FORD คว้าสุดยอด 3 รางวัลแห่งปี “CAR OF THE YEAR 2020”
Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo
Best Pickup 4WD Under 2,000 c.c.
ยังเป็นรถปิกอัพสายพันธุ์แกร่งที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่ง ความประณีตและเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อันล้ำสมัย ฟอร์ด เรนเจอร์ มาพร้อมความประณีต สะดวกสบายระดับรถยนต์นั่ง และยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานความแกร่งสมบุกสมบันซึ่งเป็นเหตุผลให้ Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo สามารถคว้ารางวัล Best Pickup 4WD Under 2,000 c.c. มาครองได้สำเร็จ ความยอดเยี่ยมจะมีอะไรบ้าง ติดตามได้ใน Car of The Year 2020
Ford Ranger Wildtrak X รุ่นย่อยที่ 28 รุ่นล่าสุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ มาพร้อมอุปกรณ์อัจฉริยะมากมาย ยกระดับกระบะพันธุ์แกร่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกันชนเสริมด้านหน้าแบบสปอร์ตสีดำ ติดสนอร์เกิลสุดเท่พร้อมซุ้มล้อดีไซน์ใหม่ ประดับหมุดที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตให้มีโลโก้ฟอร์ด ติดอยู่ด้านบนหมุดทุกตัว ล้ออัลลอยใหม่ และตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ไวลด์แทรค เอ็กซ์ บนประตูและท้ายกระบะ
จุดเด่นที่คณะกรรมการจับตามอง
ขุมพลัง 2.0L Bi-Turbo 213 แรงม้า และระบบขับเคลื่อน 4WD เต็มรูปแบบ สำหรับ Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo มาพร้อมกับขุมพลังใหม่ ในรูปแบบเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที
ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ สามารถเพิ่มฟังก์ชันเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differentia ได้ Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo ได้รับการติดตั้งระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) สั่งงานด้วยเสียง โดยแสดงผลผ่านจอขนาด 8 นิ้ว ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) สำหรับระบบ SYNC® ที่อยู่ใน Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo ได้รับการพัฒนามาขึ้นอีกขั้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน
ระบบความปลอดภัยเหนือระดับ วางใจในทุกการขับขี่
Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo มาพร้อมกับระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบตรวจจับคนเดินถนน โดยผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนนและระบบตรวจจับยานพาหนะบริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ และช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนน ซึ่งจะทำงานที่ความเร็วสูงกว่า 3.6 กม./ชม.
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบจะช่วยรักษาแรงเบรกในกรณีที่มีการหยุดรถอย่างฉุกเฉิน BA ระบบช่วยการทรงตัวขณะลากจูง TSC (Trailer Sway Control) ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TC และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP (Traction Control and Electronic Stability Program) ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง กล้องมองภาพขณะถอยจอด ระบบกุญแจ Immobilizer สัญญาณกันขโมย Burglar Alarm จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
…และนี่คือความโดดเด่นเหนือใคร ที่ทำให้ Ford Ranger Wildtrak X 2.0L Bi-Turbo ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Best Pickup 4WD Under 2,000 c.c. ประจำปี 2020 จากคณะผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้
Ford Everest Sport
Best PPV Diesel 2WD Under 2,000 c.c.
นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จอย่าง ต่อเนื่องสำหรับรถ Ford Everest Sport รถอเนกประสงค์สัญชาติอเมริกันที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงการใช้งานที่หลากหลายสไตล์ และเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ จึงทำให้ได้รับผลโหวตจากคณะกรรมการให้เป็น “ที่สุด” ของรถยนต์ PPV ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในการทดสอบ Car of The Year 2020 ซึ่งความโดดเด่นแบบเหนือชั้นจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกัน…
ความเห็นของคณะกรรมการ
ขุมพลัง 2.0 Turbo พร้อมระบบความปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้งานอย่างครบถ้วนord Everest Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร (เทอร์โบเดี่ยว) ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดบวก/ลบ ทำให้การขับเคลื่อนและควบคุม รวมถึงการเร่งแซงทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Ford Everest Sport ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบอาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบจะช่วยรักษาแรงเบรกในกรณีที่มีการหยุดรถอย่างฉุกเฉิน BA ระบบช่วยการทรงตัวขณะลากจูง TSC (Trailer Sway Control) ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TC และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP (Traction Control and Electronic Stability Program) ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง(คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ) เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง กล้องมองภาพขณะถอยจอด ระบบกุญแจ Immobilizer สัญญาณกันขโมย Burglar Alarm จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
ภายนอก-ภายใน ปรับให้มีความสปอร์ตและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
