ฟอร์ด King of Tough โชว์ความแกร่ง Ranger Raptor ปิดท้ายสนามในประเทศ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ฟอร์ด ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จของกิจกรรม ‘King of Tough’ พาสื่อมวลชนและลูกค้าพิสูจน์สมรรถนะความ ‘แกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์’ ของฟอร์ด Ranger Raptor รถกระบะออฟโรดทรงพลังที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร ณ สนามสุราษฏร์ธานี มอเตอร์สปอร์ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ส่งท้ายความดุดันสนามสุดท้ายในประเทศไทยก่อนไปพิชิตเส้นทางออฟโรดในดินแดนลาวใต้และเวียดนาม
ฟอร์ดจัดกิจกรรม ‘King of Tough’ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ร่วมทดสอบสมรรถนะของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงบนสนามออฟโรดที่เต็มไปด้วยความท้าทายหลากหลายรูปแบบเพื่อโชว์ศักยภาพของรถอย่างเต็มพิกัด กิจกรรม ‘King of Tough’ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นการจัดกิจกรรมในสนามทดสอบสนามที่ 3 หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจากทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้า ณ จังหวัดชลบุรี และเชียงใหม่ รวมกว่า 700 คน
ฟอร์ดจัดเตรียมสนามทดสอบไว้ 2 สนาม สนามแรกมีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสเอกลักษณ์และโหมดการขับขี่ออฟโรดอันดุดันและชาญฉลาดของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เริ่มออกสตาร์ทการขับขี่ผ่านเส้นทางที่เป็นร่องสลับด้วยโหมดบาฮาอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถจะปรับเข้าสู่การขับขี่โดยใช้เกียร์สูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) คันเร่งจะปรับให้มีการตอบสนองสูงสุดเพื่ออัตราเร่งที่ดีที่สุด ระบบท่อไอเสียและช่วงล่างจะถูกปรับให้เป็นบาฮาโหมดเช่นกัน เพื่อตอบสนองการขับขี่ออฟโรดแบบความเร็วสูง
ต่อด้วยการขับขี่ในเส้นทางโคลนลื่นด้วยโหมดโคลน/ร่อง โดยใช้เกียร์ต่ำขับเคลื่อน 4 ล้อ (4L) ระบบจะปรับการตอบสนองของคันเร่งให้เหมาะสม ลดความไวของคันเร่งลง ระบบดิฟล็อกหลังจะเปิดทำงานอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในขณะที่ล้อจะหมุนอย่างรวดเร็วเพื่อกำจัดดินโคลนที่ดอกยาง ทำให้รถขับผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นผู้ขับขี่จะได้ขับขี่ผจญภัยในเส้นทางวิบากรายล้อมด้วยแนวต้นไม้ ขับขี่ผ่านเนินชันและหลุมสลับโดยในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีดิฟล็อกหน้าที่ผู้ขับขี่สามารถเปิดใช้งานเพิ่มเติมเพื่อให้การขับผ่านอุปสรรคทำได้ง่ายขึ้น ต่อด้วยการทดสอบใช้ฟีเจอร์ Trail Control ซึ่งเปรียบเสมือนระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติสำหรับเส้นทางออฟโรดใช้ในการไต่ขึ้นและลงทางลาดชัน พร้อมด้วยการใช้กล้องมองรอบคัน 360 องศาช่วยให้มองเห็นด้านนอกตัวรถเพื่อขึ้นและลงเนินที่มีความชันกว่า 25 องศา ทำให้ผู้ขับขี่ผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้อย่างง่ายดาย
นอกจากการขับในสนามทดสอบแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมสนุกกับการแข่งขันรายการ ‘King of Tough Challenge’ ในสนามที่ได้รับการออกแบบพิเศษให้มีระยะทางรวม 2 กิโลเมตร ด้วยเส้นทางการขับที่ให้ความสนุกและท้าทายไปอีกระดับ ให้ผู้ขับขี่ได้แสดงฝีมือในการควบคุมรถขณะเข้าโค้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง การขับผ่านเนิน และทางโค้งรูปตัวเอส เฟ้นหาลูกค้าและเพื่อนคู่หูที่ทำเวลาได้ใกล้เคียงกับเวลาที่กำหนดมากที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนไปตะลุยเส้นทางพิเศษและสัมผัสประสบการณ์สุดแกร่งอีกขั้นกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในลาวใต้และทะเลทรายมุยเน่ ประเทศเวียดนามช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
พิเศษสุดสำหรับสนามปิดท้ายของกิจกรรม King of Tough ผู้เข้าร่วมงานยังมีโอกาสสัมผัสความตื่นเต้นกับกิจกรรมการขับขี่แบบ Drag Race Challenge ด้วยการขับฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร ดีเซล วี 6 ในการแข่งขันสุดพิเศษที่ชัยชนะจะตัดสินด้วยความแม่นยำในการทำเวลาเข้าเส้นชัยให้ใกล้เคียงกับเวลาที่กำหนดมากที่สุด (Bracket 17 sec.) โดยผู้ชนะอันดับที่ 1และ 2 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และ 2,000 บาท ตามลำดับ
ติดตามชมภาพความประทับใจจากกิจกรรมต่างๆ ของฟอร์ดได้ทางเฟสบุ๊กฟอร์ด
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th