งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34″ หรือ Motor Expo 2017 ที่นอกจากจะมีการแสดงศักยภาพของรถยนต์ที่เข้าร่วมกว่า 35 ยี่ห้อแล้ว ก็ยังมีจักรยานยนต์เข้าร่วมงานถึง 20 แบรนด์ จาก 8 ประเทศ ซึ่งแต่ละค่าย จะนำไฮไลท์เด็ดๆ โปรโมชั่นโดนๆ มานำเสนออย่างไรกันบ้าง ไปชมกันเลยครับ…

Kawazaki

ในปีนี้คาวาซากิได้นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มาเปิดตัวภายในงานด้วยกัน ทั้งหมด 7 รุ่น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ขับขี่และความสนุกสนานให้แก่แฟนๆ นักบิดและบรรดานักแข่งทั้งหลาย ทั้งในแง่ของ การเป็นยานพาหนะและการส่งมอบความสนุกสนานเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่ อันได้แก่

Ninja H2 SX [SE] รถสปอร์ตทัวร์เรอร์ ในคอนเซ็ปต์ “Supercharge Your Journey” ด้วยเครื่องยนต์พ่วงซูเปอร์ชาร์จสมรรถนะสูง สู่การพัฒนาให้เป็นรุ่นที่เร็วที่สุดในสายพันธุ์สปอร์ต โดดเด่นด้วยการส่งกำลังที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รองรับทั้งการขับขี่ทางไกล และใช้งานในชีวิตประจำวันได้

Ninja ZX-10R [SE] ซูเปอร์สปอร์ตสายพันธ์แชมป์ ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Ninja ZX-10R เจ้าแห่งการแข่งขันในหลายรายการ ล่าสุดกับ WorldSBK Championship ที่ทางคาวาซากิคว้าแชมป์ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำสมรรถะภาพของรถที่เหนือกว่า ซึ่ง Ninja ZX-10R SE นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิได้พัฒนาขึ้นมากับ ระบบ KECS Kawasaki Electronic Control Suspension ทำงานร่วมกับโช้คอัพ Showa ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยมีให้เลือกปรับเปลี่ยน 3 โหมด ประกอบด้วย Road, Track, และ Manual

Ninja 400 / Ninja 250 สปอร์ตโมเดลใหม่ กับสมรรถนะอันเหนือชั้นด้วยขุมพลังและโครงสร้างใหม่ ให้การควบคุมที่คล่องตัวตามสั่ง กับตำแหน่งท่านั่งแบบสปอร์ต ทำให้นินจารุ่นใหม่นี้กลายเป็นรถที่ครบถ้วนทั้งความความสนุกสนานและขับขี่ง่ายในคันเดียวกัน

Z900RS /Z900RS Café รถสไตล์เรโทร ที่ผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิคเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน โดยใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างร่วมกับ  Kawasaki Z900 ในคอนเซ็ปต์ “True Spirit” รถจักรยานยนต์เรทโทรเน็คเก็ค ขนาด 900 ซีซี 4 สูบเรียง การนำเอาจิตวิญญาณของโมเดลในตำนานอย่าง Z1 รุ่นปี 1972 มาใช้ แต่ได้รับการเติมเต็มอารมณ์แบบคาเฟ่ ด้วยเฉดสีและลวดลายกราฟฟิคอันโดดเด่น สะกดทุกสายตาความงดงามด้วยการออกแบบอย่างปราณีตลงตัว แต่คงไว้ซึ่งพละกำลังมหาศาล สมกับเป็นเรทโทรเน็คเก็คจากคาวาซากิอย่างแท้จริง

W250 อีกหนึ่งรุ่นในตระกูล “W” เป็นจักรยานยนต์สไตล์เรโทร ที่ถูกออกแบบมาสำหรับตลาดเอเชีย เช่นเดียวกันกับรุ่น W800 ด้วยรูปทรงคลาสสิคตามสมัยนิยมขนาดกลางผสานเข้ากับสมรรถนะด้านการขับเคลื่อน และคุณภาพงานประกอบที่แข็งแรงทนทานแบบโมเดิร์น

W 175 / W 175 [SE] เรโทรน้องเล็กจากตระกูล “W” มาพร้อมรูปทรงย้อนยุค ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่อัดแน่นไว้ด้วยเสน่ห์ของความคลาสสิค ใช้เครื่องยนต์สูบเดี่ยวขนาด 177 ลบ.ซม. ประสิทธิภาพสูง ทำให้ W175 มอบประสบการณ์การขับขี่แบบเพลิดเพลินได้อย่างเต็มทีไร้กังวล

……………………………………………………………….