Ford Everest Sport มาพร้อมดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองมากขึ้น บวกกับฟีเจอร์ช่วยในการขับขี่และอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ตกแต่งใหม่ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสีดำเงา ทั้งกระจังหน้า กระจกมองข้าง และราวหลังคา กันชนหลังสีดำพร้อมล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 20 นิ้ว และสัญลักษณ์ SPORT บริเวณท้ายรถ และประตู
ภายใน ยกระดับให้มีความหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มลูกเล่นความโฉบเฉี่ยวด้วยการตกแต่งโทนสีดำน้ำเงิน เบาะหุ้มด้วยหนัง ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกโซนสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมสวิตช์ปรับแรงลมแยกส่วนสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 แยกอิสระ 60:40 ปรับเอนได้และสามารถเลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แยกอิสระ 50:50 เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยกุญแจรีโมทอัจฉริยะที่ทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยประตูด้านท้าย เปิด-ปิด ไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี
ในส่วนของคอนโซลหน้า เพิ่มความหรูด้วยการติดตั้งจอขนาด 8 นิ้ว ที่ขับกำลังเสียงด้วยลำโพง 9 ตำแหน่ง พร้อมซับวูฟเฟอร์ ได้รับการติดตั้งระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) สั่งงานด้วยเสียง ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และAndroid Auto พร้อมระบบบลูทูธ ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) สำหรับระบบ SYNC® ที่อยู่ใน Ford Everest Sport ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินจากความโดดเด่นที่เหนือชั้น ทำให้Ford Everest Sport ได้รับการโหวตจากคณะกรรมการว่ามีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในคลาสเดียวกัน จนทำให้สามารถคว้ารางวัล Best PPV Diesel 2WD Under 2,000 c.c. มาครองได้สำเร็จ
Ford Ranger FX4
Best High-Lift Pickup Under 2,500 c.c.
ยังเป็นรถปิกอัพพันธุ์แกร่ง ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในด้านขุมพลังประโยชน์การใช้สอย เทคโนโลยีทันสมัยและสมรรถนะในการขับที่มั่นใจ จนทำให้ Ford Ranger FX4 กลายเป็นรถปิกอัพที่คนพูดถึงมากที่สุด ตั้งแต่เปิดตัวอย่าง เป็นทางการจนมาถึงตอนนี้…ซึ่งความพิเศษที่มัดใจใครหลายๆ คนจะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
มุมมองคณะกรรมการ
ดีไซน์ภายนอกแข็งแกร่ง ภายในตอบโจทย์การใช้งาน
Ford Ranger FX4 ได้รับการดีไซน์ ถึงภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าและมือจับภายนอกสีดำเงา และวางโลโก้ Ford Ranger FX4 ที่ด้านข้างประตูและบนฝาท้ายกระบะ ช่วยตอกย้ำสมรรถนะและความแกร่ง เสริมด้วยชุดล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว กันชนหลังสีดำและดีไซน์สปอร์ตบาร์สีดำ เสริมความปลอดภัยด้วยไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ ไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างกระบะท้าย
ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังพิเศษ ตัดเย็บด้วยสีแดงเรซเรด พร้อมโลโก้ FX4 เพดานห้องโดยสาร คอนโซล
หัวเกียร์ ที่พักแขน และขอบประตู หุ้มวัสดุหนังเดินด้ายสีแดง พวงมาลัยตกแต่งด้วยสีดำเงาหุ้มหนังเดินด้ายสีแดง และพรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ FX4 เพิ่มความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ด้านระบบความบันเทิง SYNC ใหม่ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับภาษาไทย การใช้งานผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto รองรับไฟล์ VDO รวมถึงระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน
ขุมพลัง 160 แรงม้า ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัย
Ford Ranger FX4 ขุมพลังเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา ทำงานควบคู่กับระบบช่วงล่างที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งได้รับการออกแบบจากทีมวิศวกรฟอร์ด โดยด้านหน้าเป็นแบบแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง (Double Wishbone with Coil Spring) และด้านหลังเป็นแบบแหนบซ้อน(Leaf Springs) สั่งการห้ามล้อด้วยดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อนด้านหน้าและดรัมเบรกด้านหลัง เพิ่มความแม่นยำและควบคุมได้ง่ายขึ้น ด้วยพาวเวอร์แบบช่วย
ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
Ford Ranger FX4 มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่เพียงพอต่อการใช้งาน อาทิ ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ(ESP) ตัวถังนิรภัย คานเหล็กเสริมนิรภัยกระจกนิรภัย เซ็นทรัลล็อก ไฟเบรกดวงที่ 3 สัญญาณเตือนถอยหลัง สัญญาณกันขโมย กุญแจนิรภัย ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Roll-over Mitigation ลดความเสี่ยงของการพลิกคว่ำ) เข็มขัดนิรภัย (ดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ) พวงมาลัยยุบตัวได้ ถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
(ASR) ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (Trailer Sway Control) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการบรรทุก (Load Adaptive Control)
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือความคุ้มค่าแบบเหนือชั้น ซึ่งเหล่าคณะกรรมการผู้ทดสอบได้ลงความเห็นให้ Ford Ranger
FX4 คือรถที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับรางวัล Best High-Lift Pickup Under 2,500 c.c. มากที่สุดในการทดสอบ Car of The Year 2020