HONDA ACCORD HYBRID TECH ชูจุดเด่น Honda Sensing เหนือชั้นกว่าด้านความปลอดภัย
ว่ากันว่าคนที่ตัดสินใจซื้อรถไฮบริด คือคนที่ชอบเรื่องนวัตกรรม ชอบเทคโนโลยี คนกลุ่มนี้มีแนวทางที่ชัดเจน และเซนซิทีฟกับความทันสมัย ชอบที่จะเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ได้ครอบครอง ไม่เว้นแม้แต่สินค้าอย่างรถยนต์ที่เทคโนโลยีล่าสุดมักจะอยู่รถรุ่น “เรือธง” และจับต้องยาก แต่ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นไม่น่าไกลเกินฝัน ซื้อรถเพราะภาพลักษณ์ ซื้อเพราะความชอบ และซื้อเพราะมีนวัตกรรมความปลอดภัยสุดโต่ง หลายคนเข้ามาถามระหว่าง Honda Accord VTEC TURBO กับรุ่น Hybrid TECH จะเล่นรุ่นไหนไม่ติดเรื่องงบประมาณ เพียงแต่ได้ฟังว่ามีรุ่นเทอร์โบทำเอาหูพึงมากกว่า มันน่าจะเร้าใจ หรือดูทรงพลัง ซึ่งเรื่องนี้เราเขียนถึงไปแล้ว… ส่วนใหญ่ บอกเหมือนกันหมดทุกรายมีเงินแนะนำรุ่นท๊อป เพราะบวกลบราคาดูเป็นรายการๆ ของแล้ว อุปกรณ์น่าจะได้มากกว่าเงินที่เสียไป แล้วทำไมเชียร์ของแพง มันย่อมมีเหตุผลที่มาที่ไป มาดูรายละเอียดกัน
- ฮอนด้าแบ่งรุ่นจำหน่าย All New Honda Accord เจเนอเรชั่นที่ 10 ในประเทศไทยไว้ 3 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่น TURBO EL ราคา 1,475,000 บาท (ทดสอบไปแล้ว) รุ่น HYBRID ราคา 1,639,000 บาท และรุ่น HYBRID TECH ราคา 1,799,000 บาท (เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ใช้ E85 ได้ กับ เบนซิน 2.0 ลิตร ไฮบริดจ์ ใช้ได้ถึง E20)
All New Honda Accord บางครั้งก็นึกเล่นๆ ว่าถ้ามีเงินซื้อ และกัดฟันไหวคงเอาตัวท๊อปเท่านั้น ลองคิดตามดูสิเล่นตัวเทอร์โบราคาต่างกัน 3-4 แสน แต่ไม่ได้อะไรมาเลยทั้งที่เป็นรถรุ่นใหม่![expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]
แม้ฮอนด้าจะบอกว่าต้นทุนทำรถแพงเลยใส่ออปชั่นได้น้อย ส่วนตัวคิดกลับคิดว่าผู้ผลิตน่าจะเอากำไรเยอะไปในรุ่นเทอร์โบ จึงเป็นที่มาบอกผ่านไปเล่นไฮบริดจ์เถอะคุ้มกว่าเยอะ ซึ่งก็เป็นไปตามที่คิดเพราะสัดส่วนการขายเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเจเนอเนชั่น 9 Honda Accord Hybrid มีตัวเลขสูงขึ้น จากเดิม 30% เป็น 50% ของยอดขาย
- ในเจเนอเรชั่นที่ 10 ฮอนด้านำเอาแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า IPU ย้ายจากห้องสัมภาระด้านท้ายมาไว้ใต้เบาะหลัง ส่งผลให้มีที่เก็บสัมภาระมากถึง 573 ลิตร ไม่แตกต่างจากรุ่น VTEC TURBO
- ทีมวิศวกรผู้พัฒนา Honda Accord ใหม่
