HONDA : CAR OF THE YEAR 2024
Best Hybrid Eco Sedan Under 1,500 c.c.
Honda City e:HEV RS
การมาถึงของเทคโนโลยี Full Hybrid e:HEV โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เรียกได้ว่าเป็นการประกาศศักดาอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน
Thailand Car of The year 2024 ที่สามารถคว้าไปครองได้ถึง 4 รางวัล
เริ่มต้นด้วยเจ้าของรางวัล Best Hybrid Eco Sedan Under 1,500 c.c. กับ Honda City e:HEV RS ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ คือ Sedan และ Hatchback ที่เพิ่มเติมความสปอร์ตสไตล์ RS ด้วยชุดกระจังหน้าสีดำเงา เข้ากับชุดกันชนหน้า, ชุดกันชนหลัง และสเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่ พร้อมสปอยเลอร์หลังเสริมความโดดเด่นในรายละเอียดต่างๆ เช่น ชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ตามด้วยมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ, ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา, เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา และล้ออัลลอยทูโทนสไตล์สปอร์ต ขนาด 16 นิ้ว ลงตัวกับภายในห้องโดยสาร ซึ่งยกระดับสู่ความสปอร์ตพรีเมียม ด้วยวัสดุตกแต่งคอนโซลหน้า โทนสีแดงเมทัลลิก รับกับวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้ และหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งโดยด้ายสีแดง
จุดเด่นของ Honda City e:HEV RS คือศักยภาพของขุมพลัง Full Hybrid e:HEV ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว สร้างพละกำลังแรงบิดสูงสุดออกมาให้ใช้ที่253 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 0-3,000 รอบต่อนาที โดยมีระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รับหน้าที่ถ่ายทอดกำลัง
ซึ่งนอกจากสนุกเร้าใจในการขับขี่แล้ว อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงยังเป็นอีกหนึ่งความประทับใจด้วยตัวเลข 27.8 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 83 กรัม/กิโลเมตร ด้วยความชาญฉลาดของเทคโนโลยี Full Hybrid e:HEV ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมด ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมโดยอัตโนมัติ ประกอบด้วย 3 โหมด EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญ คือ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งจะทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ทำหน้าที่ตรวจจับรถยนต์, คนเดินถนน, จักรยาน และจักรยานยนต์ อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลักๆ คือ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System : CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System : LKAS), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control : ACC) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow : with LSF), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB) และใหม่ล่าสุด ระบบเตือน เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System : LCDN)
Best Hybrid Sedan Under 2,000 c.c.
Honda Civic e:HEV RS
ขยับขึ้นมาเป็นพี่คนกลาง Honda Civic e:HEV RS เจ้าของรางวัล Best Hybrid Sedan Under 2,000 c.c. มากับความสปอร์ตพรีเมียมด้วยชุดกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมสัญลักษณ์ RS รับกับชุดกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต เสริมด้วยการตกแต่งโครเมียมบริเวณชุดไฟหน้า ตลอดจนติดตั้งระบบไฟ Daytime Running Light, ไฟตัดหมอกคู่หน้า และไฟท้ายแบบ LED มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เก็บรายละเอียดความสปอร์ตเพิ่มเติมเข้าไปอีกระดับ ด้วยกระจกมองข้างสีดำ, มือจับประตูด้านนอกสีดำ ตกแต่งด้วยโครเมียม, เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ, สปอยเลอร์หลังสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ RS, ท่อไอเสีย พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว
Honda Civic e:HEV RS นำเสนอความสปอร์ตผ่านเทคโนโลยี Full Hybrid e:HEV ซึ่งใช้การทำงานของ 2 มอเตอร์ไฟฟ้า ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว สร้างสมรรถนะดุเดือด ด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 0-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVTโดยมีโหมดการขับขี่ชาญฉลาด 3 โหมด คือ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode
และ Engine Drive Mode สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการขับขี่ได้ทุกสถานการณ์ จนสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้อย่างยอดเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร และมีความรักษ์โลก ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 96 กรัม/กิโลเมตร เสริมความเร้าใจด้วยสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode สำหรับเลือกโหมดการขับขี่ตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode), การขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) หรือการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ก็ตาม
และเหนืออื่นใด คือ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน ด้วยการทำงานหลักๆ ของ ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System : CMBS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow : ACC with LSF), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System : LKAS), ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถ ออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW), ระบบปรับไฟสูง อัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB), และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System : LCDN)
Best Mid-size Hybrid Sedan Under 2,000 c.c.