GPX

มาที่ค่าย GPX แบรนด์มอเตอร์ไซค์ของประเทศไทย ที่ยืนหยัดคู่วงการบ้านมาอย่างเต็มภาคภูมิ โดยไฮไลท์สำคัญที่สุดในการเปิดตัวนั้นก็จะอยู่ที่รถมินิสปอร์ตไบค์ ที่มาในกับคลาส 150 cc ซึ่งได้เผยโฉมหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว รวมถึงรถ่นอื่นๆ จากทางค่ายที่ขนกันมาจัดโปรโมชั่นเด็ดๆ อีกมากมาย ในงานนี้

Demon 150 GR Luxuryใช้เครื่องยนต์จาก Demon 150 GN แบบ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบขนาดความจุ 149cc แบบ SOHC ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดนั้นอยู่ที่ 9.0:1 ระบายความร้อนด้วยอากาศ แผงเรือนไมล์ใช้หน้าจอแบบดิจิตอลที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามต้องการถึง 3 สีด้วยกัน ฝาเปิดปิดถังน้ำมันนั้นดีไซน์มาแบบรถบิ๊กไบค์ ระบบกันสะเทือนเป็นแบบหัวกลับ Upside Down เช่นเดียวกันกับที่ใช้ในรุ่น 150 GN ซึ่งน่าจะเป็นของยี่ห้อ Kayaba ส่วนระบบเบรกเป็นดิสก์หน้าเดี่ยว ส่วนยางนั้นน่าจะเป็นแบบขอบ 14 นิ้ว ด้านหน้า 120/70 และด้านหลัง 140/70 ของ Pirelli กับราคาเปิดตัวที่ – 63,800 บาท

Demon 150 GR Sport Edition

โดดเด่นด้วยเฟรมถักเป็นสีแดง พร้อมลวดลายบนตัวรถแบบทูโทนและล้อเป็นแม็กส์สีทอง ราคาเปิดตัวที่ – 64,500 บาท

……………………………………………………………….

Suzuki

บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ร่วมเปิดบูธจัดแสดงรถจักรยานยนต์ ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันที่กลายเป็นจริง” ซึ่งสอดคล้องกับทาง ซูซูกิ ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และก้าวหน้าตลอดมา กับรถจักรยานยนต์ระดับเวิลด์คลาสที่นำมาจัดแสดง พร้อมให้ทุกท่าน   ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด และสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย

ภายในบูธมีรถจักรยานยนต์มากมายหลายรุ่น หลากสไตล์ เติมเต็มได้ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นจ้าวแห่งความเร็ว แรง เร้าใจ Suzuki GSX-R Series มาพร้อมรถจักรยานยนต์สไตล์สตรีทสปอร์ต อย่าง Suzuki GSX-S Series ที่มาแบบเต็มพิกัด อีกทั้งยังมีสายทัวร์ริ่งเท่ๆ อย่าง Suzuki V-Strom Series ที่มาทั้งขนาด 1000 ซีซี และ 650 ซีซี พร้อมด้วยรถสไตล์ ครูสเซอร์ หรูหรา อย่าง Suzuki Boulevard สีใหม่ล่าสุด และ Suzuki SV650 ที่มาพร้อมกับ Suzuki VanVan 200 รวมถึง Suzuki Burgman 200 ที่มาพร้อมกับสีใหม่หรูหรากว่าเดิม และรุ่นอื่นๆ       อีกมากมาย ทั้งนี้ยังรวมไปถึง Accessories Zone ที่รวบรวมอุปกรณ์ในการตกแต่งรถจักรยานยนต์ของท่าน และ Apparel หล่อๆ เท่ๆ ที่มีมาให้เลือกชมเลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้า พร้อมของที่ระลึก ให้เลือกกันอย่างจุใจภายในบูธ Suzuki

……………………………………………………………….

Ducati

ไฮไลท์สุดพิเศษอย่างซูเปอร์สปอร์ตไบค์อย่าง Panigale V4 ตระกูลรถซูเปอร์ไบค์ของดูคาติ ที่ถ่ายทอดเครื่องยนต์มาจากเทคโนโลยีในสนามแข่งขัน MotoGP สู่การพัฒนาออกแบบเครื่องยนต์รูปแบบใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบแบบ V4 ทำมุม 90 ° กับปริมาตรความจุ 1,103 ซีซี มาพร้อมกับระบบ counter-rotating crankshaft เทคโนโลยีจากรถแข่ง MotoGP เท่านั้น ประกอบกับ Desmodromic valves แบบ 4 วาล์วต่อสูบ ด้วยทั้งหมดนี้ จึงรีดพละกำได้สูงถึง 214 แรงม้า เพื่อให้ผู้ใช้งานบนท้องถนนสัมผัสได้ถึงอารมณ์แห่งการขับขี่และสมรรถนะของเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับรถแข่ง MotoGP มากที่สุด โดยมีราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวของ Panigale V4 อยู่ที่ 949,000 บาท และราคาจำหน่ายของ Panigale V4 S อยู่ที่ 1,149,000 บาท

