รีวิว: FOMM One รถไฟฟ้าขนาดเล็ก เปิดโลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้ทดลองขับเจ้า รถไฟฟ้าขนาดเล็ก FOMM ONE กันสักที หลังจากที่รอมานานร่วมปี โดยวันนี้ บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถไฟฟ้าขนาดเล็ก FOMM นอกจากจะประกาศความพร้อมเปิดตัว FOMM One รุ่นแรกในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ
ภายในงาน Motor Expo 2018 ที่ใกล้จะถึงนี้แล้ว ยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับและได้เห็นกันชัดๆ ว่ามันสามารถลอยตัวและเคลื่อนที่บนน้ำได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
FOMM One รถไฟฟ้า 100% คันเล็กๆ สีสันน่ารัก เหมาะกับการใช้งานแบบซิตี้ คาร์
มร.ฮิเดโอะ ซูรุมากิ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด ผู้ให้กำเนิด FOMM One
สำหรับ FOMM One เป็นรถนั่งบุคคลขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งถูกออกแบบโดยทีมงานวิศวกรชาวญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง มร. ฮิเดโอะ ซูรุมากิ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด เป็นผู้เริ่มต้นโปรเจคนี้ตั้งแต่ช่วงหลังจากที่คลื่นยักษ์สึนามิเข้าถล่มชายฝั่งญี่ปุ่น และได้ลงทุนเปิดสายการผลิตรถรุ่นแรกในประเทศไทยด้วยเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท
ด้วยงบประมาณลงทุนเพียง 1,000 ล้านบาทในโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดเล็กที่เรียกว่า “Micro-Fab” ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตรถไฟฟ้าขนาดเล็กนั้น จะมีชิ้นส่วนที่ลดลงจากรถทั่วไปจาก 30,000 ชิ้นเหลือเพียง 1,600 ชิ้ ซึ่งแม้ว่า FOMM One จะเป็นรถที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด แต่สามารถรองรับที่นั่งได้ถึง 4 ที่นั่ง และไม่ก่อมลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยอัตราสิ้นเปลืองเพียง 30 สตางค์ต่อกิโลเมตร ด้วยการชาร์จในระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพียง 6 – 8 ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร
FOMM One เป็นหนึ่งในยานยนต์ที่ผ่านมาตรฐานรถยนต์ขนาดเล็ก L6e จากยุโรป ซึ่งเป็นมาตรานเดียวกันนกับที่ใช้ในหมวดรถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยภายห้องโดยสารที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายโดยคันเร่งติดอยู่บนพวงมาลัย ช่วยลดการผิดพลาดขณะเบรก
การออกแบบได้รับแนวคิดจากการแต่งหน้าสไตล์ Kabuki ซึ่งผสานประโยชน์ใข้สอยเข้ากับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้อย่างกลมกลืน โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 7 สีได้แก่สีขาว สีดำ สีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน สีชมพู และสีเงิน (Aluminum)
อีกหนึ่งไฮไลท์คือ FOMM One ได้ติดตั้งระบบป้องกันน้ำเข้ารถและลอยตัวได้เมื่อมีน้ำท่วมกระทันหัน แต่ FOMM One ไม่ใช่ยานสะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งการออกแบบให้สามารถลอยน้ำได้เพียงเพื่อรับกับวิกฤติการณ์ธรรมชาติที่ไม่อาจคาดการณ์ได้เท่านั้นเอง
