Harley Davidson Pan America 1250 ถือเป็นหนึ่งใน รถ จักรยานยนต์ อเนกประสงค์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์สมรรถนะสูง และมีความทนทานเป็นพิเศษ ในส่วนของช่วงล่างก็มีความล้ำสมัยอย่างสังเกตเห็นได้ชัดเจน ด้วยการออกแบบออกมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกที่ สัมผัสได้ถึงการผจญภัยอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังพร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่บนท้องถนน ที่แปลกใหม่ให้กับทุกท่านได้อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความแข็งแกร่งของตัวรถ รวมถึงความมั่นใจเมื่อนั่งอยู่หลังเบาะ ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว

การออกแบบ รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250 มีส่วนประกอบของโครงรถทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ ส่วนหน้า ส่วนกลาง และส่วนท้าย ที่ยึดโครงรถด้วยสลักเกลียวเข้ากับระบบส่งกำลังโดยตรง ซึ่งการออกแบบลักษณะเช่นนี้ จะถือเป็นการช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้เป็นอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังทำให้โครงรถมีความแข็งแรง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ในส่วนของแกนล้อด้านหลัง ก็ได้ทำการหล่อขึ้นมาจากอะลูมิเนียม ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดน้ำหนักที่อยู่ใต้สปริง ให้ลดลงจนเหลือน้อยที่สุด

นอกจากนี้ในส่วนของโครงรถก็ได้รับการออกแบบออกมา ให้มีระยะห่างของช่วงล้ออยู่ที่ 158 เซนติเมตร ซึ่งถือเป็นระยะห่างที่มีความเหมาะสม และตอบโจทย์ตามความต้องการของ รถ จักรยานยนต์ แอดเวนเจอร์ทัวร์ริง โดยเฉพาะเมื่อมีผู้โดยสารและสัมภาระต่าง ๆ เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการทำให้ควบคุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว และแม่นยำ อันเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นของการขับขี่ออฟโรดเป็นอย่างมาก

ในส่วนของล้ออะลูมิเนียมด้านหน้ามีขนาด 19 นิ้ว และล้อด้านหลังมีขนาด 17 นิ้ว ที่ทางแบรนด์ได้ทำการออกแบบให้มีความแข็งแกร่ง แต่ทว่าน้ำหนักเบาได้อย่างลงตัว เพื่อการตอบสนองที่ดีในการขับขี่บนท้องถนนที่มีความขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้ร่วมมือกับทาง Michelin เพื่อทำการออกแบบยางที่มีคุณภาพสูง เฉกเช่น Scorcher Adventure เหนือสิ่งอื่นใด ในอนาคตก็อาจจะมีการจัดจำหน่ายยาง Michelin Anakee Wild ที่มีคุณลักษณะเป็นผิวขรุขระ ที่ออกแบบมาเพื่อขับขี่บนเส้นทางออฟโรดโดยเฉพาะ

เครื่องยนต์ของ รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250

รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Revolution® Max 1250 แบบ 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มีความจุกระบอกสูบขนาด 1,250 ซีซี ที่ได้ทำการออกแบบมาให้มีคุณสมบัติในการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในทุก ๆ ช่วงความเร็วของการขับเคลื่อน อีกทั้งในส่วนของกำลังความเร็วรอบเครื่อง (RPM) ก็จะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เครื่องยนต์ Revolution Max ก็ได้ถูกผสมเข้ากับส่วนกลางของโครงรถ เพื่อทำให้ตัวรถมีน้ำหนักที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 242 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของพละกำลังของตัวเครื่อง ก็จะอยู่ที่ 150 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดที่ 128 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 13.0:1 ประกอบกับมีระบบเกียร์ที่มาในรูปแบบแบบ 6 สปีด พร้อมทั้งใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยระบบโซ่ และมีความจุของถังน้ำมันเครื่องขนาด 4.5 ลิตร ในส่วนของระบบเบรกหน้า จะใช้เป็นดิสเบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร พร้อมกับปั๊มเบรก Brembo 4 พอต ประกอบกับเบรกหลัง จะใช้เป็นดิสเบรกเดี่ยวขนาด 280 มิลลิเมตร พร้อมกับปั๊มเบรก Brembo 1 พอต

ในส่วนของมิติของ รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250 ก็จะความกว้าง x สูง x ยาว ที่ใกล้เคียงกันกับ BMW R1250GS และมีความสูงของเบาะอยู่ที่ 890 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อขนาด 1,580 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้น 210 มิลลิเมตร น้ำหนักพร้อมใช้งานอยู่ที่ 245 กิโลกรัม และมีขนาดความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 21.2 ลิตร

ราคาของ รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250

ในส่วนของ รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250 นั้น ต้องบอกก่อนว่าได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จำนวน 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ รุ่น Standard และรุ่น Special โดยมีราคาอยู่ที่ 899,000 บาท และ 952,000 บาทตามลำดับ นอกจากทางแบรนด์จะทำการเปิดตัวรถแล้วล่ะก็ ยังได้ทำการเผยโฉมของอุปกรณ์ตกแต่งรถ พร้อมด้วยชุดอุปกรณ์แต่งกายรูปแบบต่าง ๆ สำหรับสายทัวร์ริงแอดเวนเจอร์โดยเฉพาะอีกด้วย เรียกได้ว่ามาพร้อมกันครบชุด โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลารอนานแม้แต่น้อยเลยนั่นเอง

ซึ่งจะเห็นได้ว่าบทความที่เพิ่งกล่าวถึง รถ จักรยานยนต์ Harley Davidson Pan America 1250 ค่อนข้างมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ประกอบกับมีการออกแบบโครงรถให้สามารถขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่ว และแม่นยำ ด้วยน้ำหนักโดยรวมที่ค่อนข้างน้อย และถ้าหากทำการเปรียบเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก หากท่านใดที่กำลังลังเลใจ ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ควรรอช้าแต่อย่างใด เพราะนอกจากจะช่วยให้รถคู่ใจของทุกท่าน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครแล้ว ยังจะมอบความรู้สึกมั่นใจ และปลอดภัยตลอดการเดินทาง แม้ว่าจะเป็นถนนออฟโรดก็ตาม

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th