Ford Transit Trail รถตู้สำหรับคนชอบผจญภัย
Ford ขยายความอเนกประสงค์ให้กับรถตู้รุ่น Transit ของตนนอกเหนือไปจากการเป็นสำหรับการเดินทางทั่วไปหรือเป็นรถขนส่งสินค้า ด้วยการทำ Transit Trail ออกมาซึ่งมาพร้อมกับสเปกสำหรับผู้ที่ต้องการความอเนกประสงค์จากรถตู้แต่ก็อยากได้ความแกร่งเพิ่มขึ้นเพื่อให้สามารถไปผจญภัยหรือแคมปิ้งในพื้นที่ทุรกันดารได้
Ford Transit Trail มาพร้อมกับความสามารถในการออกไปผจญภัยพื้นที่ทุรกันดารด้วยเพิ่มความสูงของรถขึ้น 3.5 นิ้ว รวมทั้งยังขยายความกว้างของรถขึ้นอีก 2.75 นิ้ว เมื่อเทียบกับรถ Transit มาตรฐาน โดยรถยังมาพร้อมกับล้อขนาด 16 นิ้วสีดำและยางออลเทอร์เรน Goodyear Wrangler Workhorse ขนาด 30.5 นิ้วเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง
นอกจากเพิ่มความสูง ความกว้าง และมาพร้อมกับยางสำหรับการลุยแล้ว Transit Trail ยังมีรูปลักษณ์ที่ดูแกร่งขึ้นแตกต่างจากรถมาตรฐาน ด้วยการมีกันชนหน้าขนาดใหญ่ขึ้น มีคิ้วแต่งที่ซุ้มล้อ ติดบังโคลนด้านหลังล้อรถ รวมไปถึงมีบันไดข้างทั้ง 2 ฝั่งของรถ โดย Transit Trail มี 3 รูปแบบของตัวรถให้เลือกบนระยะฐานล้อของรถที่มีความยาว 147.6 นิ้วเท่ากันคือ Long, Medium Roof ซึ่งตัวรถมีความยาว 235.5 นิ้ว สูง 105 นิ้ว Long, High Roof ตัวรถมีความยาว 235.5 นิ้ว สูง 113.5 นิ้ว และ Extended, High Roof ซึ่งตัวรถมีความยาว 263.9 นิ้ว สูง 114 นิ้ว
ส่วนห้องโดยสารของรถที่ด้านหน้ามาพร้อมกับจอขนาด 12 นิ้วพร้อมระบบ Infotainment Sync 4 นอกจากนี้ยังมีทั้งช่องต่อไฟ 110-V, 12-V และช่องต่อยูเอสบี โดยที่มีระบบสมาร์ทคีย์ การทำงานช่วยตรวจจับมุมบอดพร้อมเซ็นเซอร์หลังและด้านข้างรถ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตามจุดเด่นของ Transit Trail คือมีพื้นที่ด้านหลังเพื่อให้เลือกติดตั้งตู้ ชั้น และที่นอน หรือสิ่งต่างๆ ที่ต้องการสำหรับการเปลี่ยนเป็นรถเพื่อการแคมปิ้งได้
นอกจากนี้ทาง Ford ยังมีออฟชัน Upfitter Package ให้เลือกติด ซึ่งจะทำให้รถมาพร้อมกับแถบไฟที่ด้านนอก คอนโซลกลาง แผงฟิวส์ไฟเสริม แบตเตอรี AGM คู่ รวมไปถึงมีการปรับสายต่างๆ เพื่อให้เปลี่ยนเป็นรถสำหรับการแคมปิ้งได้ง่ายขึ้น และยังมี Heavy-Duty Trailer Package ที่ทำให้สามารถลากจูงได้ถึงน้ำหนัก 2,948 กิโลกรัม รวมทั้งมีออฟชันพัดลมสำหรับติดหลังคารถมาให้ติดเพิ่ม
การขับเคลื่อนของ Transit Trail เป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบที่มีกำลัง 310 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของรถ และมี 5 โหมดการขับให้เลือกคือ Normal, Eco, Mud/Ruts, Tow/Haul และ Slippery ด้านราคาของรถเริ่มต้นที่ 65,975 ดอลล่าร์กับตัวรถ Long, Medium Roof ยาว 235.5 นิ้ว สูง 105 นิ้ว โดยทาง Ford จะเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th