟิตบิท ค่าเริ่มต้นอยู่ที่การออกกำลังกายแบบทั่วไป 22 นาที และ 11 นาทีสำหรับการออกกำลังแบบหนักต่อหนึ่งวัน
Charge 4 ยังมาพร้อมกับระบบเตือนแบบ real-time ขณะออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถประเมินว่าควรเพิ่มหรือลดความหนักจากกิจกรรมที่ทำอยู่ โดยหลังการออกกำลังกาย ฟิตบิทสามารถประมวลอัตราการเต้นของหัวใจโดยรวมในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ใช้พร้อมท้าทายตัวเองในทุกๆ วันและทำให้ทุกนาทีคุ้มค่าและมีความหมายที่สุด
Active Zone Minutes ถูกพัฒนาขึ้นตามคำแนะนำด้านสุขภาพจากสถาบันด้านสุขภาพระดับโลก ซึ่งรวมไปถึง World Health Organization (WHO) และ American Heart Association ซึ่งแนะนำให้ออกกำลังกายแบบทั่วไป 150 นาที และออกกำลังแบบหนัก 75 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ป้องกันโรคต่างๆ พัฒนาการทำงานของสมอง ลดภาวะกระสับกระส่าย และเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ
ช่วยปรับการนอนให้ไปถึงเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
การนอนหลับเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย จิตใจ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งฟีเจอร์ตรวจสอบการนอนของฟิตบิทได้รวมอยู่ใน Charge 4 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและปรับพฤติกรรมการนอนหลับให้มีคุณภาพ โดยที่ผ่านมา ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทวอทช์ของฟิตบิทเท่านั้น ซึ่งฟีเจอร์ Smart Wake (พร้อมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้) จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยปลุกผู้ใช้ให้ตื่นตามเวลาที่เหมาะสม และ Sleep Score ทำให้ผู้ใช้สามารถดูคะแนนด้านการนอนหลับได้ในแอปพลิเคชันฟิตบิท เพื่อตรวจสอบข้อมูลด้านคุณภาพการนอนของตนเองในทุกวัน นอกจากนี้ Charge 4 ยังมีฟีเจอร์สำหรับการนอนหลับอีกมากมาย ที่จะช่วยให้ทุกคนมีคุณภาพการนอนหลับที่ดี ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายจากบนข้อมือ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งปลุกหรือระบบการนอนหลับ
Charge 4 ยังมาพร้อมกับเซนเซอร์ SpO2 ให้ผู้ใช้ได้อ่านกราฟ Estimated Oxygen Variation หรือระดับออกซิเจนในเลือดจากแอปพลิเคชันของฟิตบิท เพื่อประเมินความเข้มข้นของค่าออกซิเจนในเลือด ซึ่งจะช่วยในการประเมินผลการหายใจในช่วงนอนหลับได้
Charge 4 ยังมีฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ทุกคนต่างหลงรักอย่าง SmartTrack® ระบบแทรคกิจกรรมแบบอัตโนมัติที่แสดงผลตั้งแต่คะแนนและผลจากการออกกำลังกายแบบคาดิโอ การเดินขึ้นบันได พร้อมระบบแจ้งเตือนทุกๆ ชั่วโมง การแทรคสุขภาพสำหรับสุภาพสตรี การแทรคอาหาร น้ำ และน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีแรงผลักดันที่พร้อมส่งต่อให้กันจากเน็ตเวิร์คทั่วโลกจากกลุ่มคนออกกำลังกายกว่า 30 ล้านคน รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้ความรู้ในด้านการออกกำลังกายและนอนหลับผ่านฟิตบิทเพื่อให้ทุกคนเข้าใจและสามารถเชื่อมโยงการดูแลสุขภาพกายและใจไปพร้อมๆ กัน
Charge 4 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ฉลาดล้ำยิ่งกว่าเดิม เพื่อตอบโจทย์ของการเป็นโค้ชทางด้านสุขภาพที่คอยดูแลผู้ใช้ตลอดเวลาแต่ก็ไม่รบกวนจนเกินไป โดยอุปกรณ์ใหม่นี้เป็นแทรคเกอร์ตัวแรกจากฟิตบิทที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Spotify ได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถฟังเพลย์ลิสต์โปรดระหว่างออกกำลังกาย โดยสามารถกดเลือกเพลง เปลี่ยนเพลง กดข้าม และยังกด Like เพลงจากข้อมือได้อีกด้วย นอกจากนั้นฟิตบิทยังมาพร้อมระบบแจ้งเตือนการโทรเข้า ข้อความ ตารางเวลา และการเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกับครอบครัวและเพื่อนได้ตลอดเวลา ผ่านการตอบแบบทันทีจากแอนดรอยด์ด้วย on-the-go หรือเลือกปิดเสียงเตือนด้วยโหมด Do Not Disturb พร้อมเพิ่มระบบจ่ายเงินบนข้อมือของคุณด้วย Fitbit Pay™ ที่ให้บริการในกว่า 500 ร้านค้า ใน 44 ประเทศ และระบบขนส่งกว่า 10 แห่งทั่วโลก