ไหนๆ ก็มีวิศวกรญี่ปุ่นมาบรรยายให้ฟังกัน พูดเรื่องดีไซน์สักหน่อย หลายคนบอกว่ารุ่นนี้ยังออกแบบไม่สุดเท่าที่ควร มันน่าจะมีความเปลี่ยนแปลงระดับที่สร้างความประทับใจแปล่งแสงออร่า แต่อย่างว่ารสนิยมความชอบ ความสวยงาม ไม่เข้าใครออกใคร มองสิบคนก็บอกคนละแบบ แต่รถรุ่นนี้คือสิ่งที่ฮอนด้ายืนยันว่าใหม่หมดแล้ว และมันเป็นสินค้าระดับ Global ขายทั่วโลก ดังนั้นการเก็บข้อมูลต้องเฉลี่ยกันไป เน้นโดยเฉพาะในตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างอเมริกา ซึ่งมีออปชั่นบางอย่างแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิประเทศที่ขาย ส่วนตัวมองว่ามันดูปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวขึ้น มีความสวยงามลงตัวของเส้นสาย ฮอนด้าตั้งใจให้ดีไซน์รุ่นนี้เป็นที่ยอมรับของคนรุ่นใหม่ เส้นสายที่ใช้มองไปถึงอนาคต ส่วนจุดที่รู้สึกว่าจะขาดไปคือ “มันจดจำยาก” แม้จะยืนดูอยู่พักใหญ่” หาซิกเนเจอร์ไม่เจอโดยเฉพาะดีไซน์ด้านหลังคงต้องใช้เวลาให้มี “ภาพจำ” มากขึ้น ผิดกับ Honda Civic รุ่นล่าสุดที่เห็นไกลแค่ไหนก็จำได้ โดยเฉพาะด้านท้ายที่ถูกใจมหาชน และถ้าเป็นไปตามชุดประสบการณ์ รถฮอนด้าที่จะตามออกมาในรุ่นอื่นๆ จะมีดีไซน์เป็นไปในทิศทางนี้
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่ม รับ-วางสายโทรศัพท์ รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri (รุ่น TURBO EL) พร้อมปุ่มควบคุมระบบการทำงานที่อยู่ใน Honda SENSING ได้แก่ ACC with LSF และ LKAS (รุ่น HYBRID) หรือพร้อมปุ่มควบคุมระบบการทำงานที่อยู่ใน Honda SENSING ได้แก่ ACC with LSF, LKAS และ HUD (รุ่น HYBRID TECH)
- Head Up Display ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า
ส่วนภายในถือว่าเปลี่ยนได้อรรถรสมาก โดยเฉพาะเจ้าเบาะหนังสีน้ำตาล ในรุ่น Hybrid TECH เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด เมื่อก่อนแทบไม่กล้าเล่นอะไรแบบนี้ ทีมงานออกแบบแจ้งว่าอยากให้มีความรู้สึกเหมือนรถสปอร์ตฝั่งยุโรปบ้าง แล้วทำไมไมทำวัสดุหุ้มหลังคาดำมาให้ด้วยละเธอ รถก็ใหญ่อยู่แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่โปร่ง ยิ่งมีซันรูฟมาให้ซะอย่าง ซึ่งสีภายในทั้งหมดของ All New Honda Accord จะมีให้ 3 สี ขึ้นอยู่กับสีภายนอก และรุ่นรถ ซึ่งพื้นฐานของโครงสร้างทำมาให้ใหญ่โตอยู่แล้ว เมื่อขยายฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 55 มม. ส่งผลต่อห้องโดยสาร กว้างขึ้นตามไป มารู้จักโครงสร้างตัวถังแบบใหม่สักนิด มันช่วยลดน้ำหนักรวมลงได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังให้ความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังทดต่อการบิดตัวมากขึ้นอีกเรื่องที่ฮอนด้าให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตั้งใจออกแบบเสา A ปรับให้เยื้องหลัง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยน์ให้ผู้ขับขี่ “โปร่งโล่งสบายตา” เป็นอีกจุดที่น่าสนใจเรื่องงานดีไซน์เพราะเราจะได้มุมมองเหมือนทีวีจอโค้งแบบพาโนราม่ามากขึ้น ด้านเบาะนั่งมาตามคอนเซ็ปเทรนด์โลกคือทำให้อยู่จุดต่ำที่สุด เพื่อการควบคุมที่ดี ตำแหน่งสะโพก และช่วงขาจะรู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) (รุ่น HYBRID และ รุ่น HYBRID TECH)
