Ford Bronco Raptor สมาชิกใหม่ของรุ่นสมรรถนะสูงในชื่อ Raptor
แม้ชื่อ Raptor จะเป็นที่รู้กันว่าใช้กับรถปิกอัพที่มีสมรรถนะสูงกว่าปกติของ Ford ผู้ผลิตรถยนต์อเมริกันรายนี้ก็นำเอาชื่อนี้มาใช้กับรถเอสยูวีที่เน้นการลุยออฟโรด Bronco ที่ถูกระบุเป็น Bronco ที่ทรงพลังที่สุดบนถนนสาธารณะด้วย อย่างไรก็ตาม Bronco Raptor ไม่ได้มีแค่กำลังที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับสมรรถนะการลุยและรายละเอียดอื่นที่แตกต่างจาก Bronco ทั่วไปด้วย
Ford ระบุว่า Bronco Raptor เป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดบนถนนของ Bronco โดยมีขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์ EcoBoost V6 3.0 ลิตร ซึ่งมีเสื้อสูบเป็น Graphite Iron-block ที่มีความทนทานกว่าเสื้อสูบอลูมิเนียมทั่วไป ส่วนกำลังจากเครื่องยนต์อยู่ที่ 405 แรงม้า พร้อมกับมีอินเตอร์คูลเลอร์และระบบดักอากาศที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยรับมือกับความร้อนที่สูงในทะเลทราย โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดส่งกำลังเหมือนกับที่อยู่ใน F-150 Raptor และ Ranger Raptor ในขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของรถมี 7 โหมดให้เลือกใช้เพื่อลุยเส้นทางต่างๆ รวมทั้งโหมด Baja ที่มีระบบ Anti-lag สำหรับเทอร์โบ
นอกจากกำลังขับเคลื่อนที่สูงกว่า Bronco ปกติแล้ว Bronco Raptor ยังมาพร้อมกับตัวรถที่กว้างกว่า Bronco 4 ประตูทั่วไปถึง 25 ซม. และไม่เพียงความกว้างของรถเท่านั้น แต่จากภายนอกของ Bronco Raptor ที่มีความยาว 4,851 มม. กว้าง 2,177 มม. และสูง 1,976 มม. ซึ่งหมายความว่ามีทั้งความกว้าง ความยาว และความสูงมากกว่า Bronco 4 ทั่วไปอย่างชัดเจนเมื่อจอดเทียบกัน
Bronco Raptor ถูกระบุว่าเป็นรถเอสยูวี Baja-inspire จึงทำให้นอกจากมีกำลังขับเคลื่อนสูงแล้วยังมีการปรับในส่วนของแชสซีส์รถพอสมควร โดยมีการเพิ่มความสามารถในการลุยด้วยการใช้โช๊กใหม่ที่ทำให้ล้อมีระยะการเคลื่อนที่มากขึ้น ในขณะที่ช่วงล่างของรถถูกปรับมาเหมือนกับ F-150 Raptor โดยมีระบบกึ่งแอคทีฟที่ตรวจจับความสูงของแต่ละล้อกว่า 100 ครั้งต่อวินาที
นอกจากนี้ยังให้ความมั่นใจในการลุยด้วยแผ่นกันหินกระแทกเฮฟวีดิวตี้ที่ยาวต่อเนื่องจากใต้กันชนหน้าจนถึงด้านหลังของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และ Transfer Case แถมยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับคานที่เสา B-Pillar และเสา C-Pillar เพื่อให้ตัวรถโดยรวมทนต่อการบิดตัวได้มากขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์
Bronco Raptor ยังมากับรายละเอียดภายนอกรถที่แตกต่างจาก Bronco ทั่วไปด้วยไฟหน้าเฉพาะรุ่น Raptor ที่มีไฟ Daytime Running Light พร้อมไฟเลี้ยวสีเหลือง กันชนหน้ามีไฟตัดหมอก Rigid ที่ถอดออกได้ รวมทั้งมีไฟออฟโรด Rigid เพื่อช่วยเพิ่มความสว่าง รวมไปถึงมีล้อขนาด 17 นิ้ว 2 ลายใหม่ และมียางออล-เทอร์เรน BF Goodrich ขนาด 37 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน
ส่วนในห้องโดยสารมากับการใช้เบาะไวนิลเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมพวงมาลัยและแผ่นปูพื้นที่ยึดเกาะได้ดีขึ้น ในขณะที่จอทัชสกรีนมีขนาด 12 นิ้วและมีกล้องแสดงภาพ 360 องศารอบตัวรถ ทาง Ford ตั้งราคาเริ่มต้นของ Bronco Raptor ไว้ที่ 68,500 ดอลล่าร์ โดยจะเริ่มรับจองรถในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้