Ford Mustang 5.0 GT เค้าว่าโหด โหดจริงหรือไม่
Ford Mustang 5.0 GT เค้าว่าโหด โหดจริงหรือไม่ ถ้าพูดถึงรถ Muscle Car เชื่อได้เลยว่าคุณต้องรู้จักคันนี้ Ford Mustang เพราะมันเป็นรถ Muscle Car ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุด และวันนี้ครับเราได้มีโอกาศนำเจ้า Ford Mustang 5.0 GT มาลองขับกัน เพราะเราได้ข่าวว่าคันนี้จะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนที่จะมีการปรับโฉมใหม่ในเร็ววันนี้ เราได้ยินมาว่าเจ้าม้าป่าคันนี้ค่อนข้างโหดในอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน แต่ผมว่าถ้ามันแลกมาด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมขับสนุกขับมันส์ก็คุ้มอยู่นะ
เรามาทำความรู้จัก Ford Mustang กันก่อนดีกว่า ฟอร์ด มัสแตง ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นให้เลือก โดยมีรุ่นขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร และ เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 2.3 ลิตร
ทั้งคู่ผสานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยแพดเดิ้ลชิฟท์ แน่นอนรุ่นที่เรานำมาทดสอบวันนี้เป็นรุ่น 5.0 ลิตร V8 ซึ่งเป็นรุ่นที่แรงและเจ๋งที่สุด แต่แค่เห็นเครื่องยนต์ก็ขนลุกแล้วละครับ เครื่อง 5.0 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเลขตัวเดียวแน่ๆ
รูปทรงภายนอก
ตัวถังทรงคูเป้ 2 ประตู มีความสปอร์ต และดูดุดันด้วยมัดกล้ามบริเวณซุ้มล้อหน้า รวมถึงสะโพกซุ้มล้อหลัง ฝากระโปรงหน้ายาวช่วยเพิ่มสัดส่วนให้ดูน่ามีพลัง ไฟหน้าLED ออกแบบเพื่อสอดรับกับทรงสี่เหลี่ยมคางหมูของกระจังหน้าชิ้นบนอย่างลงตัว มาพร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED ไฟเลี้ยวและไฟท้าย 3 แถวอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด มัสแตง
มีสปอยเลอร์เป็นมาตรฐานในรุ่น GT กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์เพิ่มการยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น ท่อไอเสีย 4 ท่อพร้อมรองรับความแรงของเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร ส่วนล้อให้มาเป็นขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip มอบความสนุกในการขับขี่บนเส้นทางคดเคี้ยว
การออกแบบภายใน
ส่วนภายในห้องโดยสาร จัดวางห้องโดยสารแบบ 4 ที่นั่ง แต่นั่งเอาสบายๆก็แค่ 2 ที่นั่งพอ เชื่อผม ส่วนใครอยากนั่งด้านหลังผมว่าต้องตัวเล็กมากๆ สูงประมาณไม่เกิน 150 เซ็นติเมตร ถึงจะนั่งได้ ภายใต้บรรยากาศแบบอเมริกันมัสเซิลคาร์ คอนโซลขนาดใหญ่ หนักแน่น เน้นความดิบ หลายจุดยกมาจาก Mustang โฉมแรก รวมถึงพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน มาตรวัดเป็นแบบดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ ส่วนจออินโฟเทนเมนต์เป็นแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ระบบเสียงเป็นของ Bang & Olufsen ติดตั้งลำโพง 12 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์ และแอมปลิไฟเออร์ 10 แชนแนล
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
ลองขับ
เปิดประตูหย่อนก้นลงตรงเบาะคนนั่งปรับเบาะให้เข้าที่ เฮ้ย ! มันนั่งสบายกว่าที่คิดครับเบาะกระชับพอดีตัว แต่จะหันไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยยากไปหน่อย มันคือรถที่เป็น American Muscle แบบ 100% สตาร์ทเครื่องเสียงเครื่อง V8 ผ่านท่อที่ปรับแต่งได้จากโรงงานทำให้เสียงนั้น ลั่นสะใจ กระหึ่มเพราะได้อารมณ์มากครับ ต้องบอกก่อนครับการขับขี่ในเมืองผมใช้ Normal Mode ครับ แค่โหมดนี้ก็ขับสนุกแล้ว