ถัดมาเป็นรุ่น Multistrada 1260 มาพร้อมเครื่องยนต์ Testastretta DVT รุ่นใหม่ขนาด 1,262 ซีซี 158 แรงม้า แชสซีใหม่และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

ปิดท้ายด้วยรุ่น Ducati Scrambler Mach 2.0 เป็นการออกแบบร่วมกันกับ Roland Sands นักออกแบบชาวแคลิฟอร์เนีย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการ Custom รถจักรยานยนต์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมวกกันน็อค Bell Cross Idol ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นหมวกของรุ่น Scrambler ปี 2017 ที่สามารถถ่ายทอดรูปแบบและสีสันโดยให้ความรู้สึกและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของฝั่งตะวันตกในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้อย่างชัดเจน ด้วยแฮนด์บาร์อลูมิเนียมทรงเตี้ยและกว้างในรูปแบบของรถ Flat Track Pro ลวดลายของเบาะนั่งที่แบ่งโซนออกชัดเจนระหว่างผู้ขับขี่และคนซ้อน และปลายท่อไอเสียรวมถึงครีบด้านข้างตัวเครื่องนั้นมาในโทนสีดำเหมือนกับรุ่น Café Racer พร้อมลวดลายบนถังน้ำมันแบบเดียวกับหมวกกันน็อครุ่น Bell Cross Idol โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 419,900 บาท

……………………………………………………………….

Triumph

บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จัดโปรโมชันแรงส่งท้ายปีภายในงาน Motor Expo 2017 เอาใจสาวกรุ่น “สตรีท ทริพเพิล อาร์เอส” รับข้อเสนอฟรีประกันภัยชั้น 1 ดอกเบี้ยพิเศษ ดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 10 % ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน พร้อมฟรี ค่า พรบ. ค่าจดทะเบียน ส่วนตระกูลโมเดิร์นคลาสสิค ได้แก่ รุ่น บอนเนวิลล์ ที 100 บอนเนวิลล์ ที 100 บแลค บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ และสตรีท สแกรมบเลอร์ รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ ดาวน์ต่ำ ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน พร้อมฟรี ค่า พรบ. ค่าจดทะเบียน และ GIFT VOUCHER มูลค่า 5,000 บาท รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลไทเกอร์ 800 ไม่ว่าจะเป็น ไทเกอร์ 800 เอกซ์อาร์ที  ไทเกอร์ 800 เอกซ์อาร์เอกซ์  ไทเกอร์ 800 เอกซ์ซีเอ และไทเกอร์ 800 เอกซ์ซีเอกซ์ รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ ดาวน์ต่ำ ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน ฟรี ค่า พรบ. ค่าจดทะเบียน พร้อมอุปกรณ์เสริมมากมาย ทั้งนี้รถทุกคันจะได้รับพโรแกรมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Triumph Roadside Assistance เป็นระยะเวลา 2 ปีอีกด้วย ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฮไลท์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ บแลค และบอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ พร้อมให้สัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของกันได้ภายในงานนี้เช่นกัน

สุดพิเศษ ! สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ ไทรอัมพ์ทุกรุ่นทุกคันภายในงาน Motor Expo 2017 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 รับฟรีทันที ! ถุงใส่หมวกกันนอค Limited Edition จาก ทไรอัมฟ์ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดรวมถึงพโรโมชันต่างๆ เพิ่มเติมได้ ณ บูธ ทไรอัมฟ์ อาคารชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 Impact เมืองทองธานี หรือโชว์รูม ทไรอัมฟ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด Contact.TH@triumphmotorcycles.com รวมทั้งติดตามข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcycleThailand

……………………………………………………………….

