Ford Pro เพิ่มรุ่น Wildtrak X และ Tremor ให้กับ Ranger ในยุโรป โดยทั้งสองรุ่นถูกเพิ่มอุปกรณ์เพื่อเน้นความสามารถในการลุยออฟโรดเหมือนกัน ซึ่งกับรุ่น Wildtrak X จะมีรายละเอียดไม่แตกต่างจากที่เคยเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ที่ออสเตรเลีย ในขณะที่ Tremorซึ่งเน้นการลุยเหมือนกันมาพร้อมกับการแต่งที่ต่างออกไป

Ford Ranger Tremor เป็นเหมือนรุ่นเน้นการลุยออฟโรดที่เน้นความหรูของอุปกรณ์มาตรฐานบางส่วนน้อยกว่า Wildtrak X อย่างการมีไฟหน้าฮาโลเจนจากการใช้รุ่น XLT ที่เน้นการใช้งานมาเป็นพื้นฐานในการแต่ง โดยมีการติดชุดแต่งซุ้มล้อเพิ่มความกว้างของรถ บันไดข้างอลูมิเนียม แผงโลหะกันกระแทกที่กันชนหน้า  และใช้สีเทา Boulder Grey แต่งภายนอกรถ พร้อมกระจังหน้าสีดำ และมีสปอร์ตบาร์ทรงกลมที่กระบะหลังเพื่อเสริมรูปลักษณ์การลุย ขณะที่ในห้องโดยสารใช้ไวนิลกันน้ำหุ้มเบาะและพรมปูพื้นเพื่อให้สามรถทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีสวิตช์แพกเหนือหัวสำหรับวินซ์ แถบไฟ LED และอุปกรณ์อื่นๆ เป็นอุปกรณ์เสริมให้เลือกติดเพิ่ม

อย่างไรก็ตามรถปิกอัพเน้นลุยออฟโรดรุ่นใหม่ไม่แตกต่างจาก Wildtrak X ที่มีการปรับในส่วนของแชสซีส์เพื่อเน้นการลุยมากขึ้น โดยใช้ช่วงล่างที่มีระยะการทำงานมากขึ้นพร้อมแดมเปอร์ Bilstein Position-sensitive สมรรถนะสูง เพิ่มความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นมากขึ้น 26 มม. พร้อมกับปรับเพิ่มความสบายทั้งการเดินทางออฟโรดและบนทางเรียบ รวมทั้งยังมีการใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าเฮฟวี-ดิวตีและระบบอีเล็กทรอนิกใหม่

นอกจากนี้รถปิกอัพรุ่นใหม่ยังมาพรอ้มกับระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการลุยอย่าง Trail Turn Assist ที่หยุดล้อในโค้งเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยวบนพื้นผิวที่ลื่นให้น้อยลง ระบบ Trail Control สำหรับควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำบนเส้นทางออฟโรด และโหมด Rock Crawl ที่มาจาก Raptor โดยรถมาพร้อมกับยางออล-เทอร์เรน  General Grabber AT3 265/70 R17

ส่วนขุมกำลังที่นำรถไปลุยเป็นเครื่องยนต์ดีเซลไบ-เทอรโบ 4 สูบ 2.0 ลิตร EcoBlue 205 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร โดยใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 10 สปีดนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ของรถ

ทาง Fordเริ่มรับออร์เดอร์รถปิกอัพรุ่นใหม่ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ แต่การส่งมอบรถทั่วยุโรปจะมีในเดือนสิงหาคม 2023