ด้านการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ เน้นใช้คอนเซ๊ป “คอนเสิร์ตฮอล” เปรียบเสมือนผู้ขับขี่เป็นคอนดักเตอร์ คนนั่งเป็นผู้ชม ไม่รู้สึกอึดอัด และผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้ว การจัดวางใช้งานง่าย ที่ชอบที่จุดคงเป็นหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เต็มตาคมชัดดีมาก ไม่สะท้อนแสง รองรับ Apple Car Play ได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่เอาไว้ฟังเพลงผ่าน App JOOX ,SPOTIFY เวลาเดินทาง เป็นไปได้อยากได้ลำโพงแบรนด์ไฮเอนจะดูพรีเมี่ยมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี Wireless Charger สำหรับมือถือรุ่นที่รองรับไม่ต้องเสียบสายชาร์จ ส่วนช่องเชื่อมต่อต่างๆ ไม่ขอบรรยายฮอนด้าให้เยอะมาตลอด จุดสุดท้ายที่ประทับใจคือเบาะหลังปรับพับได้มีประโยชน์เวลาใส่ของชิ้นใหญ่ๆ เช่น โซฟา ที่ IKEA ไม่ต้องถึงกับรถกระบะก็ได้ ใช้งานให้มันคุ้มค่าไปเลย ส่วนที่กังวลมีบ้างกับเรื่องของวัสดุความคงทนระยะยาว เรามักจะพูดเสมอในรถรุ่นใหม่ทุกแบรนด์เพราะผลิตโดยใช้วัสดุที่กำจัดง่ายหรือรียูสในบางส่วนเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ผลิตรถเพื่อใช้กันได้ถึงชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งฮอนด้าต้องคิดเพื่อด้วยเพราะคนไทยบางกลุ่มไม่คิดเปลี่ยนรถ หลายอย่างจากเพื่อสิ่งแวดล้อมกลายมาเป็นวัสดุสิ้นเปลืองแทน
เทคโนโยลีความปลอดภัย Honda Sensing
เข้าเรื่องกันดีกว่าที่จั๋วหัวไว้เรื่องของระบบความปลอดภัยปกป้องรอบด้าน Honda Sensing เพราะมันจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือก Honda Accord Hybrid Tech อย่างที่รู้กันระบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายอย่างมีใช้มานานและพิสูจน์ให้เห็นถึงสถิติการลดอุบัติเหตุที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นหมดความกังวลกับการใช้งานไปเลย อยากให้ดูตรงนี้ให้ดีหลายคนซื้อรถเพราะชอบดีไซน์ หรือออปชั่นอำนวยความสะดวก และมักมองข้ามเรื่องความปลอดภัย ทั้งที่ควรจะเป็นตัวแปรสำคัญในการซื้อรถของคนไทย ที่มีสถิติการอุบัติเหตุสูงด้วยสภาพการจราจรที่ย่ำแย่ และการขาดวินัยการขับขี่ ระบบนี้มีทำงานผ่านกล้อง และเรดาห์ ช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวาง
- ระบบช่วยเตือนการชน ทั้งจากรถยนต์ คนเดินถนน เมื่ออยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย ย่ำแย่สุดช่วยเบรกให้อัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้า (สะดวกสบายขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น)
- ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (บางคนไม่ชอบ กดปิดได้ กันคนแอบหลับ หรือเผลอจนรถออกนอกเลน แต่ถนนต้องมีเส้นชัดเจน )
- ระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ (เมื่ออยู่ในที่มืดมาก และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถสวนเลนมา)