Benelli

ค่ายรถสองล้อสัญชาติยุโรป ได้จัดทัพรถที่เหมาะกับการใช้งานของไบเกอร์ชาวไทย ให้ชมครบหลายรุ่น อาทิ  Benelli Leoncino ใช้พื้นฐานมาเครื่องยนต์จากรุ่น TRK 502 ขนาด 499.6 cc แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด มีกำลังอัดอยู่ที่ 11.5:1 ให้แรงม้า 47 Bhp ที่ 8,500 รอบต่อนาที และทอร์คสูงสุด 45 Nm ที่ 4,500 รอบต่อนาที ขนาดกระบอกสูบเท่ากับ 69.0 mm และช่วงชักเท่ากับ 66.8 mm ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด กับระบบไอเสียผ่านมาตรฐาน Euro 4

นอกจากนี้ ก็ยังมีสปอร์ตทัวร์ริ่ง,เน็คเก็ตไบค์. และแอดเวนเจอร์ไบค์ ตั้งแต่รุ่นใหญ่ขนาด 1130 cc.ไล่เรียงมาจนถึงน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม คือ TNT 25 ขนาด 250 cc. จากแนวโน้มตลาดรถในเมืองไทย ที่เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้รถจากค่ายยุโรปเข้ามามีส่วนร่วม และเป็นตัวเลือกให้ไบเกอร์ชาวไทยได้สัมผัสกับสมรรถนะ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากค่ายรถญี่ปุ่น โดย Benelli ในปัจจุบัน ก็ได้นำเสนอรถรุ่นต่างๆที่หลากหลายยิ่งขึ้น ให้เลือกใช้ตามความต้องการ เราเน้นเรื่องของสมรรถนะ ความทนทาน ความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และยังใส่ใจกับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง เช่น เปิดอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย การขับขี่เชิงท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ การทำกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์มากมายทุกๆ เดือน เรื่องของการจำหน่ายและการบริการ ในปีนี้เราได้ขยายให้ครอบคลุมทั่วไทยมากถึง 15 แห่ง พร้อมดูแลคุณภาพให้ได้มาตรฐานเดียวกัน

……………………………………………………………….

BMW

BMW Motorrad Thailand ร่วมสร้างสีสันให้กับงาน Motor Expo 2017 กับการเผยโฉม BMW R1200 GS Rallye Version เป็นครั้งแรกในไทย

R 1200 GS Rallye Version มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมลุยด้วยกระจกบังลมแบบสปอร์ต ล้อซี่ลวด ยางออฟโรด และกล่องใส่สัมภาระ เสริมลุคสปอร์ตร้อนแรงยิ่งขึ้นด้วยสี Lupine Blue พร้อมแต่งแต้มลวดลายเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ด้านข้างถังน้ำมัน และเฟรมสี Cordoba Blue ที่ตัดกับระบบขับเคลื่อนสีดำทั้งชุด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์สองสูบที่มีระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำ ความจุ 1,170cc ให้พละกำลังสูงสุดที่ 92 กิโลวัตต์ / 125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบท่อไอเสียแบบใหม่ตามเกณฑ์ EU4 pollutant class รองรับการขับขี่แบบออฟโรด ด้วยโหมดในการขับขี่ “Dynamic Pro” และ “Enduro Pro” และยังติดตั้งระบบ Dynamic Electronic Suspension Adjustment (ESA) จึงสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่ พร้อมด้วย Dynamic Traction Control (DTC) ที่มอบความปลอดภัยระดับสูงแม้ขับขี่ด้วยความเร็ว นอกจากนี้ยังมีระบบ Hill Start Control อำนวยความสะดวกเมื่อสตาร์ทรถในบริเวณพื้นที่ลาดชัน ทั้งหมดที่กล่าว มาพร้อมราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 985,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

อีกรุ่นที่น่าสนใจอย่าง BMW G 310 GS ใช้เครื่องยนต์หนึ่งสูบ 313 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ กับฝาสูบแบบทวินแคม 4 วาล์ว และระบบหัวฉีดน้ำมันแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 28 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที

รูปลักษณ์ภายนอก โดดเด่นด้วยบังโคลนหน้าทรงสูง และช่วงท้ายที่สั้นและยกสูง ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และระบบกันสะเทือนหน้าแบบ upside-down fork มาคู่กับระบบช่วงล่างล้อหลังแบบสวิงอาร์มอลูมิเนียมเดี่ยวและสปริงที่ติดตั้งบนสวิงอาร์มโดยตรง คล้ายกับ G310 R เฟรมตัวถังผลิตจากเหล็กกล้า และท้ายรถแบบ bolt-on กับราคาจำหน่ายที่ 219,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

……………………………………………………………….

