Honda ขายรถไฟฟ้าขนาดเล็ก e ในยุโรปมาหนึ่งปีกว่าแล้วนับตั้งแต่เริ่มขายเมื่อปี 2020 ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการปรับโฉม จึงต้องมีความเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นความสนใจให้กับรถไฟฟ้ารุ่นนี้บ้าง โดยสิ่งที่ทาง Honda ทำคือมีรุ่น Limited Edition ออกมาที่ทั้งทั้งความโดดเด่นด้วยสีพิเศษและเพิ่มความสปอร์ตให้รถไฟฟ้าขนาดเล็กยิ่งขึ้น

Honda e Limited Edition มาในสีภายนอกที่แตกต่างจากรถทั่วไปอย่างชัดเจนด้วยสีแดง Premium Crystal Red พร้อมกับมีอุปกรณ์แต่งส่วนต่างๆ ของรถสีดำเงาไม่ว่าจะเป็นส่วนล่างของกันชนหน้าและกันชนหลัง หลังคารถ คิ้วประตู และกล้องที่ถ่ายทอดภาพไปยังจอในห้องโดยสารแทนกระจกมองข้างของรถ รวมไปถึงมีล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีดำ อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้ารุ่นพิเศษไม่ได้มีการแต่งเพิ่มภายในห้องโดยสาร

รถไฟฟ้ารุ่นพิเศษใช้พื้นฐานจากเกรด Advance จึงทำให้มาพร้อมกับมอเตอร์ติดตั้งที่ด้านหลังซึ่งมีกำลังมากกว่าเกรดพื้นฐานด้วยกำลังขับเคลื่อน 154 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 315 นิวตัน-เมตรเท่ากับเกรดพื้นฐาน โดยใช้เวลา 8.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรีของรถมีขนาด 35.5 kWh ให้ระยะการเดินทาง 210 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน WLTP จากสเปกของ Honda e Advance พร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว

อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มีพร้อมกับ e Limited Edition น่าจะมีตามเกรด Advance ของรถอย่างระบบละลายน้ำแข็งที่กระจกหน้า ระบบช่วยจอดรถ Honda Parking Pilot พวงมาลัยปรับความอุ่นได้ ระบบเสียงพรีเมียมพร้อมลำโพง 8 ตัว ใช้กล้องและจอแสดงภาพแทนกระจกมองหลัง โดยทาง Honda ได้นำเอาแชมป์โลกฟอร์มูลาวัน Max Verstappen มาขับ  e Limited Edition ในย่านเมืองเก่า Dozza ที่อิตาลีก่อนการแข่งอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์เพื่อช่วยโปรโมตรถด้วย

น่าจะเรียกได้ว่า Honda e Limited Edition เป็นแรร์ไอเทมสุดๆ สำหรับบรรดาแฟน Honda เพราะมีการทำออกมาขายทั่วทั้งยุโรปแค่ 50 คันเท่านั้น ส่วนราคาของรถอยู่ที่ 38,120 ปอนด์ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจาก Honda e Advance ทั่วไป 1,200 ปอนด์