HAVAL H6 PHEV เจาะสเปค ก่อนขายไทย 16 ก.ย.นี้
HAVAL H6 PHEV เจาะสเปค ก่อนขายไทย 16 ก.ย.นี้ HAVAL H6 PHEV (Plug-In Hybrid) เผยโฉมครั้งแรกที่ประเทศไทยในงาน Motor Expo 2021 ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา และได้นำกลับมาโชว์ที่งาน Bangkok International Motor Show 2022 อีกครั้ง ล่าสุด Great Wall Motor (GWM) ประเทศไทย พร้อมเปิดตัว HAVAL H6 PHEV ในวันที่ 16 กันยายน 2022 นี้ ก่อนจะทำการเปิดตัวเปิดราคาอย่างเป็นทางการเรามาดูเจาะสเปคคร่าวๆก่อนเปิดตัวกันว่าเจ้าคันนี้จะดีขนาดไหน
HAVAL H6 Plug-in Hybrid คือรถที่พัฒนามาจาก HAVAL H6 Hybrid สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON ออกแบบมาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการขับขี่ ความปลอดภัย มีน้ำหนักที่เบา และผสานรวมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โครงสร้างตัวถัง High-Strength Steel 71.61% และ Hot Formed Steel Reaches 2,000 Mpa สามารถดูดซับแรงกระแทกแบบรอบทิศทางทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายของตัวรถ ลดอาการบาดเจ็บและการสูญเสีย นอกจากนี้ยังมาพร้อมจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายนอก
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid หน้าตาโดยรวมอาจจะคล้ายกับ HAVAL H6 Hybrid แต่ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ดีไซน์หน้ารถที่มีความโดดเด่นยิ่งกว่าด้วยกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ดีไซน์แบบสามมิติ พร้อมกับตกแต่งเล่นลวดลายกราฟิกถูกออกแบบให้รับกับโคมไฟหน้าอย่างลงตัวส่วนบริเวณด้านล่างมีลักษณะเป็นตะแกรงรังผึ้งสีดำและมีชุดอุปกรณ์เรดาร์หน้ารถ
ขณะที่ชายล่างของกันชนหน้าตกแต่งด้วยแถบโครเมียม และเป็นส่วนของพลาสติกกันกระแทกสีดำ เสริมให้ภาพลักษณ์ดูบึกบึนไฟตัดหมอก LED ถูกย้ายตำแหน่งให้ดูสวยงามลงตัวมากขึ้น ระบบไฟหน้าเป็นแบบ Intelligent LED Headlamp ดีไซน์เฉียบคมและทันสมัยพร้อมกับไฟ Daytime Running Light ดีไซน์เส้นสวยคม มีครบทั้งระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
ด้านข้างมาพร้อมคิ้วขอบล้อพลาสติกสีดำเชื่อมต่อกับแถบสเกิร์ตพลาสติกด้านข้างสีดำ เสริมความหรูหราด้วยแถบโครเมียม ติดตั้งราวหลังคาสีเงินมาเป็นมาตรฐาน โดดเด่นด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ครอบคลุมเบาะนั่งตอนหน้าและตอนหลัง ในส่วนของมือจับประตูและกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมกับยางขนาด 225/55 R19
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยแถบไฟท้าย LED Taillight Strip คาดยาวเต็มความกว้าง ให้ความสวยงาม ทันสมัย และมองเห็นเด่นชัดในเวลากลางคืน เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่มีไฟเบรก LED ในตัว ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบฟ้าพร้อม Kick Sensor
ข้อแตกต่างระหว่าง HAVAL H6 PHEV กับ HAVAL H6 Hybrid
คือช่องสำหรับชาร์จไฟบริเวณเหนือซุ้มล้อหลังด้านขวา ซึ่งเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดมีมาให้ส่วนเวอร์ไฮบริดธรรมดาจะไม่มี โดยการชาร์จไฟของ HAVAL H6 PHEV จะรองรับทั้งการชาร์จปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ผ่านหัวชาร์จ Type 2 และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ผ่านหัวชาร์จ CCS Combo
ภายในห้องโดยสาร
ห้องโดยสารของ HAVAL H6 PHEV จุดที่แตกต่างคือสีห้องโดยสารที่มาในโทนดำ-เทา การออกแบบยังคงเน้นความเรียบง่ายและหรูหราในสไตล์มินิมอลใช้วัสดุและงานผลิตคุณภาพสูง แดชบอร์ด แผงประตู คอนโซลกลาง หุ้มด้วยหนังบุนุ่มคุณภาพดี พร้อมกันนี้ยังมีการตกแต่งด้วยไฟเรืองแสง Ambient Light สำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์คุณภาพดี เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีตัวดันหลังปรับไฟฟ้า เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง นอกจากนี้เบาะนั่งคู่หน้าทั้งสองตัวยังมีระบบระบายอากาศให้มาด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะมีเป็นก้านปรับที่บริเวณคอพวงมาลัย มาตรวัดเป็นจอดิจิตอลความละเอียดสูง HD Multi Information Display ขนาด 10 นิ้ว มี Head-up Display ให้ผู้ขับได้รู้ข้อมูลการขับขี่สำคัญได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold มาให้ใช้งานอย่างครบครัน