FOMM One มีขนาดตัวถัง ยาว 2,585 x กว้าง 1,295 x สูง 1,560 มม. ระยะฐานล้อ 1,760 มม. มีน้ำหนักตัวรถเพียง 445 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่) เมื่อรวมแบตเตอรี่ 630 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แบบ In-Wheel ขนาด 5kWx2 ให้พละกำลัง 10 กิโลวัตต์ แต่มีแรงบิดถึง 560 Nm ทำความเร็วได้สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มสามารถขับได้ระยะประมาณ 160 กิโลเมตร โดยมีที่แบตเตอรี่่มีขนาด 2.96 kWh ทั้งหมด 4 ก้อน หัวชาร์จเป็นแบบ Type2 และใช้เวลาในการชาร์จ 6 ชั่วโมง ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบดับเบิล วิชโบน ด้านหลังแบบมัลติ ลิงก์ ล้อและยางขนาด 145/65R15
เดินสำรวจรอบคันพบว่าตัวถังมีขนาดที่เล็กและสั้นมาก แม้ฐานล้อจะกว้างจะตัวถังดูสูงโย่ง เลยทำให้รู้สึกกังวลว่าเมื่อขับเข้าโค้งตัวรถมีจะมีอาการโคลงเคลงหรือไม่ เมื่อเข้าไปนั่งจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนร่างใหญ่สูง 180 ซม. และตัวหนามาก แต่ยังมีพื้นที่เหนือศีรษะได้อยู่ แต่หากเป็นผุู้ขับและผู้โดยสารร่างเล็กจะรู้สึกไปอีกแบบ รถคันนี้มี 4 ที่นั่ง ซึ่งนั่งได้จริง เพียงแค่จะรู้สึกแน่นๆ มากไปหน่อย มันเหมาะกับการนั่งแบบ 2 คนมากกว่า ที่สำคัญหากเป็นคนตัวใหญ่ 2 คนนั่งที่ด้านหน้าจะสัมผัสได้ถึงไหล่ชนไหล่กันแบบแนบชิดกันเลยทีเดียว (เหมาะกับคู่รักวัยหวานที่เพิ่งคบกันใหม่ๆ) เอาเป็นว่าถ้าขับเพียงคนเดียวจะรู้สึกสบายๆ กว่านี้
พวงมาลัยเป็นสิ่งที่แปลกออกไป ออกแบบโดยมีต้นแบบมาจากพวงมาลัยรถตุ๊กตุ๊กของไทยเรานี่เอง แล้วมีการปรับแบบให้เป็นอย่างที่เห็น อารมณ์คล้ายคันบังคับของเครื่องบินโดยสาร โดยมีอัตราทดแบบ 1 ต่อ 1 หมุนเพียงครึ่งรอบก็จะเลี้ยวยูเทิร์นได้ง่าย เพียงแต่ต้องปรับวิธีการขับอยู่สักพักให้คุ้นชิน เพราะรถคันนี้ไม่มีแป้นคันเร่ง มีเพียงแป้นเบรคและเบรคมือมากให้ การเร่งทำได้โดยการกดแป้นแพดเดิลที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยนั่นเอง ซึ่งหากต้องการรีดพละกำลังแบบเต็มที่ให้กดแป้นแพดเดิลทั้งสองข้างพร้อมกัน จะทำให้ใช้พลังงานได้เต็ม 100% แต่หากเลือกกดเพียงข้างใดข้างหนึ่งจะใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว และเมื่อผ่อนแรงกดจะมีแรงเบรคเกิดขึ้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรค (หากใช้ความเร็วต่ำ แต่ถ้าใช้ความเร็วที่เกินกว่า 40 กม./ชม. ต้องเหยียบเบรคช่วย) การเข้าเกียร์เดินหน้าเพียงกดปุ่ม D ที่คอนโซลเท่านั้น ส่วนถอยหลังกดปุ่ม R และเมื่อจอดรถให้กดปุ่ม N (ไม่มีปุ่ม P) ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
