Honda Freed ใหม่ขายแล้ว เมืองไทยว่าไง ?
แน่นอนว่ากระแสมินิ MPV ในบ้านเรากำลังกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ Toyota เปิดตัว Sienta และเกิดคำถามขึ้นว่า Honda Freed ที่เปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในตลาดญี่ปุ่นนี้ จะเข้ามาขายในบ้านเราหรือไม่ ?
ตรงนี้คือคำถามที่คาใจใครหลายคน และคำตอบก็ยังไม่แน่ชัด แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องนี้เรามาดูกันก่อนว่า Freed ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นมีอะไรน่าสนใจบ้าง
สำหรับรุ่นใหม่ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ Freed ซึ่งเป็นมินิแวนที่พัฒนาอยู่บนพื้นฐานเดียวกับ B-Car อย่าง City/Jazz แต่มากับตัวถังทรงกล่องแบบ 5 ประตูและเบาะนั่ง 3 แถว โดยรุ่นแรกเปิดตัวขายในช่วงปลายปี 2008 และบ้านเราเข้ามามีส่วนได้สัมผัสเพราะ Honda จัดการขึ้นไลน์ผลิตที่อินโดนีเซีย
ในรุ่นใหม่นี้ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือ ตัวรถเป็นแบงบทรงกล่องสูง ประตูหลังเปิดแบบสไลด์ไปทางด้านหลัง และมีให้เลือกทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่งในรุ่นปกติ และรุ่น 5 ที่นั่งซึ่งใช้ชื่อว่า Freed+ โดยตัวรถมากับความยาว 4,265-4,295 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,710 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,740 มิลลิเมตร ซึ่งตัวเลขนี้มีความใกล้เคียงกับรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กต์อย่าง Civic เลยทีเดียว
ระบบทรงกำลังไม่ว่าจะเป็นรุ่นธรรมดาหรือ Freed+ ที่ต่างกันในแง่ของการจัดเรียงเบาะ และอุปกรณ์มาตรฐานนั้น ทั้งคู่มีทางเลือกของเครื่องยนต์เหมือนกัน คือ แบบเบนซินธรรมดาที่ใช้รหัส L15B บล็อก 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว i-VTEC ที่มีความจุ 1,495 ซีซี กำลังสูงสุด 131 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.8 กก.-ม. ที่ 6,400 รอบ/นาที
อีกรุ่นเป็นไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 1,500 ซีซีบล็อกนี้เป็นพื้นฐานแต่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยทำงาน โดยขุมพลังรหัส LEB-H1 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซีเป็นพื้นฐานแต่ขยับอัตราส่วนการอัดจาก 11.5 มาเป็น 13.5 : 1 และตัวเครื่องยนต์เองมีกำลัง 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.7 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบ/นาที โดยที่มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุด 29.5 แรงม้า ที่ 1,313-2,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ที่ 0-1,313 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังเป็นแบบ CVT และเลือกจับคู่ได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 4 ล้อสำหรับรุ่นธรรมดา แต่รุ่นไฮบริดมีแค่ขับเคลื่อนล้อหน้าและใช้เกียร์แบบ DCT หรือคลัตช์คู่ 7 จังหวะ โดยในรุ่นไฮบริดมีความสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ระดับ 26.6 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นเบนซินจะอยู่ที่ 19.0 กิโลเมตร/ลิตรในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 17.6 กิโลเมตร/ลิตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
ในญี่ปุ่นวางขายแล้ว ส่วนราคาจะอยู่ในระดับ 1,880,000-2,748,200 เยน หรือประมาณ 658,000-961,000 บาท สำหรับบ้านเรา สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบยืนยันจาก Honda ประเทศไทย แต่เมื่อดูจากภาพรวมแล้ว จากการเข้ามาของ BR-V ซึ่งสามารถกินรวบทั้งตลาด SUV และ Minivan ได้เพราะมี 7 ที่นั่งนั้น ทำให้ Freed อาจจะหมดหวังในการเข้ามาขายในเมืองไทยที่ต้องพึ่งการนำเข้าจากไลน์ผลิตที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์อเนกประสงค์ แถมเทรนด์หรือแนวโน้มของความต้องการในตลาดเมืองไทยเริ่มเบี่ยงเบนมาที่ SUV หรือรถยนต์ในกลุ่ม CrossOver ตามตลาดโลก ก็น่าจะยืนยันได้ในระดับหนึ่งว่า โอกาสที่ท Freed จะกลับเข้ามาในเมืองไทยอีกครั้ง คงเป็นเรื่องยากแล้ว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th