เรียกว่าป้องกันการชนด้านหน้าได้ใกล้เคียงรถอัตโนมัติแล้ว อยู่ประมาณ Level2 จาก 4 (การขับขี่ยังอยู่ในความรับผิดชอบของคนขับ) แต่ยังไม่หมด ยังได้ระบบความปลอดภัยล้ำสมัยที่ใส่มาให้ครบรอบคัน ทั้งระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ไม่ค่อยได้มองภาพไม่ชัดเท่าไร) แสดงผลผ่านหน้าจอ 8 นิ้ว มีกล้องแสดงภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ผ่านหน้าจอ TFT ร้ายแรงสุดส่งเสียง และทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ติดตั้งระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย และที่ชอบมากระบบช่วยจอด พร้อมระบบช่วยเบรก เพียงทำตามคำสั่งง่ายๆ บนหน้าจอ โดยการเดินหน้าถอยหลังตามคำแนะนำ กดคัดเร่งและเบรกตามสั่ง รถจะจัดการพวงมาลัยถอยเข้าจอด ทั้งแนวขนาน และเข้าซองให้เลย ซึ่งในการทดสอบระบบนี้มีเสเตชั่นถอยเข้าซองให้ชนกำแพงรถเบรกหยุดให้อัตโนมัติด้วย ลองเล่นสักทีสองทีก็เข้าใจได้ง่ายๆ แล้ว
- นอกจากนี้ยังมี เบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake ,Brake Hold อัตโนมัติ ,ถุงลม 6 ตำแหน่ง ,ABS EBD VSA HAS ESS
วิธีการใช้ระบบช่วยจอด Honda Smart Parking Assist System
มีโอกาสได้ลองระบบช่วยจอด ทำได้ 2 วิธี ขณะที่เราอยู่ในลาดจอดรถ เมื่อเห็นข้างหน้ามีช่องว่างจอดได้ 1 กดปุ่มใช้งานกล้องมองภาพรอบทิศทางที่ก้านปัดน้ำฝนด้านซ้าย หรือ 2 กดเลือกได้จาดเมนูของหน้าจอเครื่องเสียง จากนั้นเข้าเกียร์ “D” และกดปุ่มรูปพวงมาลัยที่มีตัว P เพื่อเข้าสู่ระบบช่วยจอด ซึ่งจะมีเมนูย่อยขึ้นมาให้เลือกว่าจะจอดแบบไหน “ถอยหลัง” หรือ “ขนาน” ระบบจะแสดงกรอบสีเขียวเพื่อกำหนดพื้นที่จอดด้านซ้ายและขวา จากนั้นเลือกช่องจอดกดบนหน้าจอ และทำตามคำสั่ง เดินหน้า/ถอยหลัง หรือ “เหยียบเบรกเท่านั้น” ในขณะเดียวกันระบบจะควบคุมพวงมาลัยให้อัตโนมัติ และเมื่อพบสิ่งกีดชวางระบบจะเบรกอัตโนมัติให้ด้วย ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหมาะกับมือใหม่หัดขับ แต่ก็ต้องช่วยรถดูด้วยเพื่อไว้ก่อนสบายใจกว่า และถ้าใครที่ขับเก่งอยู่แล้วบอกเลยว่าจอดเองเร็วกว่าเห็นๆ ใครไปดูที่โชว์รูมลองให้พนักงานเล่นให้ดูว่ามันเจ๋งแค่ไหน
*ระบบช่วยจอดจะยกเลิกถ้าความเร็วเกิน 10km/hr ในเกียร์ D และเกิน 7km/hr ในเกียร์ R และหากรถเคลื่อนที่ตรงกันข้ามกับที่แนะนำระบบจะตัดการทำงานอัตโนมัติ
มาดูเรื่องสมรรถนะกันบ้าง
Honda Accord Hybrid ใช้ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ เรื่องนี้ยังมีรายละเอียดลึกพอควรกับระบบ Hybrid ของ Honda เอาเป็นว่า รู้ไว้เป็นความรู้ ใครถามบอกได้ว่ารถรุ่นนี้มันไม่มีเกียร์นะครับ ระบบ Transmission ถูกตัดทิ้งไป แล้วฮอนด้าใช้คำว่า E-CVT เป็นตัวอธิบายง่ายๆ ของระบบส่งกำลัง แต่ลึกๆ แล้ว เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟยังไงยังงั้น ส่วนแรงที่ส่งลงไปเพลาขับมาจากมอเตอร์ ที่ผ่าน Gen มาอีกที
