Ford Everest BaseCamp เสริมอุปกรณ์เพื่อการผจญภัย
Ford เพิ่มรุ่นแต่งพิเศษให้กับ Everest ในชื่อ BaseCamp ซึ่งจะถูกผลิตจำกัดเพียง 450 คัน ด้วยการใช้เกรด Trend 3.2L 4×4 หรือ Turbo 2.0L Bi-Turbo เป็นพื้นฐานสำหรับการเพิ่มอุปกรณ์เพื่อเสริมความสามารถในการผจญภัย
ที่ภายนอกของ Ford Everest BaseCamp นอกจากการมีสติ๊กเกอร์ระบุชื่อรุ่นที่บริเวณประตูหน้าแล้ว ยังมาพร้อมกับการเน้นอุปกรณ์แต่งต่างๆ เพื่อเสริมความดุที่เป็นสีเทาอย่างกระจังหน้า ช่องระบายอากาศที่บริเวณซุ้มล้อ กันแคร้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งบังโคลนที่ล้อ
ในขณะที่อุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสามารถและความสะดวกในการผขญภัยมีตะแกรงสีดำสำหรับบรรทุกสิ่งของบนหลังคา สน็อกเกิล บาร์สีดำป้องกันที่กันชนหน้าพร้อมแถบไฟ LED และ Tow Bar สำหรับการลากจูง ซึ่งรองรับน้ำหนักได้ 3,000 กิโลกรัมสำหรับเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร และ 3,100 กิโลกรัมสำหรับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ สำหรับราคาของ Everest BaseCamp 3.2L 4×4 ถูกตั้งราคาไว้ที่ 64,990 ดอลล่าร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1,424,000 บาท ขณะที่ 2.0 Bi-Turbo มีราคา 66,490 ดอลล่าร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1,457,000 บาท
นอกจากการเพิ่มรุ่นแต่งพิเศษ BaseCamp ที่มีจำกัด 450 คันแล้ว Ford ในออสเตรเลียยังมีการเพิ่มทางเลือกในแบบขับเคลื่อนล้อหลังนอกเหนือจากรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อให้กับ Everest Sport ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้วกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ กำลัง 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน- เมตรด้วย
รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังที่ถูกเพิ่มเข้ามาของ Everest Sport จะมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานสีดำต่างๆ เพื่อบ่งบอกความสปอร์ตอย่างกระจังหน้าตาข่าย กันชน ขอบไฟท้าย รูฟเรล และครอบกระจกมองข้าง รวมไปถึงล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วที่มีสีดำด้วย นอกจากนี้ยังมีสติ๊กเกอร์ระบุเกรด Sport และป้าย Everest 3 มิติ ในขณะที่ภายในห้องโดยสารเบาะหุ้มหนังถูกปั๊มลายนูนพิเศษ และวัสดุเนื้อนิ่มเหนือเรือนไมล์มาพร้อมกับการเดินด้ายสีฟ้า สำหรับราคาของ Everest Sport ขับหลังถูกตั้งไว้ที่ 59,990 ดอลล่าร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1,310,000 บาท
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th