Ford เพิ่มความร่วมมือกับ Volkswagen
ในขณะที่การรวมตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์บางกลุ่มจากสหรัฐอเมริกากับกลุ่มยานยนต์ในฝรั่งเศสไม่สามารถบรรลุความสำเร็จได้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันอย่าง Ford กับ Volkswagen ในเยอรมนีกลับเดินหน้าอย่างต่อเนื่องไม่รอใคร ด้วยการยกระดับความร่วมมือมากขึ้นจากการแถลงอย่างเป็นทางการออกมาว่า Ford จะใช้แพลตฟอร์ม MEB ของ Volkswagen เพื่อผลิตรถไฟฟ้าใช้แบตเตอรีที่โรงงานของตนเองในเมืองโคโลญจ์ประเทศเยอรมนี ในขณะที่ทางผู้ผลิตสัญชาติเยอรมันจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทพัฒนาระบบบขี่อัตโนมัติ Argo AI ของ Ford ด้วยการลงทุนจำนวน 2.6 พันล้านดอลล่าร์
ทั้ง 2 ผู้ผลิตรถยนต์ได้มีความเห็นชอบในการขยายความเป็นพันธมิตรเพิ่มขึ้นหลังการพูดคุยกันนับเดือนก่อนที่จะจัดให้มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ในนิวยอร์คไม่นานมานี้ โดยทาง Ford จะใช้แพลตฟอร์ม MEB ที่ออกแบบมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะของ Volkswagen เพื่อการผลิตรถไฟฟ้ารุ่นใหม่สำหรับตลาดยุโรป ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่าจะสามารถขายรถไฟฟ้าซึ่งใช้พื้นฐานจากแพลตฟอร์ม MEB ในยุโรปได้มากกว่า 600,000 คันในช่วงเวลา 6 ปีโดยเริ่มตั้งแต่ปี 2023[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
ในขณะเดียวกัน Volkswagen จะลงทุน 2.6 พันล้านดอลล่าร์ใน Argo AI โดยที่เงินจำนวน 1 พันล้านดอลล่าร์จะถูกส่งเข้ากองทุนของบริษัทโดยตรง ซึ่งความตกลงนี้จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนหน่วยงาน Autonomous Intelligent Driving หรือ AID ของ Volkswagen ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุน 1.6 พันล้านดอลล่าร์และเจ้าหน้าที่ประมาณ 200 คนเป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในภูมิภาคยุโรปของ Argo AI และทำให้ Argo AI มีเจ้าหน้าที่กว่า 700 คนทั่วโลก
นอกจากนี้ทาง Volkswagen จะซื้อหุ้น 500 ล้านดอลล่าร์ของ Argo AI จาก Ford ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 ผู้ผลิตรถยนต์ถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติเท่ากัน โดยการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ส่งผลให้มูลค่าของ Argo AI ซึ่งปัจจุบันกำลังทำงานเพื่อพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 4 อยู่สูงขึ้นเป็น 7 พันล้านดอลล่าร์
Jim Hackett ซีอีโอของ Ford ได้พูดถึงความร่วมมือกับ Volkswagen ล่าสุดว่า “ในขณะที่ Ford และ Volkswagen ยังคงมีอิสระต่อกันและแข่งขันกันในตลาด การร่วมมือกันและทำงานกับ Argo AI ในเทคโนโลยีที่สำคัญนี้จะช่วยให้เรามีศักยภาพ ขนาด และเข้าถึงทางภูมิศาสตร์ที่ไม่มีใครทำได้ การปลดล็อกพลังทั่วทุกส่วนจะช่วยเราในการแสดงพลังความเป็นพันธมิตรของเราในยุคของยานยนต์อัจฉริยะนี้เพื่อโลกอัจฉริยะ” ในขณะที่ Herbert Diess ซีอีโอของ Volkswagen กล่าวเพิ่มว่า “จำนวน MEB ของเราที่เพิ่มขึ้นในการขับเคลื่อนส่งผลต่อการเพิ่มยานยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษ ช่วยให้มีการพัฒนารถไฟฟ้าที่เข้ากับโลกได้กว้างและเร็วขึ้น สิ่งนี้เป็นการเสริมฐานะของบริษัทเราผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเติบโตและเพิ่มการแข่งขันในอนาคต”
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]