ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการกลับมาของชื่อรถเอนกประสงค์สายลุยรุ่นดังในอดีต เพราะนอกจาก Ford จะเปิดตัว Bronco ออกมาแล้ว อีกชื่อรถเอสยูวีขวัญใจบรรดาเซเลบริตี้ในอดีตอย่าง Hummer ก็ได้ถูกเผยโฉมออกมาในชื่อ Hummer EV เพียงแต่ว่าการกลับมาคราวนี้ของ Hummer เป็นการมาในรูปแบบของรถปิกอัพภายใต้แบรนด์ GMC พร้อมกับเปลี่ยนจากใช้น้ำมันมาเป็นกินไฟแทน

เมื่อเทียบกับรถในอดีต Hummer EV  ซึ่งเป็นรถปิกอัพมาพร้อมกับการลดความเหลี่ยมภายนอกของรถลงพร้อมกับมีรูปทรงที่ดูไหลลื่นขึ้น โดยที่ไฟหน้า LED และกระจังหน้าที่มีลักษณะเรียวยาว มีช่องแนวตั้งเพื่อคงลักษณะช่องแนวตั้งในกระจังหน้าของ Hummer ในอดีตเอาไว้ นอกจากนี้รถปิกอัพไฟฟ้ายังให้ความรู้สึกพร้อมลุยด้วยกันชนหน้าขนาดใหญ่และแผ่นกันกระแทก ส่วนด้านหลังของรถนอกจากไฟท้าย LED แนวตั้งและกันชนท้ายขนาดใหญ่แล้ว ยังมาพร้อมกับ 2 ห่วง D-Ring สำหรับการลากจูง

นอกจากนี้ Hummer EV ยังถูกออกแบบเพื่อให้มีความอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นจากหลังคาซึ่งมีลักษณะโปร่งแสงที่สามารถถอดออกเพื่อการเดินทางในแบบรับอากาศภายนอกขณะลุยถิ่นทุรกันการได้ โดยที่สามารถเก็บแผ่นหลังคาไว้ในพื้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าของรถได้

ส่วนกำลังขับเคลื่อนของ Hummer ยุคใหม่มาจากการใช้ 3 มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังรวม 1,000 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 15,592 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะทำให้รถปิกอัพไฟฟ้าที่ขับเคลื่อน 4 ล้อนี้ใช้เวลาประมาณ 3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ส่วนพลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์มาจากแบตเตอรี Ultium ซึ่งให้ระยะการเดินทางได้สูงสุด 563 กิโลเมตร และด้วยการรองรับการชาร์จถึง 350 kW ของแบตเตอรีทำให้ใช้เวลาชาร์จ 10 นาทีก็สามารถเดินทางได้ 161 กิโลเมตร

ด้านความสามารถในการลุย GMC ระบุว่ารถปิกอัพไฟฟ้าของตนมาพร้อมกับยาง Goodyear Wrangler All Territory MT 35 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้รถผ่านสิ่งกีดขวางที่มีความสูงได้ พร้อมกับสามารถลุยน้ำได้สูง 2 ฟุต และเพื่อให้ความสบายในขณะเดินทาง Hummer EV จึงมาพร้อมกับช่วงล่าง Adaptive Air Suspension โดยมีช่วงล่างที่สามารถเพิ่มความสูงของรถได้ 6 นิ้ว เมื่อต้องการลุยโหดสุดๆ

ภายในห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับจอแสดงข้อมูลดิจิตอลแบบลอยตัวขนาด 12.3 นิ้ว และจอระบบ Infotainment ขนาด 13.4 นิ้ว มาพร้อมกับการใช้งานระบบ UltraVision ด้วยการดูภาพจากกล้องในมุมที่แตกต่างกัน 18 ตัวของรถ รวมไปถึงภาพใต้ท้องรถเพื่อการขับผ่านสิ่งกีดขวาง นอกจากนี้ Hummer EV ยังมาพร้อมกับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Super Cruise ที่ผู้ขับสามารถละมือจากพวงมาลัยได้บนถนนในสหรัฐอเมริกาที่รองรับการใช้งานนี้

สำหรับแผนการขาย Hummer EV ทาง GMC จะส่ง Hummer EV Edition 1 ออกมาปีหน้าด้วยราคา 112,595 ดอลล่าร์ จากนั้นจึงตามด้วย Hummer EV 3X ที่มาพร้อมกับ 3 มอเตอร์เหมือน Edition 1 แต่มีกำลัง 800 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 12,880 นิวตันเมตรกับราคา 99,995 ดอลล่าร์ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า แล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ก็จะมีรุ่น 2X ซึ่งใช้มอเตอร์คู่ กำลัง 625 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 10,003 นิวตัน-เมตร พร้อมระยะการเดินทาง 402 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามออกมาในราคา 89,995 ดอลล่าร์ ต่อด้วยรุ่นพื้นฐานที่ใช้มอเตอร์คู่เหมือนกับ 2X แต่มีระยะการเดินทางน้อยกว่าซึ่งมีราคา 79,995 ดอลล่าร์ออกมาในปี 2024

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th