Vespa

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมสะกดทุกสายตามอบประสบการณ์สุดพิเศษภายในบูธโมโตเพล็กซ์ แบงค็อก ด้วยทัพรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม “(VESPA 946) RED” รวมถึงตระกูลรถมอเตอร์ไซค์สไตล์เรซซิ่ง ซุปเปอร์สปอร์ตตระกูล RSV4 RF/RR และ Tuono V4 1100 Factory และโฉมใหม่ของ Moto Guzzi V7 II Stone คัสตอม คอนเซ็ปต์ 2 สไตล์พิเศษ ที่พร้อมเรียกเสียงฮือฮาจากสาวกคัสตอมไบค์สไตล์อิตาเลี่ยน พร้อมให้แฟนๆ สองล้อผู้หลงใหลการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนได้

เริ่มกันที่ Vespa 946 RED สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมรุ่นพิเศษ จากการผนึกกำลังกันระหว่าง พิอาจิโอ กรุ๊ป กับองค์กร RED ที่ก่อตั้งเพื่อช่วยเหลือองค์กรที่ต้านภัยโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย ซึ่งได้มีการออกแบบใหม่ ด้วยโครงสร้างเหล็กกล้า และอลูมิเนียม กับเฉดสีแดงรอบคัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 150cc 4 จังหวะ 1 สูบ 3 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกแบบจานดิสก์ หน้า-หลัง และระบบ Dual – Channel ABS เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ ASR หรือ Traction Control ป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังโดยนำเข้ามาจำหน่ายในไทยสนนราคาอยู่ที่ 599,000 บาท

ที่เปิดตัวอีกรุ่นเป็น Vespa GTS SUPER 300 ABS Sport Edition สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าเฟรมใหญ่สไตล์สปอร์ต กับเฉดสีพิเศษ เหลืองด้าน (Giallo Gelosia) มาพร้อมชิวด์สั้นสีสโม้ค เครื่องยนต์ Quasar 300cc 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เสริมด้วยระบบ ASR (Anti-Slip Regulation) หรือระบบป้องกันการลื่นไถล และ Tilt Sensor ตรวจจับการเอียงของรถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังมีของแถมเป็นชุดของพรีเมี่ยมออกแบบพิเศษ ได้แก่ หมวกกันน็อค สีเหลืองด้านเข้าคู่กับตัวรถ หมวกแก๊ป ผ้าเช็ดหน้า และกระเป๋าเป้ โดยมีจำหน่ายในไทยเพียง 200 คันเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 205,900 บาท

อีกรุ่นที่น่าสนใจได้แก่ Vespa Primavera 150 i-get Touring Edition สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าไฟกลมรุ่นพิเศษที่มาในเฉดสีเบจเมทัลลิคสุดคลาสสิก (Beige Tufo Di Lecce) มีเข้ามาในไทยแค่ 200 คัน ตัวรถมาพร้อมชิวด์สั้น ตะแกรงหน้า-หลังสีโครเมี่ยมสำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม เสริมสมรรถนะความคล่องตัวด้วยกระเป๋าด้านข้างสีครีม ใช้เครื่องยนต์ i-Get ใหม่ และระบบเบรก ABS เคาะราคาที่ 134,900 บาท

อีกรุ่น คือ Vespa s 125 i-get sport edition มาพร้อมเฉดสีพิเศษ 2 สี ได้แก่ สีเงินด้าน (Argento Opaco) และสีดำด้าน (Nero Opaco) มีจำหน่ายในไทยแค่เพียงสีละ 450 คัน พร้อมของแถมชุดของพรีเมี่ยมออกแบบพิเศษ เคาะราคาเพียง 94,490 บาท

……………………………………………………….

Moto Guzzi

ขณะที่ทาง Moto Guzzi ได้มีการเผยโฉม Moto Guzzi V7 II Stone กับการตกแต่งในแนวคัสตอม 2 คอนเซปต์  2 สไตล์ ที่ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้ง Scrambler (สแครมเบลอร์) และ Tracker (แทรคเกอร์)

………………………………………………………..

Aprillia

RSV4 RF ซุปเปอร์ไบค์แดนอิตาลี ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์แบบวี 4 สูบ อันทรงพลัง ผ่านมาตรฐาน Euro4 ตามข้อกำหนด เรื่องพละกำลัง Aprilia เคลมว่าความแรงยังคงอยู่ในระดับ 201 แรงม้า และมีแรงบิด 115 นิวตันเมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที

ระบบช่วงล่วงใช้โช้คอัพ Ohlins NIX ในด้านหน้า และ Ohlins TTX ในด้านหลัง พร้อมระบบเบรก Brembo M50 และจานเบรกขนาด 330 มม.

Aprilia RSV4 RF ให้คุณควบคุมอย่างมั่นใจ ด้วยระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด อาทิ

Traction Control ป้องกันการลื่นไถล, Wheelie Control ป้องกันล้อหน้ายกลอย, Launch Control ล็อครอบในขณะออกตัว, Quick Shift เปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัตช์, Pit Limiter ล็อกความเร็วขณะเข้าพิท และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็ว ในการเดินทาง

……………………………………………………………….

