Ford ทำการปรับโฉมให้กับ Puma รถเอสยูวีรุ่นเล็กสุดขของตนในตลาดยุโรป ซึ่งแม้ภายนอกของรถจะได้รับการปรับเปลี่ยนไม่มากนัก แต่ในห้องโดยสารของรถได้รับการปรับเพิ่มเทคโนโลยีมากขึ้นรวมทั้งมีการปรับดีไซน์ใหม่

ภายนอกของ Ford Puma รุ่นปรับโฉมมีความเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ด้วยการมีกราฟฟิกไฟหน้า LED ใหม่พร้อมกับมีเทคโนโลยีไฟ Dynamic Matrix LED เป็นออปชันให้เลือก เปลี่ยนตำแหน่งป้ายโลโก้แบรนด์ไปอยู่ในกระจังหน้าที่ได้รับการปรับใหม่ รวมทั้งมีสีเทา Cactus Grey ใหม่เข้ามาให้เลือก โดยรถรุ่นใหม่มี 4 เกรดแต่งให้เลือกคือ Titanium, ST-Line, ST-Line X และ ST

ห้องโดยสารของรถได้รับการปรับเปลี่ยนมากกว่าภายนอกด้วยการมีจอ Infotainment ลอยตัวเหนือแผงแดชบอร์ดขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเป็น 12 นิ้ว พร้อมระบ SYNC4 ส่วนจอแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลมีขนาด 12.8 นิ้ว นอกจากนี้รถเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นใหม่ยังมีการเชื่อมต่อ 5G มาพร้อมกับ Alexa รวมไปถึงมีทั้งการปรับปรุงระบบช่วยขับให้ดีขึ้นและเพิ่มระบบใหม่เข้ามา อย่างระบบช่วยให้รถอยู่กลางช่องจราจร และมีการทำงาน Predictive Speed Assist ในระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน

อีกความเปลี่ยนแปลงในรถรุ่นปรับโฉมคือเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 200 แรงม้าที่เคยเป็นขุมพลังในเกรดสูงสุด ST หายไป โดยมีเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ไมลด์ไฮบริด 170 แรงม้าเข้ามาประจำการแทน ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่จะทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังดูอัลคลัตช์ 7 สปีด ส่วนขุมพลังในเกรดอื่นของรถยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ใช้เทคโนโลยีไมลด์ไฮบริด 48V มีกำลัง 125 แรงม้าหรือ 155 แรงม้าขึ้นอยู่กับเกรดของรถ โดยรุ่นที่มีกำลังน้อยกว่าจะมีระบบส่งกำลังแมนนวล 6 สปีดให้เลือก

นอกจากการปรับโฉมให้กับรถแล้ว ทางผู้ผลิตยังระบุว่าจะส่งรุ่นไฟฟ้าล้วนออกมาทำตลาดภายในปี 2024 นี้ โดยใช้ชื่อต่อท้ายว่า Gen-E

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th