การใช้งานของแบตเตอรี่ เป็นสิ่งสำคัญที่ฟิตบิทคำนึงถึง Charge 4 จึงมาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานยาวนานกว่า 7 วัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานและพร้อมมีแรงขับเคลื่อนตลอดเวลา ซึ่งมาพร้อมกับระบบทัชสกรีนและกราฟฟิกเชิงตอบโต้ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ เข้าถึงสิ่งสำคัญในชีวิตได้อย่างง่ายดายเพียงดูจากข้อมือของตัวเอง แบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 5 ชั่วโมงสำหรับการใช้ GPS แบบต่อเนื่อง; ระยะเวลาการช้งานของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการใช้งานและปัจจัยต่างๆ
มากไปกว่านั้น Premium ยังเพิ่มความท้าทายให้ผู้ใช้ในแบบฉบับที่ปรับให้เหมาะสมกับตัวเองได้ถึง 3 แบบ รวมถึง Get Fit Bingo ซึ่งผู้ใช้สามารถแข่งขันกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว เช่น การวัดจำนวนก้าวเดิน หรือ การตั้งเป้าหมาย Active Zone Minutes ในแต่ละวัน โดย จะมีการพัฒนาฟีเจอร์นวัตกรรมบริการ Premium อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อดูแลผู้ใช้ในด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ราคาและการวางจำหน่าย
ฟิตบิทเปิดให้ Pre-order สินค้า Charge 4 และ Charge 4 Special Edition ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทางเว็บไซต์ Fitbit.com โดยเริ่มจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ บนร้านค้าออนไลน์ของตัวแทนจำหน่าย อาทิ B2S, Dotlife, Jaymart, King Power, Lazada, Power Buy, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศูนย์การค้าโรบินสัน และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ และเริ่มจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป Charge 4 มาในสีดำ สี Rosewood และสี Storm Blue/black โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 6,490 บาท และ Charge 4 Special Edition ซึ่งมาพร้อมกับสายข้อมือสีดำแกรนิต และสายสีดำแบบธรรมดา เหมาะสำหรับเปลี่ยนใช้งานหลากหลายโอกาส ในราคา 6,990 บาท และเตรียมพบกับ UnitedHealthcare Motion® โปรแกรมการเดินสำหรับผู้จ้างงาน ซึ่งจะถูกเพิ่มเข้าสู่ Charge 4 ได้ในเร็วๆ นี้
ตกแต่ง Charge 4 ของคุณด้วยอุปกรณ์เสริม สายข้อมือสีต่างๆ รวมไปถึง REPREVE® ซึ่งทอขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลในสี midnight และ rosewood, สายข้อมือซิลิโคนเหมาะสำหรับการออกกำลังกายในสี Evergreen และ Frost White, และสายหนังทำมือสุดพรีเมียมจาก Horween® อุปกรณ์เสริม จะจัดจำหน่ายแยกกับอุปกรณ์ Charge 4 ในร้านค้าชั้นนำและร้านค้าออนไลน์ และสามารถใช้ร่วมกับฟิตบิท Charge 3 ได้ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 990 บาท
Active Minutes Zone จะเริ่มต้นให้บริการได้บนอุปกรณ์ Charge 4 ก่อนที่จะเริ่มให้ใช้บริการบนสมาร์ทวอทช์ของฟิตบิทรุ่นต่างๆ และบริการ Fitbit Premium เริ่มเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยราคาสมาชิกที่ 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th