Yamaha

ที่บูธของ Yamaha ได้มีการเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ น่าสนใจหลายรุ่น โดยเฉพาะรถบิ๊กไบค์ รวมไปถึงโปรโมชั่นต่างๆ แบบจัดเต็มเฉพาะงานนี้…

XSR700ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับ Yamaha MT-07 ด้วยขนาดเครื่องยนต์ 2 สูบ 8 วาล์ว 689 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 80.0 x 68.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1 จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด จุดระเบิดด้วย TCI หรือ Transistor Controlled Ignition ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด ตัดต่อกำลังด้วยชุดคลัตซ์แบบเปียกซ้อนกันหลายชั้น ราคาเปิดตัวที่ – 339,000 บาท

SCR950

มาพร้อมกับขุมกำลังแบบ V-twin SOHC 8 วาล์วแบบ single pin crankshaft ขนาด 942 ซีซี ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก 85 X 83 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 9.0 : 1 ระบายความร้อนด้วยอากาศ กระบอกสูบผลิตจากอะลูมิเนียมผสมเซรามิค “Liner-less”  ลูกสูบอลูมิเนียมฟอร์จขึ้นรูป มีน้ำหนักเบา โดยเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับตระกูล Bolt ที่ให้แรงบิดสูงสุดที่รอบต่ำเพียง 3000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหัวฉีดคู่อิเล็กทรอนิกส์  มีขนาดเรือนลิ้นเร่ง 35 มม. มีเซ็นเซอร์จับอุณหภูมิ TPS เพื่อให้กล่อง ECU สามารถคำนวณอัตราส่วนผสมไอดี ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 5 สปีด กับระบบคลัทซ์แบบเปียก ราคาเปิดตัวที่ – 439,000 บาท

นอกจากนี้ ก็ยังมีมอเตอร์ไซค์ในแบบต่างๆ ให้ได้เลือกหลากหลาย อาทิ YZF-R3 Movista Edition, YZF-R15 Movista Edition, M-Slaz 2018,  Aerox 2018 และ ฟินน์ รถครอบครัวน้องใหม่ ที่มาพร้อมโปรโมชั่น และเงื่อนไขสุดพิเศษอีกมากมาย

……………………………………………………………….

Royal Enfield

มอเตอร์ไซค์เชื้อสายยุโรปอย่าง Royal Enfield ที่กำลังขยายฐานแฟนคลับในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ กับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง

Royal Enfield Classic 500

โมเดลยอดนิยมของค่าย Royal Enfield ที่อัพเกรดในเรื่องของชุดสีใหม่ 2 สี โดยยังคงพื้นฐานเครื่องยนต์ขนาด 499 ซีซี 1 ลูกสูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ  ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 27.2 BHP ที่ 5250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 41.3 นิวตันเมตรที่ 4000 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยระบบเบรกหน้าและหลังที่้ป็นดิสก์เบรกขนาด 280 มิลลิเมตร พร้อมปั้มเบรก 2 ลูกสูบ

นอกจากนี้ ก็ยังมีไฮไลท์เปิดตัวสีใหม่จากรุ่นยอดนิยมอย่าง Royal Enfield Classic Stealth Black ราคาเปิดตัว 196,800 บาท , Royal Enfield Classic Gunmetal Grey ราคาเปิดตัว 196,800 บาท และรุ่นล่าสุด ที่จะหยุดทุกการรอคอยสำหรับมอเตอร์ไซค์สายลุยอย่างรุ่น Himalayan กับราคาเปิดตัว 169,000 บาท

ไม่เพียงแค่การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงานนี้เท่านั้น ทางค่าย Royal Enfield ยังมีโปรโมชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเริ่มต้นดาวน์ 0% และฟรีจดทะเบียน ทั้งเงินสดและเงินผ่อน รวมไปถึง Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท ในการเลือกซื้อสินค้าและอุปกรณ์ตกแต่งจาก Royal Enfied อีกด้วย

……………………………………………………………….

