แม้จะเพิ่งมีการแข่งขันมาได้เพียง 2 ปี และในปีนี้เพิ่งผ่านการแข่งขันได้เพียงสนามเดียวก็ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปไม่ต่างกับมอเตอร์สปอร์ตในโลกจริง แต่ FIA-Certified Gran Turismo Championship หรือ GT Championship ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์อีสปอร์ตของ Gran Turismo Sport ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นหนึ่งในอีสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจมากกว่าจากแค่กลุ่มผู้นิยมเกมรถแข่งในเพลย์สเตชั่นเล็กๆ เท่านั้น การที่เกมรถแข่ง

ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกกลายเป็นอีสปอร์ตและประสบความสำเร็จนั้นมีเหตุผล รวมทั้งยังอาจเป็นแบบแผนของการแข่งรถเสมือนในอนาคตด้วย

มีความหลากหลาย

กับ Gran Turismo Sport ตอนนี้มีทั้งสนามและรถจำนวนมากให้เลือก โดยในค่ำคืนหนึ่งของการแข่งขันผู้ชมสามารถเห็นบรรดาต้นแบบที่ล้ำอนาคตอย่างไม่น่าเชื่อโฉบเฉี่ยวไปทั่วสนามเลอ มังส์, เหล่ารถแข่งจีที 3 พุ่งไปบนโตเกียวมอเตอร์เวย์ หรือรถฟอร์มูล่าทำความเร็วท่ามกลางสายฝนในสนาม Spa-Francorchamps ในเวลาใกล้เคียงกันจากการถ่ายทอดการแข่งขัน

นอกจากนี้ยังมีเหตุผลให้บรรดาคอเกม Gran Turismo ต้องคอยติดตามด้วย เพราะการแข่งขันมักถูกใช้เป็นสถานที่เปิดตัวรถและสนามใหม่ก่อนที่จะมีในเกม อย่าง World Final 2019 ซึ่งเป็นการแข่งรายการสุดท้ายของปีที่แล้วที่โมนาโกได้มีการเผยสนาม Laguna Seca สำหรับ Gran Turismo Sport ออกมาเป็นครั้งแรกก่อนที่จะปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรีได้ในเดือนต่อมา

มีความน่าดู

การแข่งขันในแต่ละรอบจะถูกนำเสนอไม่ต่างกับรายการทีวีคุณภาพสูงรายการหนึ่ง รวมทั้งไม่ต่างกับในเพลย์สเตชั่นที่บ้านของคุณที่ตัวเกมเองมีความตื่นตาสำหรับผู้ดู นอกจากนี้ในความเป็นจริงแล้ว Gran Turismo Sport ยังถูกออกแบบมาสำหรับเป็นการแข่งขันที่มีการถ่ายทอดมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงทำให้มีภาพรวมที่บอกสิ่งต่างๆ พร้อมกับมุมกล้องที่เพิ่มขึ้น และการรีเพลย์แทบจะทันทีเมื่อมีเหตุการใดเกิดขึ้น

        ในทัวร์นาเม้นต์ GT World Championship มีบรรดาคอมเมนเตเตอร์ที่มีความรู้ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแข่งรถแบบเสมือนอย่าง Jimmy Broadbent การสัมภาษณ์นักแข่งที่สำคัญทันทีหลังการแข่งเพื่อมีอารมณ์ร่วมกับการแข่งได้เสมอ ในขณะที่ตัวการแข่งขันแม้เป็นสิ่งที่ใช้เวลาไม่นานเมื่อเทียบกับฟอร์มูล่าวัน แต่ก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ด้านกลยุทธเรื่องยางและน้ำมันได้ รวมไปถึงการเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่มีขึ้นไม่นานจึงทำให้ยังคงปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมได้

เป็นมากกว่าโลกเสมือน

การแข่งขัน GT World Champions ได้กลายเป็นหนทางใหม่สำหรับบรรดานักแข่งรถเสมือนที่มีความสามารถซึ่งไม่มีที่ยืน และเป็นสิ่งที่จะช่วยพวกเขาในการสร้างอนาคตกับมอเตอร์สปอร์ตในโลกจริงได้ นักแข่งบราซิเลียนอย่าง Igor Fraga ได้มีโอกาสกับฤดูกาลของเอฟไอเอ ฟอร์มูลา 3 ในโลกจริงไปเรียบร้อยแล้วด้วยการสนับสนุนจาก Gran Turismo และก็ไม่น่าแปลกใจที่จะมีบรรดานักแข่งที่เก่งกาจคนอื่นตามมาอีก

