GWM จัดเต็มยานยนต์ไฟฟ้า ในงาน Motor Show 2023
GWM จัดเต็มทัพยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในงาน Motor Show 2023 พร้อมเปิดจองสิทธิ์ซื้อ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV และ ORA Good Cat
GWM ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าและความมุ่งมั่นในการส่งมอบรถยนต์คุณภาพให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ยกขบวนพาเหรดยนตรกรรมไฟฟ้า (xEV) ที่มาพร้อมนวัตกรรมการขับขี่แห่งอนาคต พร้อมเปิดจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถยนต์เรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ TANK ก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการครั้งแรก รวมถึงเดินหน้าเปิดรับจอง ORA Good Cat เพิ่มเติม
โดยภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 มีคณะผู้บริหารระดับสูงนำโดย มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) และ นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ภาพรวมความสำเร็จ รวมถึงแนะนำ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่ถูกนำมาจัดแสดงไว้ภายในงาน
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV
เป็นรถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม TANK โมดูล่าร์ออฟโรดอัจฉริยะ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับระบบเครื่องยนต์ได้หลายประเภทและหลากหลายขนาด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ 9HAT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 11 รูปแบบ
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวแสดงความมั่นใจในรถยนต์เรือธงรุ่นแรกอย่าง All New GWM TANK 500 Hybrid SUV จากเกรท วอลล์ มอเตอร์ หลังแบรนด์ TANK ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในจีน ด้วยยอดขายสูงถึง 200,000 คันในปีที่ผ่านมา
All New GWM TANK 500 Hybrid SUV
– Nothing is Unreachable ไม่มีความสำเร็จไหนที่ไปไม่ถึง เป็นรถยนต์จะมาสร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับตลาดรถยนต์เอสยูวีและผู้บริโภคชาวไทย TANK เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของ 4 บุคลิกที่เราเลือกส่งต่อผ่านผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ อันได้แก่
T – คือ Tough ทรหด อดทน ผจญทุกอุปสรรค
A – Ambitious มุ่งมั่น ไม่หยุดนิ่ง ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ
N – Normal เรียบง่าย เข้าถึงได้ เป็นตัวของตัวเอง แต่แฝงไว้ด้วย
K – Kind ความดีงามของจิตใจ ความอ่อนโยน คิดถึงคนรอบข้าง
โดยเราเชื่อมั่นว่า DNA ของ TANK ที่มีความบึกบึน ทรหด แต่เปี่ยมไปด้วยความเรียบหรู สง่างาม จะพาผู้บริโภคชาวไทยผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างไปได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย”
นอกจากไฮไลท์รถยนต์เอสยูวีออฟโรดพรีเมียมสำหรับผู้ขับขี่สายลุยยุคใหม่ อย่าง All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ที่เตรียมเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้แล้ว
ภายในงานครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดแสดงรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำจาก แบรนด์ HAVAL ไม่ว่าจะเป็น All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ที่เพิ่งคว้ารางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 C.C” จากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR & BIKE OF THE YEAR 2023”
พร้อมด้วยทัพรถยนต์ยอดนิยมอีก 4 รุ่นอย่าง New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์คอมแพคเอสยูวีอย่างต่อเนื่อง, HAVAL JOLION Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย, ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้กับชาวไทยและได้รับความนิยมจากคนไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดได้เปิดตัวสีใหม่สุดน่ารัก Pistachio Green และ ORA Good Cat GT เจ้าเหมียวสปอร์ตไฟฟ้าดีไซน์โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันเร้าใจ
โดยหลังจากที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศเปิดรับจอง ORA Good Cat อีกครั้งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ORA GOOD CAT ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น ด้วยตัวเลขการสั่งจองมากกว่า 3,000 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอีกขั้นของการสร้างสรรค์ และการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์
พร้อมตอกย้ำความพร้อมสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยภายในสิ้นเดือนเมษายน จะมีรถที่นำเข้าและมาอยู่ในประเทศไทยถึง 3,000 คัน และเพิ่มเป็นทั้งสิ้น 6,000 คันภายในเดือนมิถุนายน ตอบรับกับกระแสนิยมของ ORA Good Cat ท่ามกลางกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่ได้ให้ความไว้วางใจและรอคอยการกลับมาของน้องเหมียวไฟฟ้าอย่างใจจดใจจ่อ
สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นั้น มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ย้ำว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ “แตกต่าง” เพื่อสร้างการแข่งขันอย่างยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ และส่งมอบทางเลือกผลิตภัณฑ์ การบริการ และประสบการณ์ต่าง ๆ
โดยให้ความสำคัญกับการพลังงานทางเลือกใหม่ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการขับขี่ที่จะถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นผ่านรถยนต์อัจฉริยะ 5 รุ่นที่ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวแล้ว และเตรียมเปิดตัวในตลาดประเทศไทยภายในปีนี้
“เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ ‘บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก’ ตั้งเป้าเป็นแบรนด์เพื่อผู้ขับขี่รถยนต์อย่างแท้จริง ในปีที่ผ่านมา มีแฟน ๆ และผู้ขับขี่รถยนต์ GWM เกือบ 40,000 คนเข้าร่วมกิจกรรมกับเรา รวมแล้วกว่า 400 กิจกรรม สะท้อนให้เห็นว่า เรามีส่วนร่วมกับลูกค้าในเชิงรุกมาโดยตลอด
ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเป็นแบรนด์ที่มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน ในตลาดโลก GWM ประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์และมียอดจำหน่ายมากกว่า 1 ล้านคัน เป็นเวลาติดต่อกัน 7 ปีซ้อน
นอกจากนี้ รถยนต์ของเรายังถูกส่งออกไปกว่า 170 ประเทศ ทั่วโลก โดยรวมแล้วเราได้ส่งมอบรถยนต์ไปแล้วกว่า 12 ล้านคัน แรงสนับสนุนจากแฟนๆ และผู้ขับขี่รถยนต์ GWM นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เราไปสู่เป้าหมายการผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) พร้อมส่งมอบยานยนต์คุณภาพให้ผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกต่อไป”
ภายในงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเปิดตัวโลโก้ใหม่ของแบรนด์ HAVAL ที่ช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยรู้สึกเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมที่โดดเด่นของแบรนด์ HAVAL ความเปิดกว้าง และความยืดหยุ่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับผู้ขับขี่ทั่วโลกในยุคดิจิทัล
สำหรับ ประเทศไทยจะมีการใช้โลโก้ใหม่ภายในปีนี้ สำหรับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ จะมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ให้กับ HAVAL รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดไปในเดือนนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงพาเหรดรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลอดจนข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมาย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดมุมน่าสนใจอื่น ๆ ภายในบูธสำหรับลูกค้าชาวไทย อาทิ GWM Fun กิจกรรมเก็บสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกและลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษมากมาย, Lifestyle Store มุมสินค้าไลฟ์สไตล์น่ารัก ๆ, GWM Bar พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มอร่อย ๆ ตลอดงาน และ Lifestyle Lounge พื้นที่พักผ่อนภายในบูธ
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม All New GWM TANK 500 Hybrid SUV และทัพยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต สามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับรถยนต์หลากหลายรุ่นได้ที่ บูธ A4 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 เวลา 12.00 – 22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00 – 22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)