Zongchen Ryuka

ที่บูธของ Zongshen Ryuka มากับขบวนสองล้อรุ่นใหม่ นำมาจัดแสดงให้ชมกันมากมาย อาทิเช่น

CUB Classic มอเตอร์ไซค์คลาสสิค รูปทรงย้อนยุค ที่แฝงความทันสมัยในตัวเอง ด้วยโช้คหน้าแบบหัวกลับอัพไซด์ดาวน์ ที่ออกแบบให้เข้ากับตัวรถได้อย่างกลมกลืน ไฟหน้า มาพร้อม Daylight ไฟเลี้ยว ไฟเบรกเป็นแบบ LED ทั้งหมด มาพร้อมช่องชาร์จไฟ USB สำหรับโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย

Infinity 250 มาพร้อมการอัพเกรดเครื่องยนต์จากรุ่นเดิมขนาด 125 ซีซี มาเป็นเครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี ซึ่งคงทำให้ขี่สนุกขึ้นแน่นอน กับราคาจำหน่ายเพียง 59,900 บาท

Breakout S ที่มีการปรับขนาดล้อ มาใช้ขอบ 14 นิ้ว จากเดิมที่เป็นล้อขอบ 12 นิ้ว แว่วมาว่า ตัวจริงที่จะจำหน่ายในปีหน้า จะเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 200-250 ซีซี

……………………………………………………………….

Lifan

KPT 200 ทัวร์ริ่งไบค์ ที่ใช้เครื่องยนต์ 200 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดรุ่นแรกของทาง Lifan ที่หน้าตานั้นก็ดูหล่อเหลาไม่เบา ไฟหน้าแบบ LED ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ ด้านหลังโมโนโช้ค ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง ซึ่งราคานั้นอยู่ที่ 69,900 บาทเท่านั้น พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ KPT 200 100 คันแรก รับทันที กระเป๋าข้างติดรถ

Custom II มากับรูปทรงช้อปเปอร์ พร้อมเครื่องยนต์ 250 ซีซี แบบ 2 สูบวี ในราคาย่อมเยาว์เพียง 89,900 บาท

Hunter 125 มินิไบค์ รูปทรงยอดนิยม ที่มาพร้อมการตกแต่งที่หลากหลาย ในสไตล์ต่างๆ

Vintage สองล้อทรงคลาสสิคอีกหนึ่งรุ่น ในราคาจำหน่ายที่ย่อมเยาเพียง 29,900 บาท

……………………………………………………………….

Moto Parilla

ซีโน พานาลารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า จำกัด เจ้าของแบรนด์สกูเตอร์พรีเมียมคลาสสิค สัญชาติอิตาลี Moto Parila เปิดตัวแบรนด์ Moto Parila อย่างเป็นทางการ ร่วมกับ รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในงาน Motor Expo 2017

รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากแรงบันดาลใจที่ตนเป็นคนที่ชื่นชอบขับรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว จึงได้ตัดสินใจลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้น โดยได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท โมโต พาริลล่า จำกัด บริษัทแม่ เจ้าของแบรนด์สกูเตอร์พรีเมียมคลาสสิค สัญชาติอิตาลี Moto Parila ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างสำนักงานใหญ่ และโชว์รูม เพื่อจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์ดังกล่าว โดยตั้งเป้าเข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ให้สามารถเป็นเจ้าของสกูเตอร์พรีเมียมคลาสสิค Moto Parila ในราคาที่่สัมผัสได้ โดยเปิดให้จองอย่างเป็นทางการในงาน  Motor Expo 2017 จำนวน 2 รุ่น ในขนาด 150 ซีซี ได้แก่ รุ่นโมโนโทน และรุ่นทูโทน แนะนำราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท ราคานี้เฉพาะในงาน Motor Expo 2017 เท่านั้น

……………………………………………………………….

Harley-Davidson

ฮาร์เลย์-เดวิดสัน บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำสัญชาติอเมริกันเดินหน้ารุกตลาดประเทศไทยในสัปดาห์นี้ด้วยการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ รุ่นตกแต่งพิเศษประจำปี 2018 ได้แก่ 2018 CVO™ และตระกูล Softail™ รุ่นใหม่ล่าสุด

ไฮไลท์เด่นในงาน เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ของ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน รุ่นปี 2018 รวม 8 รุ่นด้วยกัน อันได้แก่ Street Bob™ Fat Bob™ Breakout™ Deluxe™ Softail Slim™ Low Rider™ Fat Boy™ และ Heritage Classic™ ที่ได้รวมสมรรถนะการขับขี่อย่างสมบุกสมบันของตระกูล Dyna™ เข้าไว้กับรูปลักษณ์พิเศษที่โดดเด่นของตระกูล Softail พร้อมกับเฟรมที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อรองรับพละกำลังมหาศาลของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 107 และ Milwaukee-Eight™ 114 ซึ่งเป็นอ๊อพชั่นสำหรับบางรุ่น โดยถือเป็นการผสมผสานจิตวิญญาณแบบคัสตอม และตำนานในแบบฉบับดั้งเดิม เข้ากับความล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่างแท้จริง

