หลังจากปล่อยฮอนด้า City สู่ตลาดมาพักใหญ่ ทั้งรูปทรง Hatchback และ Sedan ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 เทอร์โบ แทนที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเดิม และ ในตัวถัง 4 ประตู Sedan มีการเพิ่มเติมขุมพลังใหม่ e:HEV หรือ Hybrid i-MMD เข้ามา ล่าสุด ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเศไทย พร้อมเปิดตัว Honda City Hatchback e:HEV (Hybrid i-MMD) ในประเทศไทยวันที่ 24 มิถุนายน นี้

ภายนอก

Honda City Hatchback e:HEV มาพร้อม  กระจังหน้าสีดำ Gloss Black, กันชนหน้าและกระจังหน้าแบบสปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ RS, ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอก LED, กระจกมองข้างสีดำพร้อมระบบปรับ-พับด้วยไฟฟ้า, สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ภายใน

Honda City Hatchback e:HEV ห้องโดยสารถูกติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังกลับตกแต่งด้วยแถบสีแดง, พนักเท้าแขนด้านหน้าพร้อมที่วางแก้ว, จอแสดงข้อมูลการขับขี่พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง, ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT และสามารถเลือกตกแต่งด้วยตัวถังสีแดง Ignite Red ได้

ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร e:HEV

เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร  พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด E20 แบตเตอรี่ Lithium-ion ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,500 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ปล่อย CO2 ที่ 85g./km. อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 9.4 วินาที

มิติตัวถัง Honda City Hatchback e:HEV

ยาว : 4,349 มิลลิเมตร กว้าง : 1,748 มิลลิเมตร สูง : 1,488 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,589 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance : 135 มิลลิเมตร

ระบบความปลอดภัย

• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
• ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ Auto Door Lock by Speed
• ระบบล็อครถอัตโนมัติ Walk Away Auto Lock
• ระบบ Honda SENSING
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
• ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS
• ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
• ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
• ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
• กล้องแสดงภาพมุมอับสายตา Honda LaneWatch
• กล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ

นี้เป็นรายละเอียดคร่าวก่อนเปิดตัว และราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กรกฎาคม นี้ รอติดตามรายละเอียดและราคาอย่างเป็นทางการได้ที่ www.grandprix.co.th

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th