อัตราเร่งทำได้ดีพอสมควร คล้ายๆ กับการขับรถกอล์ฟ หากปรับตัวให้คุ้นเคยแล้วจะสัมผัสได้ถึงการควบคุมที่ง่าย และกล้าที่จะทำความเร็วได้มากขึ้น เพราะในตอนแรกยังรู้สึกเกร็งๆ กับการใช้พวงมาลัยและคันเร่งแบบนี้ รวมถึงความกลัวการเข้าโค้งด้วยความเร็ว กลัวว่าจะหลุดโค้ง แต่เอาเข้าจริงๆ รถกลับให้การยึดเกาะได้ในระดับที่น่าพอใจ และมั่นใจมากขึ้น..ลองนึกถึงการขับใช้งานจริงบนท้องถนน คิดว่าความเหมาะสมและปลอดภัยที่สุดน่าจะเป็นการขับแบบชิดซ้าย เพราะด้วยน้ำหนักตัวถังที่เบา อาจจะถูกแรงลมจากรถที่คันใหญ่กว่าและขับมาด้วยความเร็ว สร้างแรงลมปะทะทำให้ตัวรถโคลงเคลงได้เช่นกัน แต่หากขับอยู่ในหมู่บ้าน ออกถนนที่ไม่ใช่ถนนใหญ่ ยังคงถือว่าใช้งานได้สบาย..เกือบลืม รถคันนี้มีระบบทำความเย็นเช่นเดียวกับรถทั่วไป แต่จะมีเสียงของคอมแอร์ที่ทำงานดังเข้ามาให้ได้ยินอยู่บ้าง เนื่องจากรถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจึงไม่มีเสียงเครื่องยนต์ เสียงของคอมแอร์ทำงานจึงดังเข้าให้ได้ยินแทน
เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว FOMM One คันนี้ เป็นการเปิดโลกใหม่ของการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เราได้เข้าใจและเรียนรู้การทำงานรวมถึงการใช้งานที่เหมาะสม การออกแบบน่าสนใจ สีตัวถังจี๊ดจ๊าดดี แต่ภายในห้องโดยสารยังต้องปรับปรุงเรื่องของวัสดุอีกหน่อย และแน่นอนว่าด้วยราคาค่าตัวระดับ 664,000 บาท เป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ซึ่งหากคิดในระยะยาวค่อนข้างมีความคุ้มค่าเมื่อไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ที่แต่ละปีหากนำตัวเลขมาคิดแล้วถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากด้วยเช่นกัน และการชาร์จไฟฟ้าให้เต็มต่อ 1 ครั้ง จะคิดเป็นค่าไฟไม่ถึง 40 บาท เท่านั้น ซึ่งสามารถเสียบปลั๊กไฟบ้านได้โดยไม่ต้องติดตั้งแท่นชาร์จ
ลงน้ำจริง ลอยจริง เคลื่อนที่ได้จริง
ล้อที่ออกแบบให้มีก้านเป็นแบบใบพัดที่ช่วยให้เคลื่อนที่ในน้ำได้
แต่ไฮไลท์สำคัญคือการออกแบบรถให้เป็นเหมือนอ่างน้ำ ทำให้รถสามารถลอยตัวได้เมื่อมีน้ำท่วม หรือขับตกน้ำ จากที่ได้เห็นการเคลื่อนที่อย่างชัดๆ เห็นว่ารถลอยตัวได้ค่อนข้างนิ่ง เมื่อกดแป้นคันเร่ง ล้อที่หมุนจะตะกุยน้ำทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ โดยล้อแม็กที่ออกแบบมาเหมือนกับใบพัดมีหน้าที่ช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้นั่นเอง ซึ่งเมื่อรถลอยตัวอยู่บนน้ำ เท่ากับว่าอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักจึงสามารถลากจูงหรือดันได้ง่ายๆ ทำให้รับการช่วยเหลือได้ง่ายด้วยเช่นกัน เป็นแนวคิดที่เข้าท่าดี ตรงจุดนี้ชอบใจจริงๆ
ผู้บริหารและทีมงาน ผู้อยู่เบื้องหลัง FOMM One และจุดเริ่มต้นในประเทศไทยในวันนี้
สุดท้ายแล้วอยู่ที่คุณๆ ที่จะตัดสินใจยอมรับกับเจ้ารถไฟฟ้า FOMM One คันนี้ หากเข้าใจในรายละเอียดการใช้งาน และดูความต้องการใช้งานที่ตรงกันแล้ว จะเข้าใจเองว่า FOMM One ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมเพียงใด อย่างน้อยๆ ตอนนี้มีทางเลือกให้ได้สัมผัสและเรียนรู้กันแล้ว และรถพลังงานไฟฟ้าไม่ได้อยู่ไกลเกินจริง สักวันหนึ่งจะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเราอย่างแน่นอน.
เรื่อง/ภาพ: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th