และรุ่นพิเศษ CVO Custom Vehicle Operations™

นอกจากนี้ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ยังคงมอบสไตล์ที่โดดเด่น นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และสมรรถนะที่เป็นเลิศ ให้แก่ลูกค้าต่อไปด้วยการนำเสนอ Street Glide™ CVO Road Glide™ และ CVO™ Limited รุ่นพิเศษ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ตกแต่งสร้างเอกลักษณ์ให้แก่รถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตในจำนวนจำกัดได้เองจากโรงงาน มาพร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบไม่จำกัดระยะทางขับขี่ เริ่มต้นด้วยรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์มาตรฐานจากโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน เคยผลิตมา และมีเฉพาะตระกูล CVO™ เท่านั้น รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นได้ยกระดับขุมพลัง Screamin’ Eagle™ ด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ ความจุ 1,923 ซีซี มีแรงบิดสูงสุด 166 นิวตัน-เมตร โดยรุ่นพิเศษ CVO™ ในปีนี้มาพร้อมสีตัวถังที่โดดเด่นที่สุดที่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน เคยออกแบบและผลิตมา นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นยังมีเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวล้ำหน้าอย่างอุปกรณ์หูฟังไร้สาย ผู้ขับขี่สามารถใช้หูฟังบลูทูธเพื่อสื่อสารกับระบบอินโฟเทนเมนท์ของตัวรถ ผู้โดยสาร และผู้ขับขี่คันอื่นได้ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,876,000 บาท

นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมบูธ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ในงานนี้ ยังจะได้เลือกซื้อเสื้อยืดแนวคัสตอม จากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ และสำหรับผู้ที่ซื้อ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ภายในงานจะได้รับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี พร้อมการรับประกันจากโรงงาน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิ์การเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ขับขี่ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน (HOG) 1 ปี พร้อมการช่วยเหลือฉุกเฉินและชุด Care Kit มูลค่า 7,500 บาท พร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ร้อยละ 2.79

……………………………………………………………….

Honda

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ ผู้นำตลาดจักรยานยนต์ไทย ยกทัพเปิดตัวรถรุ่นใหม่ อาทิ Honda 500 Series, 650 Series และ Rebel 500 พร้อมโชว์เทคโนโลยี DCT ระบบควบคุมคลัตช์อัตโนมัติ และระบบเปลี่ยนเกียร์ เอกสิทธิ์เฉพาะของฮอนด้าที่มีอยู่ในรถรุ่น Africa Twin, NC750X, NM4, CTX700 และ GOLDWING มาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ อีกมากมายภายในงานนี้

เริ่มที่บิ๊กไบค์ในตระกูล 500 Series ที่สุดแห่งความคุ้มค่าของรถบิ๊กไบค์ระดับ New Entry ที่มาพร้อมกับสีและลวดลายใหม่ อย่างรุ่น CBR500R, CB500F, CB500X

นอกจากนี้ ยังมีบิ๊กเซอร์ไพรส์กับการ เปิดจอง Honda 650 Series สีใหม่ลายใหม่เป็นที่แรกของโลก ประกอบด้วยรุ่น CBR650F และ CB650F พร้อมเอาใจไบค์เกอร์สาย Custom Bobber กับ Honda Rebel 500 สีใหม่ และ Rebel Special Edition Midnight Blue สีน้ำเงินเข้มใหม่ มีจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 200 คันในโลกเท่านั้น

สำหรับโปรโมชั่นพิเศษ ที่จัดมาให้แบบร้อนแรงเกินห้ามใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวน์เริ่มต้นที่ 10,500บาท และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับรถที่ผลิตในประเทศ (Domestic) เริ่มต้นที่ 3.75% ผ่อนเริ่มต้นที่ 2,900 บาท และรถนำเข้า Import อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 3.29% ให้สามารถเป็นเจ้าของรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ 14 รุ่นยอดนิยมได้ง่ายแค่เอื้อม พร้อมแถมฟรีกล้อง GoPro HERO4 รุ่น Silver มูลค่า 11,999 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 ทะเบียน พ.ร.บ. และข้อเสนอพิเศษอื่นๆอีกมากมาย รวมมูลค่าสูงสุด 255,000 บาท

ข้อเสนอสุดพิเศษจากฮอนด้า นอกจากจะมีในงาน Motor Expo แล้ว จะยังมีต่อยาวไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่ ฮอนด้าบิ๊กวิง ทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.hondabigbike.com หรือทางแฟนเพจ www.facebook.com/hondabigbikeTH

……………………………………………………………….

เรื่อง : สมโภชน์ นันทโรจน์

ภาพ : ดนัย จำปาวัลย์

ขอบคุณข้อมูล www.motorcycmagazine.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th