ออกตัวดีมากการขับในเมืองถ้ายังไม่ชินรถอาจจะต้องลำบากนิดนึง เพราะทรงรถหน้าจะยาวทำให้กะลำบากหน่อย สายมุดคงจะไม่ได้เหมาะเท่าไรนัก มันไม่ได้คล่องตัวเท่าที่ควร แน่นอนอัตราการเร่งตอบสนองได้ดี การเร่งแซงบอกเลยว่าเหลือๆ กดคันเร่งลงต่อเนื่องความเร็วเพิ่มขึ้นแบบลื่นไหลผ่านเกียร์ 10 สปีด การเปลี่ยนเกียร์ที่เนียนมากขึ้น ไหลลื่นมากกว่าเดิม เผลอแปปเดียวความเร็วแตะ 170 กม./ชม. ได้แบบไม่ยากเย็น ขับสนุกมากจริงๆครับกดเป็นมารวดเร็วทันใจสุดๆ
การเข้าโค้งต้องบอกเลยว่า ลืมความคิดที่ว่า American เก่งแต่ทางตรงไปได้เลย เพราะคันนี้เค้าโค้งกริ๊ปมาก เพราะได้ระบบช่วงล่างด้านหน้า อิสระ McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และใน ช่วงล่างด้านหลัง อิสระ Integral-link พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง
พร้อมกับ เฟืองท้ายแบบ Limited Slip ทำให้การเข้าโค้งด้วยความเร็ว แน่น หนึบ แม่นยำ ไม่โคลง ขับสนุกมากๆ วิ่งทางตรงยาวๆก็นิ่งดีครับ
แต่คนที่ชอบระบบช่วงล่างนิ่มๆอาจจะไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เพราะมีความกระด้าง ตึงตัง อยู่บ้าง แต่ผมว่าเพื่อแลกกับสมรรถนะในการเข้าโค้งที่ยอดเยี่ยมก็รับได้อยู่นะครับ
ระบบเบรก คู่หน้า Brembo 6 pots เอาอยู่แน่นอน อัตราสิ้นเปลืองเมื่อขับใช้งานในเมืองรถติดๆประมาณ 5 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนการขับออกทางไกลบนไฮเวย์ มันจะกินเชื้อเพลิงประมาณ 10 กิโลเมตรต่อลิตรในย่านความเร็วเดินทางประมาณ 100 ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถทำความเร็ว จาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.3 วินาที
เจ้าคันนี้มีโหมดการขับขี่ 5 โหมดหลัก ได้แก่ Normal Mode เป็นโหมดขับขี่ทั่วไป เหมาะกับทุกสภาพถนน อัตราเร่งในโหมดนี้ ถือว่าทำได้ดี กดคันเร่งปุ๊บมาปั๊บ แทบไม่ต้องรอรอบ , Snow / Wet Mode ในโหมดนี้ การตอบสนองของคันเร่ง ค่อนข้างช้าลงแบบรู้สึกได้ เหมาะกับการขับขี่ในทางลื่น เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี ,Sport+ Mode เป็นโหมดที่ผมชอบมาก กดคันเร่งเมื่อไหร่ พร้อมที่จะพุ่งทะยานออกไปทันที ลากรอบได้สูงขึ้น คันเร่งไว อัตราเร่งมาดีมาก ,Track Mode ในโหมดนี้ ระบบควบคุมการทรงตัวจะถูกปิดการทำงาน คันเร่งจะมีความไวขึ้น ซึ่งโหมดนี้ต้องใช้ทักษะในการควบคุมรถกันพอตัว และ Drag Strip Mode เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับทางตรง รถจะออกตัวได้เร็วกว่าปกติ เกียร์เปลี่ยนไวขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเกียร์ที่ไวแต่รอบเครื่องไม่ตก
นอกจากนั้น Mustang คันนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกพอสมควร เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ก็อย่าได้คาดหวังว่าจะเยอะแยะ หรูหรา ฟู่ฟ่า แพรวพราวเหมือนรถยนต์นั่งทั่วๆ ไป ในระดับราคาที่เท่ากันนะครับ
Ford Mustang 5.0 GT เป็นรถ Muscle Car ที่โดดเด่นและน่าขับที่สุด ด้วยรูปทรงภายนอกที่เท่ สวยงาม ดุดัน ภายในสปอร์ต เครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร ที่สั่งได้ดังใจ
ถ้าคุณไม่สนเรื่องอัตราสิ้นเปลือง มาพร้อมลูกเล่นมีโหมดต่างๆให้เลือกว่าอยากจะสนุกขนาดไหน ระบบช่วยเพื่อความปลอดภัยมีมาให้พอสมควร ราคา 4,899,000 บาท ท่านไหนมีกำลังพอซื้อไว้ไม่ผิดหวังแน่นอน https://www.ford.co.th/
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th