Ford Focus พร้อมเครื่องยนต์สันดาปภายในที่กำลังลาตลาดยุโรปในปี 2025 ได้รับการกระตุ้นความสนใจในตลาดด้วยการนำรุ่นแรง ST มาทำเป็น ST Edition ที่ได้รับการเพิ่มสมรรถนะมากขึ้นด้วยอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มากับรถ พร้อมเพิ่มความโดดเด่นบนถนนด้วยสีที่แตกต่างรุ่นสมรรถนะต่ำกว่า

Ford Focus ST Edition ได้รับการเสริมสมรรถนะด้วยการอัปเกรดแชสซีส์ของรถจากออปชัน Track Pack ที่มีช่วงล่างคอยล์โอเวอร์ปรับได้ 2 ทิศทางจาก KW Automotive ที่ได้รับการปรับตั้งโดย Ford Performance ในสนาม Nurburgring พร้อมมีเบรก Brembo ในล้อหน้า นอกจากนี้ยังมีแดมเปอร์สเตนเลสสตีล Twin Tube ที่มีความหนึบเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับ Focus ST มาตรฐาน รวมทั้งถูกลดความสูงลง 10 มม. โดยที่สามารถเลือกปรับความสูงของรถเพิ่มได้ 20 มม.

ภายนอกของรถโดดเด่นด้วยสีฟ้า RS-style Azura Blue พร้อมการแต่งด้วยสีดำเงากับส่วนต่างๆ ของรถรวมทั้งล้ออัลลอย Multi-spoke ขนาด 19 นิ้วที่มีน้ำหนักลดลงจาก ST Editionปี 2021 ก่อนปรับโฉม 10 เปอร์เซ็นต์ โดยล้อมาพร้อมกับยาง Pirelli P Zero Corsa

ห้องโดยสารใช้หนังสีดำร่วมกับ Alcantara เย็บด้ายสีฟ้า Motion Blue ทั้งที่เบาะบั๊กเก็ตซีท พวงมาลัย และพรมปูพื้น ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ในรถมีระบบเสียง B&O พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่งและซับวูฟเฟอร์ Driver Assist Pack และ Winter Pack ซึ่งประกอบด้วยระบบปรับความอุ่นที่พวงมาลัยและกระจกหน้าของรถ

การขับเคลื่อนของรถที่เป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ EcoBoost 2.3 ลิตร เทอร์โบไม่ได้รับการอัปเกรด ทำให้ยังคงมีกำลัง 280 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร โดยใช้ระบบส่งกำลังแมนนวล 6 สปีดสู่ล้อหน้าของรถ พร้อมมี Limited-Slip Differential อีเล็กทรอนิก ส่วนการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 5.7 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม.

รถแฮทช์แบ็กรุ่นแรงที่ได้รับการเสริมสมรรถนะจะถูกขายเฉพาะบางประเทศในยุโรปรวมทั้งสหราชอาณาจักรในราคา 42,905 ปอนด์ ซึ่งสูงกว่ารุ่น STที่ใช้เป็นพื้นฐานในการผลิต 5,200 ปอนด์

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th