ฟอร์มูลา อีเผยโฉมรถแข่งรุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 สำหรับใช้แข่งขันในสนามแข่งลักษณะสตีทเซอร์กิตฤดูกาลหน้า ซึ่งผู้จัดการแข่งขันได้ระบุว่านี่คือรถแข่งฟอร์มูลา อีที่มีความเร็วมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยการไปถึงระดับ 322 กม./ชม.

รถแข่งฟอร์มูลา อีรุ่นใหม่มาในการออกแบบตัวรถที่มีขนาดเล็กลงกว่าเจเนเรชัน 2 ทุกด้าน เพื่อทำให้นักแข่งสามารถแซงรถแข่งคันอื่นในสนามแข่งซึ่งเป็นถนนที่มีความแคบอย่างโมนาโกได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ความเร็วที่สูงถึง 322 กม./ชม. ของรถมาจากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ที่มีกำลัง 476 แรงม้า นอกจากนี้แม้ว่ารถแข่งจะมีกำลังขับเคลื่อนมากขึ้น แต่ก็มีน้ำหนักแค่ 840 กิโลกรัม ซึ่งน้อยกว่ารถแข่งรุ่นก่อนหน้าถึง  60 กิโลกรัม

เบื้องหลังการลดน้ำหนักของรถแข่งรุ่นใหม่ลงจากรุ่นก่อนหน้าคือการใช้แบตเตอรีขนาดเล็กลงร่วมกับการชาร์จพลังงานกลับจากการเบรกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้ระบบเบรกหลังไฮดรอลิกแทนระบบเบรกที่สามารถชาร์จพลังงานกลับได้ โดยทางฟอร์มูลา อีระบุว่านี่คือรถแข่งรุ่นแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนหน้า 250 kW  ร่วมกับระบบขับเคลื่อนหลัง 350 kW และมีความสามารถในการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 600 kW โดยทางผู้จัดการแข่งขันอ้างว่าเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ใช้ในการแข่งขันมาจากการพลังงานที่ได้มาจากการเบรก

นอกจากนี้ทางฟอร์มูลา อียังระบุว่าวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของรถแข่งจะเป็นอีกพื้นที่แข่งขันของแต่ละทีม เพราะการอัพเกรดสมรรถนะรถของเจน 3 จะทำได้โดยการอัพเดตซอฟต์แวร์แล้วอัพโหลดสู่ระบบปฏิบัติการที่มีความล้ำหน้าในรถ

ในขณะที่แบตเตอรีที่ใช้กับรถแข่งรุ่นใหม่ ถูกระบุว่าเป็นแบตเตอรีใหม่ที่ใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มีความยั่งยืน โดยแบตเตอรีจะถูกนำไปรีไซเคิลเมื่อหมดอายุการใช้งานแล้ว รวมทั้งตัวถังรถยังมาจากคาร์บอนไฟเบอร์รีไซเคิลซึ่งช่วยลดการสร้างคาร์บอนได้ 10 เปอร์เซ็นต์

การแข่งขันฟอร์มูลา อีฤดูกาลหน้าเป็นการแจ่งขันฤดูกาลที่ 9 ของมอเตอร์สปอร์ตรายการนี้ โดยมี 7 ผู้ผลิตรถยนต์ที่เซ็นสัญญาเข้าร่วมการแข่งเรียบร้อยแล้วอย่าง DS Automobiles, Jaguar, Mahindra, Maserati, NIO, Nissan, Porsche