Honda Accord e:HEV RS
ส่งท้ายในกลุ่มยนตรกรรมซีดาน ด้วย Honda Accord e:HEV RS ที่คว้ารางวัล Best Mid-size Hybrid Sedan Under 2,000 c.c. ไปอย่างสวยงาม ด้วยความสปอร์ตพรีเมียมเต็มพิกัด ตั้งแต่งานดีไซน์เอ็กซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ เฉพาะรุ่น กับสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย, หลังคา Sunroof ไฟฟ้าแบบพาโนรามา
ตลอดจนไฟเลี้ยวด้านหน้า และด้านหลังแบบ LED Sequential
พร้อมด้วยรายละเอียดความสปอร์ตต่างๆ เช่น ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก, กระจกมองข้างสีดำ ปรับไฟฟ้า และพับเก็บอัตโนมัติ, ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน, เสาอากาศครีบฉลามสีดำ เช่นเดียวกับสปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เพื่อตอกย้ำความสปอร์ต
อีกจุดเด่นของ Honda Accord e:HEV RS ที่คณะกรรมการต่างชื่นชม คือ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้า และเรดาร์ ในการทำหน้าที่ตรวจจับรถยนต์, รถจักรยานยนต์, จักรยาน และคนเดินถนน ผ่านฟังก์ชันการทำงานหลักๆ อาทิ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System), ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทาง
เดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam)
ทั้งยังเป็นครั้งแรกของ Honda Accord e:HEV RS ที่มากับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืน และปรับองศาของแสงไฟ เพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน ใหม่ รวมถึงระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System) พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยอื่นๆ อีกมากมาย
Honda Accord e:HEV RS เหนือชั้นด้วยการขับเคลื่อนจากระบบ Full Hybrid e:HEV ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor
Generator) และขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ E-CVT ถ่ายทอดกำลังสูงสุด เฉพาะแรงบิดอยู่ที่ 335 นิวตันเมตร นำเสนอความทรงพลังในการขับขี่ ควบคู่ไปกับอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยอดเยี่ยม ซึ่งการันตีตัวเลขเอาไว้ที่ 25 กม./ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร จาก Full Hybrid e:HEV ที่ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ (Intelligent Multi-mode drive) เช่น EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode หรือ Engine Drive Mode
โดยมีฟังก์ชัน Drive Mode ให้เลือกโหมดการขับขี่ ซึ่งประกอบด้วย Sport Mode, Normal Mode, Econ Mode และ Individual Mode ให้เลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง, พวงมาลัย, ระบบ Adaptive Cruise Control ตลอดจนสีของมาตรวัดได้ตามสไตล์ ซึ่งนั่นเป็นคุณสมบัติเหมาะสม และครบครัน กับรางวัล Best Mid-size Hybrid Sedan Under 2,000 c.c. อย่างแท้จริง
Best Mid-size Hybrid SUV
Honda CR-V e:HEV RS
สำหรับในกลุ่มของรถอเนกประสงค์ ยนตรกรรมที่โชว์ความยอดเยี่ยมจนสามารถคว้ารางวัล Best Mid-size Hybrid SUV ไปได้ คือ Honda CR-V e:HEV RS ครั้งแรกที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น ด้วยงานดีไซน์เอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบด้วย ชุดกันชนหน้าและหลัง สีเดียวกับตัวรถ ประทับสัญลักษณ์ RS บนกระจัง
เก็บรายละเอียดด้วยกระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวโทนสีดำ Piano Black, สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ และสีดำ Piano Black, เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black, ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ, คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black, ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว สไตล์สปอร์ต
ลงตัวกับภายในห้องโดยสาร ที่ตกแต่งภายในด้วยลวดลายอะลูมิเนียมปัดเงา และสีดำ Piano Black ตัดกับเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, พวงมาลัยสีดำ ตกแต่งด้วย
ด้ายสีแดง ตลอดจนแป้นคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต ตลอดจนครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม ก่อนจะเสิร์ฟความโดดเด่นแรก จนชนะใจ
คณะกรรมการ Thailand Car of The Year 2024 ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย เช่น Honda SENSING ซึ่งประกอบด้วย ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System), ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning),
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam) ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam), ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System) และระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
ต่อเนื่องที่อีกหนึ่งความโดดเด่น ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV อย่างชัดเจน คือ เทคโนโลยี Full Hybrid e:HEV ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC แบบ4 สูบ 16 วาล์ว ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) สร้างกำลังแรงบิดกว่า 335 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 0-2,000 รอบต่อนาที ผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ที่มากับโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ คือ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode เสริมด้วยโหมดขับขี่ Drive Mode Switch ให้ปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ เช่น Sport Mode, Normal Mode และ Econ Mode ซึ่งไม่เพียงมอบความสนุกเร้าใจในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันอย่างดีเยี่ยมกับตัวเลข 20.8 กม./ลิตร ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร อีกด้วย