แล้วรถมีคันเกียร์ไว้ทำไม? เพราะในตัวอเมริกาเองมีแค่ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ นั่นเพราะว่าบ้านเรายังต้องจอดรถขวาง จอดซ้อน ต้องปลดเกียร์ “ว่าง” ถึงบางอ้อ ส่วนทำไมไม่ทำแบบ CR-V ละเป็นปุ่มกด และมีคันโยกซ่อนอยู่ในคอนโซลเวลาปลดเกียร์ว่าง วิศวกรแจ้งว่าเรารับทราบว่าแบบนั้นไม่เหมาะกับคุณผู้หญิงเพราะมันต้องออกแรง ดังนั้นคันเกียร์จึงมีหน้าที่เอาไว้เปลี่ยนโหมด “ใช้คำนี้” จบนะเรื่องนี้ มาต่อกันที่โหมดการขับขี่ 3 แบบ น่าจะคุ้นชินกันอยู่แล้วมือเก่า มือใหม่มาดูกัน
โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ได้อย่างต่อเนื่องและทำความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็วที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่
โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร ถามว่าประหยัดขึ้นไหม “ใช่ ประหยัดขึ้นเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับตัวก่อนหน้า ที่โรงงานเคลมไว้ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งผมได้ถามวิศวกรว่าสรุปเจนฯ ใหม่มันมีอะไรแตกต่างบ้างในเรื่องนี้ ทางฮอนด้าแจ้งว่าเราเน้นเฟอร์ฟอร์แมนซ์มากขึ้น ยกระดับการทำงานของระบบขับเคลื่อนให้สูงขึ้น แต่ยังคงความประหยัดที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ฟิวลิ่งสมูทกว่าตัว Gen 9 อีกด้วย
ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต(Sport Drive Mode) ตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างเร้าใจยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ โดยสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบ อีกทั้ง ECON Mode ระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน นอกจากนั้น ระบบจะปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นจึงบอกได้ว่า “คาแรคเตอร์” ของ All New Honda Accord รุ่น Hybrid Tech ให้อารมสุขุมนุ่มลึก มากกว่าเดิม ทั้งที่เมื่อก่อนจำได้ว่าทิศทางของค่ายนี้ชอบทำรถขับสนุกมากกว่า ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น การเก็บเสียงอันยอดเยี่ยมทั้งจากระบบส่งเสียงความถี่ตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร และนวัตกรรมใหม่ที่ถูกมาใช้ติดอุปกรณ์เก็บซับเสียงรอบล้อแม็กเพื่อให้ลดเสียงความถี่ต่ำจากล้อและยาง ช่วงที่ขับบอกเลยว่าเงียบมาก ระดับที่ส่งผลเสียต่อความรู้สึก ทำไมไม่มีเสียงเครื่องยนต์มาเร้าอารมณ์ หรือเสียงอะไรก็ได้ที่ให้ความรู้สึกว่ารถวิ่งอยู่ กลับเป็นอย่างนั้นไป มิน่าถึงต้องใช้เสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์มาช่วยเพิ่มอรรถรส ส่วนอัตราเร่งในโหมดปรกติใช้งานได้คล่องตัวดี แต่บางครั้งอยากสนุกต้องปรับมา Sport Mode บ้าง ช่วยเร่งความเร็วตั้งแต่ 