นอกจากนี้หาก Igor Fraga สามารถไต่ขึ้นสู่ฟอร์มูลา วันในอนาคตมันจะกลายเป็นเส้นทางที่สุดยอดของการแข่งรถเสมือน Gran Turismo Sport หรือในอีกด้านหนึ่ง ในอนาคตอาจได้เห็น Lewis Hamilton มาแข่งอีสปอร์ตอย่างเต็มตัว

มีนักแข่งในโลกจริงมาร่วม

หนึ่งในความน่าตื่นตาของการแข่งขันรอบ Word Final ที่โมนาโกปีที่แล้วคือ บรรดานักแข่งในโลกจริงได้ปรากฏตัวทั้งเพื่อให้การสนับสนุนและในฐานะผู้ชม ตั้งแต่ Jamie Chadwick แชมป์ W Series ที่เข้ามาให้คำแนะนำในหนึ่งในการแข่ง Cup Race หรือ Adam Christodoulou นักขับทีมโรงงาน AMG-Mercedes พยายามช่วยให้คำแนะนำแก่ลูกทีม AMG-Mercedes ในการแข่งขันเดียวกัน จนอาจเรียกได้ว่าเป็นการแข่งแบบโปร-แอมซึ่งแสดงให้เห็นความใกล้ชิดกันของนักแข่งรถในโลกจริงกับเพื่อมร่วมทีมในโลกเสมือน

นอกจากนี้ Lewis Hamilton ยังปรากฏตัวเพื่อเป็นเกียร์ในวันเปิดการแข่งขัน พร้อมให้คำแนะนำผู้ร่วมแข่งขันถึงการรับมือกับแรงกดดันของการชี้ชะตาเพื่อเป็นแชมป์ และประกาศถึงคอนเทนต์ใหม่สำหรับดาวน์โหลด ยังไม่รวมไปถึง Max Verstappen ที่ปรากฏตัวในฐานะผู้ดูโดยไม่มีการประกาศออกมาในคืนหนึ่งของการแข่ง Nation Cup รอบสุดท้าย ทั่งหมดนี้หมายความว่า GT World Final มีความน่าสนใจไม่ต่างงานแสดงใหญ่งานหนึ่ง

ผู้ผลิตรถยนต์อยากร่วมด้วย

เกมแข่งรถอื่นอาจเพิ่มจำนวนรถแข่งให้เลือกได้เหมือนกับ Gran Turismo Sport แต่ไม่มีเกมใดที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ผลิตรถยนต์ได้เหมือนกับ Gran Turismo ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ Vision GT Project จะเห็นได้จากการที่ Lamborghi เปิดตัว Lambo V12 Vision GT Concept ออกมาในการแข่งขัน รวมทั้งการแข่งขันรายการของ Gran Turismo Manufacturer ยังมีการนำเสนอรถซึ่งให้ประโยชน์แก่ผู้ผลิตรถยนต์จากโปรแกรมการแข่งของโรงงานโดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมหาศาลในส่วนนี้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้ผลิตรถยนต์อยากมีส่วนร่วม

ทำเพื่อให้คงอยู่ตลอดไป

สำหรับ Kazunori Yamauchi ผู้สร้างสรรค์รายการแข่งนี้ขึ้นมา นี่ไม่ใช่แค่เรื่องทางการตลาด แต่เขามองเป็นการวางรูปแบบของมอเตอร์สปอร์ตที่จะคงอยู่ไปอีก 100 ปี นอกจากนี้ในขณะที่กับมอเตอร์สปอร์ตซึ่งเป็นงานอดิเรกของคนมีเงิน เขามองว่า Gran Turismo Sport เป็นหนทางของผู้คนที่มีฐานะพอประมาณที่จะเข้าร่วมได้

“มอเตอร์สปอร์ตมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แต่นานมาแล้วที่เป็นกีฬาสำหรับสังคมชั้นสูง ผู้คนที่มีเงิน มีเพียงในยุค 1970 ที่ประตูถูกเปิดสู่คนทั่วไปให้เข้าร่วมได้ด้วยการแค่ติดสติ๊กเกอร์ลงบนรถที่ซื้อมา นั่นเป็นยุคที่มีความพิเศษของมอเตอร์สปอร์ต แต่เมื่อถึงยุค 90 ประตูก็ปิดลงอีกครั้ง

ผมเติบโตในช่วงที่ประตูถูกเปิดออก และพบความสนุกของมอเตอร์สปอร์ตใบแบบนั้น ผมกลัวว่าเราจะไม่ได้ทำอะไรเลยเกี่ยวกับมัน มอเตอร์สปอร์ตจะไม่เป็นวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมอีกต่อไป ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมยานยนต์กังวลเช่นเดียวกัน จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาช่วยเราและสนับสนุนการแข่งขันรวมทั้งทุกสิ่งที่เราทำ”

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th