หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอย่าง GM กำลังเล็งที่จะสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นให้กับ GM Defense ฝ่ายผลิตพาหนะทางการทหารที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้ก็เริ่มที่จะเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จด้วยการมีสัญญาหลักกับกองทัพสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก

        ทาง GM มองไปถึงตลาดที่มีมูลค่าถึง 25,000 ล้านดอลล่าร์ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกองทัพโดยใช้พื้นฐานจากรถยนต์ อะไหล่ และเทคโนโลยีที่มีอยู่ของตนเองจากการระบุของ Jeff Ryder รองประธานด้านการเติบโตและยุทธศาสตร์ของ GM Defence ที่บอกกับ CNBC ว่า “นั่นเป็นตลาดที่มีอยู่ซึ่งเรารู้สึกว่ามีสิทธิ์ที่จะชนะและทำตามวัตถุประสงค์ และนั่นคือสิ่งที่เราทำ” รวมทั้งยังบอกเพิ่มว่า “ขณะที่เราเติบโต ขณะที่เราทำวานเพื่อสร้างรถออกมา ขณะที่เราชนะมากขึ้น เราจะมีโอกาส ผมคิดไปถึงทิศทางต่อเนื่องไปยังทางอื่น หรือตลาดเที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นจำนวนจะไม่น้อยลงแน่นอน” ในอดีต GM Defense เคยมีการผลิตรถถังสำหรับกองทัพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  แต่ก็ไม่มีแผนที่ขยายออกไปจากการผลิตหลักของบริษัท ผู้ผบริการจอง GM Defense บอกเพิ่ม

        นอกจากนี้ Ryder ซึ่งคว่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานอากาศและกองทัพได้ระบุว่า กองทัพต้องการระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและรถไฟฟ้ารวมไปถึงระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ GM เน้นความสำคัญโดยการลงทุนถึง 27,000 ล้านดอลล่าร์จนถึงปี 2025 ในเทคโนโลยีนี้

ในอดีตผู้ผลิตรถยนต์จากเมืองดีทรอยต์รายนี้เคยขายฝ่ายธุรกิจกับกองทัพที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ให้กับ General Dynamics ในราคา 1,100 ล้านดอลล่าร์เมื่อปี 2003 และเมื่อเปิดตัว GM Defense ขึ้นมาใหม่ในปี 2017 ทางบริษัทก็ได้พยายามมองหาทั้งสัญญาย่อยและสัญญาใหญ่ๆ จากกองทัพ

        เมื่อมีการตั้ง GM Defense ขึ้นใหม่ในปี 2017 ได้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นแหล่งสำหรับโชว์เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงของ GM แต่อย่างไรก็ตามไม่ต่างกับตลาดผู้บริโภคทั่วไป ที่ความต้องการยังคงไม่มีเนื่องจากปัญหาเรื่องราคาและระบบพื้นฐาน โดย Ryder ได้บอกว่าเซล์เชื้อเพลิงยังคงเป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีนำเสนอของบริษัท แต่ตอนนี้ GM Defense เน้นไปที่โอกาศทางธุรกิจระยะสั้นอย่างยานยนต์แบตเตอรีไฟฟ้า “ความจริงก็คือกองทัพยังไม่พร้อมที่จะซื้อพาหนะใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงนับพันคัน รถไฟฟ้าเป็นการเจรจาที่เป็นจริงได้มากที่สุดตอนนี้”

        ก่อนหน้านี้ GM เคยร่วมมือกับอุตสาหกรรมของกองทัพสหรัฐอเมริกาเพื่อให้มีการประเมินผลิตภัณฑ์เซลล์เชื้อเพลิงซึ่งรวมไปถึง ZH-2 ซึ่งใช้พื้นฐานจากรถปิกอัพ Colorado รวมทั้งพาหนะใต้น้ำที่ไม่มีคนอยู่ภายใน นอกจากนี้ทางบริษัทยังเคยแสดงแพลตฟอร์มพาหนะทางทหารที่เรียกว่า Silent Utility Rover Universal Superstructure เพื่อพิสูจน์ถึงเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง โดย Ryder ได้ระบุจุดเด่นของทั้งพาหนะไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิงที่มีความเหนือกว่าพาหนะใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลว่าคือแรงบิดที่มาแทบจะในทันทีเพื่อการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วและปราศจากเสียงและปลอดภัยจากการตรวจจับความร้อน

อย่างไรก็ตามจนกว่ากองทัพสหรัฐอเมริกาจะปรับตัวขนาดใหญ่กับเทคโนโลยีใหม่ได้ ทาง GM Defense จึงยังเน้นไปที่การทำงานในระยะสั้นกับพาหนะใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบเดิม โดยทาง GM Defense ได้รับสัญญามูลค่า 214.3 ล้านดอลล่าร์ในช่วงต้นปีจากกองทัพเพื่อผลิตและซ่อมบำรุงพาหนะที่เรียกว่า Infantry Squad Vehicle ซึ่งใช้ขนส่งทหารในภาคสนาม โดยมีความร่วมมือกับ Ricardo Defense ซึ่งผลิตอุปกรณ์สนับสนุน

        สำหรับพาหนะทหาราบของ GM ใช้พื้นฐานขากรถปิดอัพขนาดกลาง Colorado ZR2 และอะไหล่ที่มีอยู่แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยในการพัฒนาและลดต้นทุน แต่รถสำหรับกองทัพจะมีความแตกต่างจากรถปิกอัพในตลาดตรงที่มีน้ำหนักเบาและทนทานเพียงพอสำหรับบรรทุกและห้อยลงจากเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์คได้ โดย Tim Herrick ที่รับหน้าที่รองประธานโปรแกรมโกลบอลโปรดักของ GM ได้บอกว่า Infantry Squad Vehicle เป็นแค่การเริ่มต้นสำหรับ GM Defense เท่านั้น โดยพาหนะทางทหารคันแรกที่ส่งมอบให้กองทัพได้ถูกผลิตออกมาจาก Milford Proving Ground ของ GM ในมิชิแกน และกำลังมีการปรับการผลิตที่มีอยู่ในนอร์ธแคโรไน่าเพื่อสนับสนุนการผลิตเพิ่ม

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th