100 กิโลเมตรขึ้นไป คล่องตัวมากขึ้น เวลากดคันเร่งความเร็วไม่ขึ้นแบบปรู๊ดปราดมาก ไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ไหล บางคนไม่ชอบแบบนี้ แต่มันถูกออกแบบไว้ให้สมูท แม้แต่คันเร่งหนักๆ ที่กดลงไปแล้วไม่พุ่งแบบรถยุโรปที่ชอบใช้กัน (ส่วนตัวด้วยความซนชอบแบบฮอนด้าบริโอ้ด้วยซ้ำกระแทกเบาๆ รู้เรื่อง ตามเท้า อันนี้แนวเด็กน้อย) ส่วนช่วงล่างให้ความรู้สึกที่เฟิร์มมากหนึบดี โดยเฉพาะพวงมาลัยดูอัลพิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้าที่แม่นยำจนน่าชื่นชม น้ำหนักพวงมาลัยก็แปรผันตามความเร็ว คือ ขับช้าพวงมาลัยน้ำหนักเบา เช่น ในเมืองเพื่อความคล่องตัว แต่พอขับเร็วพวงมาลัยหนักขึ้น
- กำลังสอนจอดแล้วจร ระบบอัตโนมัติ จะเข้าซอง ซ้อนคัน ง่ายนิดเดียว
มาถึงเรื่องช่วงล่างพอดีทีมงานแจ้งว่าเปลี่ยนอาร์มด้านหน้า จากรุ่นก่อน A-ARM มาเป็น L-ARM จุดนี้น่าคิดเหมือนกัน เพราะแบบ L ปรกติจะใช้เหล็กที่เบา และมีขนาดเล็กกว่า และเมื่อน้ำหนักรถเปลี่ยนมาอยู่ใต้ปริง ข้อดีอย่างที่ทราบระบบช่วงล่างทำงานได้ดีขึ้น แต่ความคงทนเชื่อว่าไม่เท่าแบบ A ส่วนพอมาเป็นคนนั่งหลังรู้สึกได้ว่าถูกโยนไปมาพอควร เพราะตัวรถใหญ่เวลามีคนขับโยกพวงมาลัยไป-มา บ่อยคนนั่งก็ไหลตามจังหวะไปด้วย (ช่วงทดสอบ) แต่ถือได้ว่าฮอนด้าให้มาครบพอสมควรยิ่งได้เห็นใส่ล้อขนาด 18 นิ้ว กับยาง 235/R45 ใช่เลย! ส่วนในรุ่น VTEC TURBO จะเป็นขอบ 17 นิ้ว ซึ่งเส้นทางที่ขับทดสอบ แถวจังหวัดกระบี่ในรอบนี้รวม 80 กม. จากทั้งหมด 160 กม. ผลัดกันขับคนละครึ่งกับสื่อฯ อื่น ดูอัตราสินเปลืองบนหน้าปัดได้มาที่ 14.6 กม./ลิตร ใช้ความเร็ว 120 ตลอดเส้นทางมีกระแทกคันเร่งบ่อย
อันนี้เกือบลืม ส่วนที่ชอบสุดๆ คือระบบ “ฮอนด้า คอนเนค” รุ่นอื่นซื้อใช้ได้ 5,900 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
รถรุ่นนี้ติดตั้ง “ฮอนด้า คอนเนค” เป็นเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน ที่จะทำให้ผู้ขับขี่และรถยนต์สื่อสารกันได้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมการขับขี่แห่งอนาคตที่เทคโนโลยีจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ช่วยเตรียมความพร้อมให้รถยนต์และผู้ขับขี่ ที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นหลักทั้งการตรวจสอบและแจ้งเตือนสถานะความพร้อมของรถยนต์ การแสดงข้อมูลลักษณะการขับขี่ บันทึกเส้นทาง พิกัดรถ ความเร็ว ระยะเวลาในการขับแต่ละครั้ง และระบบติดต่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในตลอดทุกการเดินทาง ใครสนใจฟังชั่นนี้ซื้อติดได้นะเห็นว่ามีรถกว่า 10 รุ่นที่ใช้ได้ลองหาข้อมูลดู
สรุปได้ว่าจุดขายที่ทำให้คุณต้องซื้อ All New Honda Accord Hybrid TECH เพราะเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไม่ต้องสงสัย
เรื่อง ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]