Gumball 3000 แรลลี่ซูเปอร์คาร์ Pit Stop ที่ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์
Gumball 3000 แรลลี่ซูเปอร์คาร์ และลักชัวรี่อันโด่งดัง ฉลองครบรอบ 25 ปี ด้วยการเดินทางอันน่าตื่นเต้นเป็นระยะทางไกลถึง 3,000 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ 14-22 กันยายน ผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มต้นจากเวียดนาม และสิ้นสุดที่สิงคโปร์ในช่วงสุดสัปดาห์ของการแข่งขันศึกฟอร์มูล่า วัน โดยผู้เข้าร่วมเดินทางจะได้ขับผ่านเส้นทางที่มีชีวิตชีวาผ่านเมืองต่างๆ เช่น พนมเปญ, เสียมราฐ, กรุงเทพฯ, หัวหิน, กระบี่ และกัวลาลัมเปอร์ ก่อนจะถึงจุดสุดท้ายที่ Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 21 กันยายน
เส้นทางอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงภูมิประเทศและวัฒนธรรมอันงดงามของภูมิภาค แต่ยังเป็นการรวมตัวของผู้คนจากทุกสัญชาติในการผจญภัยอันน่าทึ่ง พร้อมกับการระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการการกุศลสำหรับเยาวชน เพื่อมอบโอกาสที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนรุ่นต่อไปอีกด้วย
ส่วนหนึ่งของกิจกรรมสำคัญครั้งนี้คือการที่ขบวนแรลลี่ Gumball3000 แวะพิเศษที่ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ หัวหิน เมื่อวันที่ 18 กันยายน ไร่องุ่นแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาของหัวหิน เป็นที่รู้จักจากไวน์ที่ได้รับรางวัล และภูมิทัศน์อันงดงาม ผู้เข้าร่วมแรลลี่จะได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศของไทยท่ามกลางบรรยากาศไร่องุ่นที่สวยงามก่อนจะเดินทางต่อไปยังกระบี่
อัลบอน เตรียมสวมหมวกลายพญานาคลงแข่งศึกสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแรลลี่ครั้งนี้ประกอบด้วยบุคคลผู้มีชื่อเสียงจากทั่วโลก ตั้งแต่นักกีฬาระดับตำนานยูทูบเบอร์ นักดนตรีไปจนถึงอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก อาทิ สตรีมเมอร์ IShowSpeed จากสหรัฐฯ ผู้ขับ Lamborghini Huracan STO, Patrice Evra อดีตแบ็กซ้ายระดับตำนานของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติฝรั่งเศส ผู้ขับ Rolls Royce Cullinan, พร้อมด้วยยูทูบเบอร์ระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง Lazarbeam และ Vikkstar และแร็พเพอร์ชาวอเมริกัน Ja Rule และ Bun B ส่วนรถซูเปอร์คาร์ที่ร่วมขบวนก็มีตั้งแต่ Bugatti ไปจนถึง Koenigsegg
Maximillion Cooper ผู้ก่อตั้ง Gumball3000 แสดงความตื่นเต้นดีใจที่ได้แวะที่ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ “ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ เป็นจุดแวะที่สมบูรณ์แบบสำหรับการชื่นชมความงดงามของประเทศไทย ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นเสมือนอัญมณีล้ำค่าที่ซ่อนตัวอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง และเป็นจุดหมายปลายทางที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของGumball 3000”
นอกเหนือจากซูเปอร์คาร์ และเหล่าคนดังแล้ว Gumball3000 ยังมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคมผ่านมูลนิธิ Gumball 3000 มูลนิธินี้สนับสนุนโครงการสำหรับเยาวชนทั่วโลก โดยร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น The Skatepark Project เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาด้านกีฬา, ดนตรี และการศึกษาสำหรับชุมชนที่ขาดแคลน
สำหรับโครงการการกุศลในปีนี้ ได้แก่ การสร้างสนามกีฬาลอยน้ำในกำปงเกลียง ประเทศกัมพูชา และการบริจาคอุปกรณ์สเก็ตบอร์ดให้กับชุมชนท้องถิ่นตลอดเส้นทางที่แรลลี่ผ่าน มูลนิธิยังคงดำเนินภารกิจในการสร้างแรงบันดาลใจและเสริมพลังให้คนรุ่นต่อไปผ่านโครงการสร้างสรรค์และสร้างความเปลี่ยนแปลง
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Monsoon Valley
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
มอนซูน แวลลีย์ (Monsoon Valley) ไวน์ไทยยอดขายระดับท็อปที่ได้รับรางวัลระดับสากลมากที่สุดของไทย สร้างกระแส Soft Power โชว์ศิลปะไทยบนเวทีโลก ด้วยแคมเปญ “THAI PASSION, THAI PRIDE” เชิญศิลปินไทยชื่อดัง “ก้องกาน” มาออกแบบลวดลาย “พญานาค” บนหมวกกันน็อคให้ อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งฟอร์มูล่า วัน หนึ่งเดียวของไทย ใส่ลงแข่ง F1 Singapore Grand Prix 2024 พร้อมเปิดตัวน้ำองุ่น และไวน์แดงซิกเนเจอร์ของ มอนซูน แวลลีย์ ในขวดรุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน เพื่อร่วมจารึกโอกาสสำคัญครั้งนี้ด้วย
นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์แห่งความภาคภูมิใจในความเป็นไทยอย่างแท้จริง เมื่อมอนซูน แวลลีย์ พาศิลปินป๊อปอาร์ตชาวไทยที่กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่จับตามองมากที่สุดอย่าง “ก้องกาน” (Gongkan) กันตภณ เมธีกุล และ อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งฟอร์มูล่า วัน หนึ่งเดียวของไทย แบรนด์แอมบาสเดอร์ มอนซูน แวลลีย์
มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานสุดพิเศษ เป็นหมวกกันน็อคสำหรับแข่งฟอร์มูลาวันลายพญานาค ซึ่งไม่เพียงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก แต่ยังเป็นการแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถอันยอดเยี่ยมของคนไทยทั้งในด้านศิลปะและกีฬา
ขณะที่ อเล็กซ์ อัลบอน แบรนด์แอมบาสเดอร์ มอนซูน แวลลีย์ เป็นนักแข่งฟอร์มูล่า วัน หนึ่งเดียวของไทยที่สร้างความภาคภูมิใจในการแข่งขันระดับโลก เขามุ่งมั่นและทุ่มเทจนทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในวงการฟอร์มูลาวัน จึงนับว่าเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ มอนซูน แวลลีย์ แบรนด์ที่มีปณิธานในการส่งเสริมความเป็นไทยไปสู่เวทีโลก
ทั้งนี้การออกแบบลวดลายบนหมวกสำหรับแข่งขันฟอร์มูล่าวันครั้งนี้ได้นำ “พญานาค” (Naga) มาเป็นแนวคิดหลัก ด้วยเพราะเป็นสัตว์ในตำนานที่ได้รับความนับถือศรัทธาในวัฒนธรรมไทย อีกทั้งเมื่อปี 2565 รัฐบาลไทยยังได้ประกาศให้พญานาคเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ
ดังนั้นการออกแบบสร้างสรรค์ลวดลายพญานาคลงบนหมวกแข่งให้นักแข่งฟอร์มูล่าวัน สวมไปโลดแล่นในสนามระดับโลก จึงเป็นการประกาศความเป็นไทยและแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทยได้อย่างชัดเจน ซึ่งครั้งนี้ ก้องกาน ได้ออกแบบลายพญานาค 3 คอนเซ็ปต์ ได้แก่
“COURAGE: พญานาคแห่งความกล้าหาญ” สะท้อนถึงพลังที่เต็มเปี่ยมด้วยความแข็งแกร่งและความมั่นใจที่ไม่สั่นคลอน พร้อมเผชิญหน้าทุกอุปสรรคเพื่อทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ “MYSTIC: พญานาคแห่งความลึกลับ” ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์และชวนค้นหา ดึงดูดให้ทุกสายตาจ้องมองและหลงเสน่ห์ไปกับความลึกลับนั้น “SERENITY: พญานาคแห่งความเงียบสงบ” มาพร้อมท่าทีสงบนิ่งผสานกับดวงตาที่เปร่งประกายอย่างเป็นมิตร สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของคนไทยที่จิตใจโอบอ้อมด้วยไมตรี
และเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยได้มีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบลวดลายแห่งความภาคภูมิใจครั้งนี้ มอนซูน แวลลีย์ ได้เปิดให้ทุกคนโหวตเลือกลายพญานาคที่ชอบจาก 3 คอนเซ็ปต์ ซึ่งลายที่ได้รับการโหวตมากที่สุด จะถูกนำไปพิมพ์ลงบนหมวกกันน็อคสำหรับแข่งขันฟอร์มูล่าวันให้ อเล็กซ์ อัลบอน สวมลงแข่งในรายการ F1 Singapore Grand Prix 2024 ที่จะจัดขึ้นกลางเดือนกันยายนนี้
ทางด้าน วาริท อยู่วิทยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ เผยว่า “แคมเปญนี้ไม่เพียงเป็นครั้งแรกของการนำศิลปะและความคิดสร้างสรรค์แบบไทยมารวมเข้ากับกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลก แต่ยังเป็นความร่วมมือครั้งพิเศษของ มอนซูน แวลลีย์ ไวน์ที่ยอดเยี่ยมของไทยซึ่งการันตีด้วยหลายรางวัลระดับโลก อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งฟอร์มูล่า วันหนึ่งเดียวของไทยซึ่งสร้างผลงานระดับโลก และก้องกาน ศิลปินไทยผู้โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งนับได้ว่าเป็นการรวมความเป็นไทยซึ่งเป็นเลิศในแต่ละแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อนำวัฒนธรรมไทยและความภาคภูมิใจของประเทศไทยไปแสดงต่อสายตาชาวโลก โดยเฉพาะแฟน ๆ ฟอร์มูล่าวัน อันจะเป็นการส่งเสริมและผลักดันความเป็นไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น”
ก้องกาน เป็นศิลปินชาวไทยที่เกิดและเติบโตในกรุงเทพฯ ก่อนสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักระดับโลก ด้วยผลงาน Teleport Art อันโดดเด่น ซึ่งเคยจัดนิทรรศการเดี่ยวมาแล้วในเมืองใหญ่ทั่วโลก ทั้ง นิวยอร์ก แอลเอ ปารีส โซล โตเกียว ไทเป และกรุงเทพฯ จึงทำให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในไทยและในหมู่นักสะสมผลงานศิลปะทั่วโลก อเล็กซ์ อัลบอน