เบาะนั่งตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวาง เบาะใหญ่ นุ่ม นั่งสบาย การขึ้น-ลงรถง่าย สามารถพับพนักพิงแยกอิสระได้ในอัตราส่วน 60/40 สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บของ ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิ 2 โซนซ้าย-ขวา พร้อมระบบไส้กรองอากาศ CN95 สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 มาพร้อมกับช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังครบครัน Wireless Charger, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นพร้อมที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, กระจกหน้าต่างปรับไฟฟ้า, กุญแจ Smart Key หน้าจอสัมผัสแบบลอยตัว Touch Screen Audio Display ขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน GWM Application บนมือถือ ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android ชุดลำโพง 8 ตัว คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม และมีระบบปรับระดับเสียงดัง-เบาอัตโนมัติตามความเร็วที่รถวิ่ง
ขุมพลังเครื่องยนต์
ไฮไลท์สำคัญของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid คือระบบขับเคลื่อนไฮบริดประสิทธิภาพสูง โดยในระบบจะประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC จ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ขนาดความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ให้กำลังรวมสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้าพร้อมเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนที่ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid สามารถทำได้สูงสุดถึง 201 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย มีโหมดการขับขี่ ตั้งแต่โหมด Eco โหมด Sports อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีเยี่ยม และปล่อยมลพิษต่ำมาก แถมยังมีระบบ Energy Recuperation
ระบบช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง มีความนุ่มนวล ดูดซับแรงสะเทือนได้ดี พร้อมกับให้ความมั่นคง ยึดเกาะดี และมีเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีทั้งทางตรงและการเข้าโค้ง ระบบบังคับเลี้ยวเป็นพวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า EPS มีจุดเด่นที่ความนุ่มนวลและเบาสบาย และยังให้การตอบสนองที่แม่นยำ เฉียบคม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถโดยรวมนั้นง่าย และยังสามารถปรับตั้งค่าน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 ระดับ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรก BA และมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันมาให้ครบ
เทคโนโลยีช่วยขับขี่และระบบความปลอดภัย
เทคโนโลยีช่วยขับขี่คือระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ IAP ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกได้ทั้งการจอดแบบเข้าซอง จอดแบบขนานฟุตบาธ และจอดตามแนวเฉียง ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการจอดในสถานที่ต่างๆ ได้ดี ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามรถคันหน้า Adaptive Cruise Control ,ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ ซึ่งรถจะใช้เซนเซอร์และกล้องรอบคันคอยบันทึกเส้นทางที่ขับผ่านมา และเมื่อกดใช้งานฟีเจอร์นี้รถจะทำการถอยหลังย้อนกลับตามเส้นที่เดิมที่ขับผ่านมาให้เองโดยอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกในพื้นที่แคบๆ ได้เป็นอย่างดี ,ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน,
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง และระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 ซึ่งระบบทั้งหมดคิดค้นและออกแบบมาให้ทำงานสอดประสานกันเพิ่มมอบความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานใส่มาให้อย่างครบครัน
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศาที่มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์แจ้งเตือนระยะด้านหน้าและด้านหลัง และก็ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล, ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก,
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนการปิดประตู, ระบบช่วยเตือนความเมื่อล้าขณะขับขี่, ระบบเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด ในส่วนของถุงลมนิรภัยมีทั้งหมด 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX มาให้ที่บริเวณเบาะหลัง ทั้งนี้ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ไม่มีล้ออะไหล่แต่ให้เป็นชุดปะยางฉุกเฉินมาแทน
และนี่คือข้อมูลคร่าวก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน นี้ พร้อมราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เรามารอลุ้นราคาไปพร้อมกันครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th