Haval Xiaolong Max รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดขนาดกลางขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นใหม่เปิดตัวทำตลาดที่จีน

Great Wall Motor เปิดตัว Haval Xiaolong Max รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดขนาดกลางขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นใหม่ออกมาทำตลาดในจีน ใช้เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่โดยมีสองความจุแบตเตอรี และ 5 เกรดแต่งให้เลือก
Haval Xiaolong Max รุ่นใหม่ลุยตลาดรถเอสยูวีขนาดกลางด้วยตัวรถที่มีความยาว 4,780 มม. กว้าง 1,895 มม. สูง 1,725 มม. ระยะฐานล้อของรถมีความยาว 2,810 มม. ส่วนดีไซน์ของรถมาในภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Natural Rhythmic Aesthetics โดยด้านหน้ารถมีไฟหน้า Matrix ที่ประกอบด้วย 72 ไฟ LED และแถบไฟยาวเต็มความกว้างของรถ ส่วนด้านหลังมีไฟท้ายที่ถูกเรียกว่า Bright Galaxy นอกจากนี้รถยังมากับรูฟเรียลบนหลังคา และอยู่บนล้อดูอัลโทนขนาด 19 นิ้ว ส่วนสึภายนอกของรถมี 5 สีให้เลือก
ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด Hi4 ของรถซึ่งพัฒนาโดย Great Wall Motor เองใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 114 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตัน–เมตรร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเตอร์หน้ามีกำลัง 70 kW หรือ 94 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตัน–เมตร และมอเตอร์หลัง 150 kW หรือ 201 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน–เมตร ให้กำลังรวม 319 แรงม้า แรงบิด 595 นิวตัน–เมตร ใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 2 สปีด สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 180 กม./ชม.
ส่วนแบตเตอรีลิเธียมไอออนฟอสเฟตที่ให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้ามีสองความจุระหว่าง 18.74 kWh หรือ 27.54 kWh ให้ระยะเดินทางได้ 110 กิโลเมตรและ 165 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ 1.58/100 กิโลเมตร และ 0.97 ลิตร/100 กิโลเมตรตามลำดับ โดยรถที่มากับแบตเตอรีความจุน้อยกว่ารองรับการชาร์จไฟแบบเร็วถึง 43 kW ใช้เวลา 0.47 ชั่วโมงเพื่อชาร์จไฟจาก 30-80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรถที่มีแบตเตอรีความจุมากกว่ารองรับการชาร์จ 52 kW ใช้เวลา 0.33 ชั่วโมงเพื่อชาร์จไฟจาก 30-80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การชาร์จไฟแบบช้าใช้เวลา 3 ชั่วโมงและ 4.5 ชั่วโมงตามลำดับ
ห้องโดยสารของรถมีจอแสดงข้อมูลการ Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนจอ Infotainment ตรงกลางมีขนาด 14.6 นิ้ว และมาพร้อมระบบค็อกพิต CoffeeOS 3 ซึ่งมีทั้งการทำงานจดจำเสียงและใบหน้า นอกจากนี้รถเกรดสูงสุดจะมีการแสดงข้อมูล Head-up Display บนกระจกหน้ามาด้วย ส่วนการแต่งห้องโดยสารของรถมี 3 โทนสีให้เลือก
รูปแบบเบาะในห้องโดยสารเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง โดยเบาะหน้ามีฟังก์ชันระบายอากาศ ปรับความอุ่น และนวด 8 จุด ขณะที่เบาะหลังมีการทำงานปรับความอุ่นและปรับเอนเบาะหลังได้ 2 ระดับ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ในห้องโดยสารมีที่ชาร์จไร้สาย 50W ไฟ Ambient Lighting 64 สี พวงมาลัยปรับความอุ่น ไว–ไฟฮอตสปอต และอัปเดต Over-the-air ได้
รถยังมากับระบบช่วยขับ Coffee Pilot Plus ที่ใช้ 3 Millimeter-wave Radar, 12 เรดาร์อัลตราโซนิก และ 7 กล้องสำหรับการทำงานช่วยขับขี่อัตโนมัติทั้งในเมืองและบนทางหลวงในบางเกรดของรถ ส่วนราคารถที่ขายในจีนอยู่ระหว่าง 131,800 ถึง 169,800 หยวน หรือประมาณ 602,000 ถึง 775,000 บาท
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th